อาชญากรเปโด ซ่อนอยู่ในบ้าน : ตีแผ่ "ด้านมืด ในครอบครัว" กลุ่มลับจุดต่ำของมนุษย์ สัญญาณผิดปกติของคนในครอบครัวควรจับตามอง พบเห็นการละเมิดเด็ก แจ้งหน่วยงานไหนได้บ้าง
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็ว ปัญหาการละเมิดเด็กไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในสังคมภายนอกอีกต่อไป แต่กลับซ่อนอยู่ใกล้ตัวมากที่สุด "ภายในครอบครัว"
ขณะนี้สื่อมวลชนค้นเจอความจริงอันน่าตกใจและสะเทือนใจ กรณีกลุ่มลับเฟซบุ๊ก "ด้านมืด ในครอบครัว" ที่สร้างขึ้นโดยผู้ใหญ่บางคนเพื่อแลกเปลี่ยนภาพถ่ายหรือข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก โดยอ้างว่าเด็กเหล่านั้นคือ ลูก-หลานของตนเอง เกือบจะทั้งหมดเป็นการแอบถ่ายเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต และโพสต์ลงในกลุ่มเฉพาะที่เข้าถึงได้โดยคนที่มีเจตนาไม่ดี ซ้ำยังมีการแลกเปลี่ยนถ้อยคำที่บ่งบอกถึงการล่วงละเมิด หรือแม้กระทั่งปรึกษาแผนการเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศต่อเด็ก
สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องผิดกฎหมายเท่านั้น แต่เป็น ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมและความเป็นมนุษย์ ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวมากกว่าที่ใครคาดคิด
"บ้าน" ซึ่งควรเป็นที่ปลอดภัยที่สุดกลับกลายเป็นที่ซ่อนตัวของ "อาชญากรเปโด" และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการรวมกลุ่มรวมตัวเพื่อก่ออาชญากรรม
• การละเมิดทางเพศออนไลน์ : รายงาน "Disrupting Harm in Thailand" ที่เผยแพร่โดย UNICEF, ECPAT และ INTERPOL ในปี 2022 ระบุว่าในปี 2021 เด็กอายุ 12–17 ปีในประเทศไทยประมาณ 400,000 คน หรือร้อยละ 9 ของเด็กในกลุ่มอายุนี้ ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดทางเพศออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการบังคับให้ถ่ายภาพอนาจาร การแชร์ภาพอนาจารโดยไม่ได้รับอนุญาต และการบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์
• การละเมิดในครอบครัว : การสำรวจระดับชาติในประเทศไทยพบว่า การละเมิดเด็กและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาที่รายงานได้ยาก เนื่องจากมักเกิดขึ้นภายในครอบครัวและมีความอับอาย ทำให้มีการรายงานน้อยและยากต่อการเข้าถึงข้อมูล
• พฤติกรรมลับๆ ของผู้ใหญ่ที่มีความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับเด็กเกินเหตุ
• สังเกตพฤติกรรมของลูกหลาน ซึมลงหรือมีอาการหวาดผวาต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งในครอบครัวหรือไม่
• การแลกเปลี่ยนภาพหรือเรื่องราวของเด็กในกลุ่มเฉพาะโดยไม่ได้รับอนุญาต
• การใช้ถ้อยคำที่บ่งบอกถึงความไม่เหมาะสม หรือมีการปรึกษาเรื่องล่วงละเมิด
1. สร้างความตระหนักในครอบครัว : พูดคุยกับเด็กและเยาวชนถึงความปลอดภัยในโลกออนไลน์ และความสำคัญของการไม่เปิดเผยข้อมูลหรือภาพส่วนตัว รวมถึงให้ความรู้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สิทธิในร่างกายของตนเอง
2. ติดตามกิจกรรมออนไลน์ : ผู้ปกครองควรตรวจสอบแอปพลิเคชันหรือกลุ่มออนไลน์ที่ลูกหลานมีส่วนร่วม
3. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : หากพบพฤติกรรมหรือกลุ่มที่มีการล่วงละเมิดเด็ก ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสายด่วนป้องกันอาชญากรรมเด็กทันที
4. สร้างสังคมออนไลน์ปลอดภัย : สื่อสังคมควรมีมาตรการป้องกันและตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเด็กอย่างเข้มงวด
• สายด่วน 1300 : ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการแจ้งปัญหาสังคม รวมถึงการละเมิดเด็กและเยาวชน
• Childline Thailand สายด่วน 1387 : มูลนิธิที่ให้บริการสายด่วนสำหรับเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิด ให้คำปรึกษาและเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• กรมกิจการเด็กและเยาวชน (DCY) : หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบด้านการคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้บริการที่พักพิงและการสนับสนุนทางจิตใจแก่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อ
• มูลนิธิ ECPAT : องค์กรที่ทำงานด้านการป้องกันและต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยเฉพาะในบริบทของการท่องเที่ยวและการเดินทาง
ในอดีตกระทั่งปัจจุบันไปถึงอนาคต เด็กไม่ได้เป็นเพียงวัตถุรองรับรสนิยมวิปริตหรือความต้องการของผู้ใหญ่ใดๆ
พวกเขาเป็นบุคคลที่มีสิทธิ์ มีความฝัน และสมควรได้รับการปกป้องจากทุกการละเมิด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในบ้านหรือในโลกออนไลน์ ความปลอดภัยของเด็กเป็นหน้าที่ร่วมกันของครอบครัว ชุมชน และสังคม
การเพิกเฉยต่อความเสื่อมทรามเช่นนี้ไม่ได้เพียงทำร้ายเด็ก แต่ยังทำลายอนาคตของสังคมทั้งมวล
เราต้องตระหนักและปกป้องพวกเขาอย่างจริงจัง การกระทำใดที่ละเมิดสิทธิและร่างกายของเด็ก ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ การสร้างสังคมที่เด็กสามารถเติบโตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นการยืนยันถึงความเป็นมนุษย์ของเราเอง
Advertisement