ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.53 น. วันที่ 7 ต.ค. 68 พ.ต.อ.วฤทธิ์ เจ๊ะโด ผกก.สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ต.เขาตูม อ.ยะรัง จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบทันที โดยที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด เศษชิ้นส่วนระเบิด และชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มกระจายทั่วพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณเพื่อความปลอดภัย และจะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงเช้า
ต่อมาเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการวางระเบิดซ้ำ พร้อมทั้งชุดพิสูจน์หลักฐานเก็บชิ้นส่วนระเบิด กล้องวงจรปิด และสอบถามพยานในพื้นที่ เบื้องต้นพบว่า ระเบิดที่ใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ตั้งเวลาไว้ แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด
จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายจำนวน 4 คน พร้อมอาวุธปืนสงคราม สวมชุดดำปกปิดใบหน้า มาจากเนินเขาหลังมหาวิทยาลัยฟาฏอนี โดยแบ่งหน้าที่กัน ได้เข้าไปจับยามหาวิทยาลัย 2 คน มัดมือไขว้หลัง และอีกกลุ่มติดตั้งวัตถุระเบิดที่ตู้เอทีเอ็ม พร้อมทำหน้าที่คุ้มกัน ก่อนจะจุดระเบิด จากนั้นพยายามงัดตู้เอทีเอ็ม เพื่อหวังนำเงินสดไป แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากกล่องเก็บเงินไม่ได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทางเดิม เหตุการณ์ครั้งนี้คนร้ายยังได้ยึดอาวุธปืนลูกซอง 2 กระบอกของยามไปด้วย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่า เหตุการณ์นี้เป็นความพยายามก่อเหตุไม่สงบ เพื่อหวังเงินไปใช้สนับสนุนกลุ่มขบวนการ ลักษณะคล้ายเหตุปล้นร้านทองที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเหตุการณ์ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามฯ สาขาปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดดูแลพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ และสถานที่ราชการใน อ.ยะรัง และรอยต่อ จ.ปัตตานี-ยะลา พร้อมเร่งติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
Advertisement