วันที่ 12 ก.ย.68 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนในคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดยระบุว่า ขณะนี้การดำเนินงานของคณะพนักงานสอบสวนคืบหน้าไปแล้วกว่า 90%
ล่าสุด คุณแม่ของแตงโม ในฐานะโจทก์ร่วม ได้ยื่นเอกสารสำคัญที่ขอคัดจากศาลจังหวัดนนทบุรี ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีนาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และภาคประชาชนเข้าร่วมสนับสนุน เพื่อประกอบการตรวจสอบ และใช้ในกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ส่งมอบภาพถ่ายสำคัญจำนวน 4 ภาพ ให้สถาบันนิติเวชวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่า มีการตัดต่อ แก้ไข หรือมีการดัดแปลงใดๆ หรือไม่ โดยภาพดังกล่าวได้มาจากพยานและภาคประชาชน หากผลการตรวจสอบชัดเจน จะนำมาใช้เทียบเคียงกับคำให้การที่มีอยู่ในสำนวน
สำหรับขั้นตอนถัดไป พนักงานสอบสวนจะทำการวิเคราะห์เอกสารที่ได้รับจากคุณแม่แตงโม และข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะลงพื้นที่อีกครั้งในช่วงต้นเดือน ต.ค หลังจากตนเดินทางกลับจากภารกิจต่างประเทศ เพื่อประชุมวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลกับคำให้การพยานที่มีอยู่
ด้านหลักฐานดิจิทัลจากโทรศัพท์มือถือของแตงโม เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลบางส่วนแล้ว และได้ส่งต่อให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคำให้การพยานกว่า 52 ปาก โดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งและเส้นทางการเคลื่อนไหวในช่วงเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเป็นข้อมูลสำคัญในการยืนยันข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความชัดเจนหรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในคดี พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากอาจกระทบต่อการทำคดี แต่ยืนยันว่าหากพบการเกี่ยวข้องจริง จะสามารถส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการได้ทันที
ทั้งนี้คณะทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทางน้ำแล้ว 2 ครั้ง รวมถึงใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ใต้น้ำ เพื่อเก็บข้อมูลประกอบคดี โดยกำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับพยานหลักฐานอื่นๆ ว่ามีความสอดคล้องหรือขัดแย้งอย่างไร
“การสืบสวนตอนนี้คืบหน้าไปมาก เหลือเพียงการตรวจสอบพยานหลักฐานบางส่วนและการวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์ หากเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว เราจะมีการแถลงข่าวความเห็นทางคดีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” พ.ต.ต.ณฐพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในสำนวนราว 90% ถือว่าใกล้เสร็จสิ้น แต่รายละเอียดต้องขอสงวนไว้เป็นความลับของคดี เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง โดยยังต้องสอบปากคำพยานและตรวจสอบหลักฐานอีกระยะหนึ่ง ก่อนจะสรุปและเสนอความเห็นอย่างเป็นทางการต่อไป
Advertisement