(7 ส.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้นำตัว นายวิน ดา อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในความผิดเบื้องต้นคดี พรบ.อาวุธปืนและเข้าเมืองผิดกฎหมาย
หลังจากตำรวจ สภ.ลำดวน ได้เข้าควบคุมตัว นายวิน ได้ที่บ้านพัก หมู่ที่ 9 ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ (5 ส.ค. 2568) ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.จอย (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ภรรยาของ นายวิน ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ปี 2 เดือน เนื่องจากตรวจสอบก่อนหน้านี้พบเป็นชาวต่างชาติจะต้องมีการตรวจสอบตามคำสั่งของหน่วยความมั่นคง
แต่ปรากฏว่า จากการตรวจค้นภายในบ้านพบ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และชุดทหารเขมรยศร้อยเอกและติดตราสัญลักษณ์ BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซนอีกหลายชุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมาแฝงตัวเป็นสายลับ แอบส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา นำมาสู่การสอบสวนเพิ่มเติมกับหน่วยงานอีกหลายฝ่าย ทั้ง กองทัพภาคที่ 2 หน่วยความมั่นคง และตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ถึงแม้ นายวิน จะปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นสายลับ ยอมรับเพียงว่าเคยเป็นทหารมาได้ 9 เดือน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่าง ทั้งการโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่เชียร์การทำงานของฮุนเซน ทั้งพบมีโทรศัพท์มีข้อมูลรวม 3 เครื่อง และยังพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อในประเทศไทยประกอบด้วย
จนกระทั่งต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากหลักฐานที่พบมีความเป็นไปได้ว่ามีการเชื่อมโยงกัน แต่จะต้องไปสอบอย่างละเอียดเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจะต้องใช้เวลา ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ หากพบเป็นจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเมืองไทยต่อไป
ล่าสุด นางจรีรัตน์ พิรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 บ้านโคกสูง ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง เล่าว่า นายวินเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ทำงานอะไร เท่าที่เห็นนายวินเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับวัยรุ่นในหมู่บ้านได้ดี และร่วมเล่นกีฬากับเยาวชนจนชนะมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่คิดอะไรเพราะเป็นคนมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน พอทราบข่าวยอมรับว่าตกใจ ลึกๆ เชื่อว่าน่าจะเป็นสายลับจริง
นางจรีรัตน์ กล่าวด้วยว่าสำหรับ น.ส.จอย เคยไปทำงานอยู่พัทยากลับบ้านบ้างเป็นบางครั้ง ต่อมามีแฟนเป็นฝรั่งจนได้สร้างบ้านแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งเห็นนายวินเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยจนมีลูกด้วยกัน 1 คน สาเหตุที่ทั้งสองคนไม่ได้ทำงานและมีเงินใช้ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเป็นเงินที่ฝรั่งส่งมาให้ทุกเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ตำรวจเข้าจับกุมวันแรก น.ส.จอย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ พอมาเป็นข่าวได้เข้ามายอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าจะขอปิดใบหน้าทั้งหมด และไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะกลัวว่าสามีฝรั่งจะรู้เรื่อง
Advertisement