จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายวางแผนเป็นขบวนการ บุกปล้นร้านทองกลางห้างดัง พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กวาดทองเกลี้ยง พร้อมยิงปะทะตำรวจ ก่อนขึ้นรถกระบะหลบหนี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ต.ค. 68 พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผบก.สส.จชต. พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เจษฎาวิทย์ อินทร์ประพันธ์ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางมายังห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก เพื่อติดตามความคืบหน้า เหตุคนร้ายแต่งกายชุดดำพร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกปล้นทองรูปพรรณร้าน
เหตุเกิดเมื่อเวลา18.30 น.ของวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง ส.อ.บุริศวร์ ระดาชัย นายสิบอาวุธเบาชุดรบพิเศษที่ 408 ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป
เมื่อถึงเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ได้เรียก รปภ.ของห้างทั้งหมดที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ในช่วงคนร้ายก่อเหตุ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุร้านทอง โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมลายนิ้วมือแฝงของกลุ่มคนร้าย ที่ติดตามบริเวณตู้กระจกของตู้โชว์ทองรูปพรรณ รวมทั้งได้เก็บรวบรวมกล้องวจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณที่ต่างๆ ภายในห้าง
โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบจาก น.ส.อรุณ ผู้จัดการภาคของร้านทองดังกล่าวว่า ทองรูปพรรณที่ตู้โชว์ไว้ในร้านเบื้องต้นมีประมาณ 800 บาท คาดว่าคนร้ายปล้นไปได้ประมาณ 600 บาท มีมูลค่า 35,670,000 บาท ซึ่งจะมีการตรวจสอบบัญชีควบคุมอีกครั้งหนึ่งว่าทองรูปพรรณ คนร้ายได้ไปทั้งหมดกี่บาท
ด้าน พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า คาดว่ากลุ่มคนร้ายทั้งหมดได้มีการประชุมวางแผนไว้เป็นอย่างดี โดยประเมินว่าคนร้ายได้แยกกันทำงานออกเป็น 3 กลุ่มๆ ที่ 1. ทำหน้าที่ปล้นรถกระบะของชาวบ้าน 2 คัน มาใช้ก่อเหตุ มีจำนวน 5 คน กลุ่มที่ 2. ทำหน้าที่บุกปล้นทองที่ห้าง ดูจากกล้อวงจรปิดมี จำนวน 10 คน ส่วนกลุ่มที่ 3. ทำหน้าที่วางระเบิด มีจำนวนประมาณ 5 คน ซึ่งการปฏิบัติการอุกอาจของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ คาดว่าที่จำนวน 19-20 คน ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่บุกปล้นทอง คาดว่าจะหลบหนีไปเส้นทางสายสากอ- แว้ง ที่สามารถอาศัยช่องทางธรรมชาติหลบหนีไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามเส้นทางดังกล่าวในการแกะรอย
นอกจากนี้จากการตระเวนตรวจสอบเสียงระเบิดที่ดังขึ้น 2 ครั้ง ในขณะที่กลุ่มคนร้ายหลบหนีนั้น พบเสียงระเบิดลูกที่1 คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าส่องสว่างที่ติดตั้งไว้บริเวณเกาะกลางถนน เส้นทางสุไหงโก-ลก - สุไหงงปาดี ช่วงบริเวณบ้านโคกสยา ม.5 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งห่างจากห้าง ประมาณ 4 -5 กม. โดยเสาไฟฟ้าโคนล้มขว้างถนน ส่วนเสียงระเบิดลูกที่ 2 เกิดขึ้นที่ซอยชุมชนโต๊ะลือเบ ซอย 6 โดยคนร้ายนำระเบิดไปวางไว้ที่เสาปูนซิเมนต์กั้นทางรถไฟ ทำให้เสาปูนซิเมนต์ได้รับความเสียหาย 1 ต้น ซึ่งจุดนี้ห่างจากห้าง ประมาณ 1 กม. แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังตรวจสอบพบรถยนต์ของชาวบ้านถูกตะปูเรือใบจำนวนหลายคัน จอดห่างจากห้างประมาณ 300 เมตร เพื่อรอให้ช่างมาซ่อมบำรุงความเสียหายให้กลับคืนมาใช้ตามปกติ
และล่าสุดได้รับแจ้งจาก ร้อย ปชด.ที่ 4 พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุปล้นร้านทองในห้าง คือ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ทะเบียน บท 7187 ปัตตานี และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ ทะเบียน บค 6521 นราธิวาส ซึ่งจอดทิ้งไว้ที่ภายในสวนปาล์มบ้านตอออ ม.1 ต.กายูคละ อ.แว้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอสนับสนุนชุด อีโอดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจสอบว่าคนร้ายได้วางงแผนลอบวางระเบิดทิ้งไว้ภายในรถยนต์กระบะทั้ง 2 คันหรือไม่ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงที่ติดไว้ตามบริเวณต่างๆ ของรถกระบะทั้ง 2 คันหรือไม่อย่างไร
ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
Advertisement