วันที่ 16 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จำนวน 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเพิ่งถูกฝังโดยฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ เพื่อชี้ให้ประชาคมโลกได้เห็นความจริง ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และชี้แจงข้อมูล และเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยว่า กัมพูชาจงใจละเมิดอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา โดยเมื่อคณะฯเดินทางมาถึงได้มีการพบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากการเหยียบทุ่นระเบิด ก่อนเข้าห้องประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุป
ขณะเดียวกันนางพิศมัย อังคณา มาพร้อมแฟนคือ มิสเตอร์รูจ ชาวเนเธอร์แลนด์ เพื่อรอพบกับทูตประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เดินทางมาในวันนี้ พร้อมเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับทูตฟัง ซึ่งเจ้าตัวและมิสเตอร์รูจย้ายมาอยู่ประเทศไทยได้เป็นเวลา 2 ปีกว่า และเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย–กัมพูชาตั้งแต่วันแรกทั้งคู่ก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย และต่างหนีตายจากกระสุนปืนใหญ่ที่ทางทหารกัมพูชายิงมาใส่ฝั่งไทยในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จึงเดินทางมาดักรอพบทูตในวันนี้ เพื่อเล่าความจริงที่เจ้าตัวได้พบเจอให้ฟัง
นางพิศมัย เปิดเผยว่า ตนได้ทราบข่าวมาว่าท่านทูตเนเธอร์แลนด์จะเดินทางลงมายัง จ.ศรีสะเกษ ตนจึงได้ปรึกษาแฟนว่าสามารถมาได้ไหม และแฟนตกลงว่าจะมา ซึ่งตนกับแฟนได้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า และต้องมาเจอกับเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 ต้องหนีระเบิดหัวซุกหัวซุน โดยที่เดินทางมาในวันนี้ตั้งใจมาบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ตนเจอเอง และชาวไทยที่ต้องเจอเหตุการณ์ที่กัมพูชากระทำต่อประเทศไทย และอยากให้ท่านทูตทราบว่ามีประชากรตัวเองอยู่ในประเทศไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า หลังจากประชุมเสร็จนางพิศมัยก็ได้พบกับทูตประจำชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถึงแม้จะเป็นระยะเวลาอันสั้น แต่ทางทูตก็ได้ส่งยิ้มและโบกมือทักทาย
Advertisement