กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.สุรศักดิ์มนตรี) หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) โดยกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย.ฉก.ตชด.237) พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.ต.ท.บัญชา สมัครรัฐกิจ รองผกก.ตชด.23 และ พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อยตชด.ที่ 237 ได้เปิดปฏิบัติการ "NoDrugsNoDealers" (ไม่มียาเสพติดไม่มีผู้ค้า) รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงได้จัดกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ วางแผนเพื่อทำการจับกุมลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว โดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทางแต่งกายนอกเครื่องแบบให้กลมกลืนกับพื้นที่ และวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทาง
ต่อมาวานนี้ (27 ส.ค. 2568) เวลาประมาณ 14.00 น. ชุดปฏิบัติการนำโดย ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน ได้ตรวจพบรถกระบะแค็ปยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นไททันสีเทา ทะเบียนเลย ขับขี่อยู่ถนนลาดยางซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ อบจ.นครพนม ที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน เส้นทางบ้านนาเรียง ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม - บ้านม่วงชี ต.โพนทอง อ.บ้านแพง โดยมุ่งหน้าไปทางบ้านม่วงชี หมู่ 1 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ แต่คนที่อยู่ในรถกระบะไททัน นอกจากไม่ยอมหยุดรถให้แล้วยังใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงสวนออกมา โชคดีที่กระสุนไม่ถูกใครและคนร้ายพยายามขับรถยนต์แหวกฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่หลบหนี ในเมื่อผู้ต้องสงสัยใช้ความรุนแรงชุดปฏิบัติการจึงมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้ตามยุทธวิธี ทีม ตชด. นายหนึ่งตัดสินใจขับรถกระบะโตโยต้าพุ่งชนรถยนต์ไททันของคนร้าย เป็นการเข้าสกัดหยุดรถยนต์เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จนสามารถหยุดรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้
ปรากฏว่ามีชายที่อยู่ในรถจำนวน 2 คน เห็นว่ารถยนต์ไปต่อไม่ได้ต่างเปิดประตูรถวิ่งออกมาเพื่อหลบหนีการจับกุม ซึ่งการไล่กวดจับเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะคนร้ายมีอาวุธปืน อาจยิงสวนขณะวิ่งไล่ก็เป็นได้ก่อนจะตะครุบตัวเอาไว้ได้
ทราบชื่อผู้ต้องหา คือ นายนิรัตินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เป็นคนขับ และ นายรุ้งฟ้า (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นคนที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจค้นโดย ทั้งคู่เป็นชาว อ.เซกา จ.บึงกาฬ
ผลการตรวจค้นรถยนต์พบยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) จำนวน 50 มัด ประมาณ 100,000 เม็ด วางอยู่ในเบาะแค็ป โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ส่วนอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ SIGsauer รุ่น P365 รวมถึงกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด อยู่ที่ตัว นายรุ้งฟ้า จึงนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ กองร้อยตชด.237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
นายรุ้งฟ้า ผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนด้วยเงิน 5 หมื่นบาท จึงชักชวนนายนิรัตินัยที่ตนเลี้ยงด้วยยาบ้าให้เสพ ทำหน้าที่ขับรถกระบะไททันมารับยาบ้าในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม และเพื่ออำพรางไม่ให้เป็นที่สงสัย จึงใช้ถนนสายรองเส้นเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านแล่นเลาะขอบเทือกเขาภูลังกา เพื่อจะขึ้นสู่ถนนสายหลัก คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) ที่บ้านม่วงชี ต.โพนทอง อ.บ้านแพง โดยนัดเจอกันอยู่ที่ จ.สกลนคร แต่ไม่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะจับทางถูกจึงถูกไล่สกัดจับกุมได้ดังกล่าว
ทั้งนี้จากแฟ้มประวัติอาชญากรรมพบ นายนิรัตินัย มีประวัติเสพยาเสพติด(ยาบ้า) ส่วนนายรุ้งฟ้าเคยต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติดรวมทั้งเสพด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นฉี่สีม่วงทั้งคู่
จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและประชาชนทั่วไป โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดย นายนิรัตินัย ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ข้อหาเพิ่มว่า มีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกายขณะขับขี่และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมพกพาอาวุธปืนเข้าไปในตัวเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต และร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement