จากเหตุการณ์คนร้าย ไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปีนัง (อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) ขณะเดินทางกลับจากร่วมงานเมาลิดในหมู่บ้าน จอดรถยนต์กระบะ เตรียมเข้าบ้านพักของตนเอง ในพื้นที่ หมู่ที่ 8 บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.68 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ 23 กันยายน 2568 พ.ต.อ.ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ ผกก.สภ.กรงปินัง พร้อมด้วย นายวสันต์ บรรจงช่วย ปลัดอำเภอกรงปินัง ผู้ดูแลประจำตำบลกรงปีนัง เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ นปพ.ยะลา 13 เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 รุดเข้าตรวจสอบที่เกิด พร้อมทั้งได้ปิดกั้นพื้นที่ เพื่อไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไป
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของผู้ตาย พื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านลือมุ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ห่างจากถนนเส้นทางหลวง สาย 410 (ยะลา-เบตง) ประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่เร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดโดยละเอียด พร้อมทั้งพยานแวดล้อมทั้งหมด เพื่อทำการตรวจสอบหลักนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ตั้งปมก่อเหตุการณ์ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้ให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ลอบยิงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.22 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 15 นัด จึงได้โทรศัพท์สอบถามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เข้าเวรในคืนนั้น เมื่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพยายามโทรศัพท์หาผู้ตาย ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ด้วยกัน แต่ก็ไม่มีผู้รับสาย
จากนั้นไม่นานภรรยาของผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมแจ้งข่าวว่าสามีถูกยิง ตนจึงรีบประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและโทรแจ้งนายอำเภอเพื่อดำเนินการทันที เมื่อเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว และในเวลาต่อมา นายอภิชาต ศรีสุวรรณ์ นายอำเภอกรงปินัง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบร่องรอยกระสุนในตัวผู้ตาย พบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด
นอกจากนี้นายอาดือนัน ยังกล่าวถึงผู้เสียชีวิตว่า เป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับคนในหมู่บ้าน และมักจะช่วยเหลือชุมชนอยู่เสมอ ผู้เสียชีวิตเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมานานกว่า 15 ปี ก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งในคืนเกิดเหตุ ผู้ตายเพิ่งเดินทางกลับจากงานเมาลิดที่จัดขึ้นโดย อบต. ที่มัสยิด และยังได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาต้านภัยยาเสพติดของเยาวชนในตำบลเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ส่วนศพของผู้ตายจะมีการประกอบพิธีละหมาดในพื้นที่มัสยิดบ้านยาเเม๊ะบ้านลือมุ พร้อมทั้งการประกอบพิธีฝัง ตามหลักศาสนาต่อไป
Advertisement