
วันที่ 7 พ.ย. 68 พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทน์ สวป.สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191ว่ ามีชายเสพยาเสพติดคลุ้มคลั่งในบ้านหลังหนึ่ง ชุมชนบ้านน้อยใต้ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม จึงพร้อมชุดสายตรวจเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้แจ้งซึ่งเป็นพ่อของชายดังกล่าว และกำลังเสพยาบ้าอยู่ในห้องนอน
เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวคาของกลาง เป็นอุปกรณ์การเสพ ทราบว่าชื่อ นายสันติสุข(สงวนนามสกุล) หรือ โทน อายุ 33 ปี นำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองนครพนม
เบื้องต้นนายโทนยอมรับว่าติดยาบ้าอย่างหนัก และต้องเสพทุกวันๆ ละ 1-3 เม็ด ถ้าไม่มีเงินก็จะขอเงินจากพ่อแม่ ถ้าไม่ได้จะด่าทอ และข่มขู่ทำร้าย โดยนายโทนให้การว่า ไปซื้อยาบ้ามาจาก นางสุพัตรา (สงวนนามสกุล) หรือ ป้าแอ๊ว อายุ 54 ปี ในราคาเม็ดละ 50 บาท ชุดปฏิบัติการจึงนำกำลังไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมาย212 (ชยางกูร) แต่ไม่พบเป้าหมาย จึงวางกำลังดักซุ่มอยู่รอบๆ บ้าน
กระทั่งเวลาประมาณห้าโมงเย็น ป้าแอ๊วก็ขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจกลับเข้าบ้าน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจค้นกระเป๋าสะพายข้างที่ป้าแอ๊วสะพายอยู่ พบยาบ้า จำนวน 15 เม็ด จึงควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม
ป้าแอ๊ว เล่าว่า เสพยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 35 ปี ตอนนั้นยังอยู่กับสามี ต่อมาถูกจับกุมติดคุกอยู่ 3 ปี สามีก็ทิ้งไป อ้างว่ามีความเครียดที่ต้องหาเลี้ยงลูกชายคนเล็กเพียงลำพัง จึงหันไปเสพยาบ้าอีก โดยซื้อมา 10 เม็ดใ นราคา 400 บาท แยกขายย่อยให้คนอื่นในราคาเม็ดละ 50 บาท ได้กำไรเม็ดละ 10 บาท ลูกค้าก็มีหลายกลุ่ม ยอมรับว่าตอนเช้านายโทนมาขอซื้อยาบ้าจากตนไป 2 เม็ดจริง พอตอนบ่ายก็มีลูกค้าเป็นกลุ่มกะเทยโทรสั่งยาบ้า 10 เม็ด จึงขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่บ้าน ที่อยู่ในซอยพิทักษ์พนมนคร เขตเทศบาลเมืองนครพนม และได้มั่วสุมเสพยาบ้ากันก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดักซุ่มจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทร์ สวป.สภ.เมืองนครพนม จึงขยายผลให้ป้าแอ๊วเอเย่นต์ยาบ้ารายย่อยพาไปยังบ้านที่กล่าว อ้างพบชายจำนวน 3 คนอยู่ในบ้านที่ซอยเป็นห้องแบ่งให้เช่า มีนายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊แสบ อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ในมือยังกำถุงบรรจุยาบ้า จำนวน 8 เม็ด ส่วนอีกสองคนยังอยู่ในอาการตกใจ ทราบต่อมาว่าชื่อนายกิตติคุณ (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊ดุลยา อายุ 66 ปี และนายอภิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊ศักดิ์ อายุ 40 ปี นำตัวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีฉี่สีม่วง
เจ๊แสบเจ้าของบ้าน เล่าว่า มีอาชีพรับจ้างทำพานบายศรีตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ จึงเจอเพื่อนกะเทยรุ่นพี่ คือเจ๊ดุลยา และกะเทยรุ่นน้องอย่างเจ๊ศักดิ์ ที่มีรสนิยมเดียวกัน ตนจึงแบ่งห้องให้เช่าอยู่กันรวม 3 คน เวลามีออเดอร์เข้ามาเยอะก็เหนื่อยล้า แต่กลัวทำให้ลูกค้าไม่ทัน จึงสั่งซื้อยาบ้าจากป้าแอ๊วมาครั้งละ 10 เม็ด แบ่งกันเสพ อ้างว่าเพื่อเพิ่มพลังทำให้ทำงานไม่เหน็ดไม่เหนื่อย สามารถทำพานบายศรีส่งลูกค้าได้ตามเวลา แต่ถ้าไม่มีงานก็จะมั่วสุมกันเสพยากัน จนสภาพบ้านรกรุกรังประหนึ่งไม่มีคนอยู่
ด้านเจ๊ดุลยากระเทยรุ่นใหญ่ เล่าว่า อดีตเป็นช่างเสริมสวย ภายหลังเจอเจ๊แสบเพื่อนกะเทยรุ่นน้องชักชวนมาทำพานบายศรี ก็เลยเลิกเสริมสวย อยู่ด้วยกัน 3 คน ว่างงานก็เสพยาบ้า กระทั่งป้าแอ๊วเอเย่นต์พาตำรวจมาจับ ส่วนเจ๊ศักดิ์กะเทยที่มีอายุน้อยที่สุดได้ แต่พยักหน้าตามรุ่นพี่พูดอย่างเดียว
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพิมพ์ใบบันทึกจับกุม เจ๊ดุลยากะเทยรุ่นใหญ่เห็นตำรวจหนุ่มรูปหล่อๆ ทั้งนั้น จึงควักลิปสติกมาทาปาก ก่อนจะส่งให้เพื่อนๆ ทาด้วย พร้อมกับบอกว่าติดคุกทั้งที ขอสวยไว้ก่อน เผื่อน้องตำรวจจะเห็นใจลดโทษให้
โดยข้อกล่าวหาผู้ต้องหา 5 คนว่ากระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ส่วนป้าแอ๊ว กับเจ๊แสบ เพิ่มข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตควบคุมตัว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement