ความคืบหน้าคดีเผาเด็กทารกแรกเกิดในเตาเผาถ่านกลางไร่อ้อยของชาวบ้านหินฮาว หมู่ 4 ตำบลโนนฆ้อง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา และต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นร่วมกับชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง ตามแกะรอยจับกุมนายพงศธร อายุ 30 ปี ที่อยู่ 150 หมู่ 4 ตำบลโนนอุดม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และ น.ส.ปนัดดา อายุ 34 ปีพ่อและแม่ของทารกที่เสียชีวิตได้ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ( 20 ส.ค.2568 )
โดยช่วงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น น.ส.ปนัดดา แม่ของทารกเกิดความเครียด และเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถไปทำแผนร่วมกับนายพงศธรได้
ล่าสุดเมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 21 ส.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ได้นำตัว น.ส.ปนัดดา แม่ของทารกที่เสียชีวิตมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุตรงเตาเผาถ่าน โดยมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านฝางประคองหิ้วปีกผู้ก่อเหตุจนเสร็จสิ้นการทำแผนทุกจุด เนื่องจากยังอยู่ในอาการที่เหนื่อยล้าหน้าซีดจากความเครียดและจากการเสียเลือดหลังคลอดบุตร ต้องใช้ทีมแพทย์ดูแลและใช้ยาดมช่วย
โดยจุดแรกนั้นเป็นจุดที่ทั้งคู่นำศพลูกชายแรกเกิดที่ห่อถุงดำใส่ตะกร้าสีชมพูมาเผาในเตาเผาถ่าน ซึ่งให้การตรงกับสามี ที่พอมาถึงได้ใช้ผ้าชุบน้ำมันจากรถจักรยานยนต์ตัวเองเป็นตัวจุดไฟใส่ท่อนฟืนที่หาจากรอบๆเตา และนำสังกะสีจากเพิงหลังคาด้านบนเตามาปิดและรอให้ไฟลุกไหม้ประมาณ 30 นาที
ซึ่งภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดแรกนี้เสร็จ น.ส.ปนัดดา ได้นั่งลงและประนมมือบอกกล่าวกับลูกในใจพร้อมกับร้องไห้ออกมา ก่อนจะเดินไปขึ้นรถตู้ตำรวจเพื่อไปยังจุดที่สอง
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุ น.ส.ปนัดดา บอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองไม่มีทางออกมันตันไปหมด จึงตัดสินใจทำแบบนี้ ตนเองไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ไม่มีเงิน ไม่มีญาติพี่น้อง ทั้งตนเองและแฟนไม่มีใครคอยซัพพอร์ต จึงไม่รู้ว่าจะไปยังไง พอเห็นข่าวตัวเองก็รู้สึกสำนึกผิด แต่ทำไปแล้วมันเอาคืนไม่ได้ ซึ่งเก็บไปคิดอยู่ทุกวัน
ตอนที่ตัดสินใจเอาผ้าปิดหน้าลูกนั้นตนเองเครียดหาทางออกไม่ได้ไม่รู้จะทำยังไง หลังจากคลอดลูกออกมาในห้องตนเองไม่ได้จับลูกฟาด แต่เป็นการนำผ้ามาปิดหน้าปิดจมูกลูกเอาไว้ ตอนที่ปิดหน้าลูกนั้นได้ยินเสียงลูกร้องครั้งเดียว ก่อนที่ตนเองจะสลบไปและตื่นมาก็พบว่าลูกตายแล้ว
และในจุดที่สองนั้น น.ส.ปนัดดาให้การตรงกันกับสามี คือหลังจากเผาลูกในเตาถ่านแล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาเจ้าของเตาเผาถ่านเพื่อนั่งเล่น นอนเล่นตามปกติที่เคยมาหา โดยไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับซื้อส้มตำและลูกชิ้นทอดมานั่งกิน กระทั่งช่วงหัวค่ำได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์กลับห้องพักในแมนชั่นในเมืองขอนแก่น ก่อนจะเห็นข่าววันต่อมาและพากันหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป กระทั่งตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ น.ส.ปนัดดาเสร็จ ทางตำรวจได้ควบคุมตัวกลับ สภ.บ้านฝาง ก่อนเตรียมคุมตัวทั้งคู่ส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายตามขั้นตอนต่อไป
Advertisement