วันที่ 30 ก.ค.2568 ความคืบหน้ากรณี 2 สาวชาวกัมพูชาได้โพสต์คลิปที่กำลังนำนิ้วกลางชูจิ้มใส่ธงชาติไทย พร้อมเต้นโชว์ จากนั้นนำธงชาติวางลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ-กระทืบซ้ำพร้อมระบุข้อความไซต์งาน จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางมีผู้แสดงความเห็นจำนวนมากและคาดการณ์ว่าสถานที่ในภาพ น่าจะเป็นโรงงานจีนที่นิคมบ่อทอง33 อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตามรายละเอียดที่นำเสนอก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดช่วงกลางดึกที่ผ่านมาพล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นภาพที่มีลักษณะไม่เหมาะสม หญิงต่างด้าวเต้นกระโดดเหยียบธงชาติไทย
โดยตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบเหตุตามเพจดังกล่าวสรุปได้ดังนี้ ได้ตรวจสอบทุกนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบปรากฏว่าไม่พบ บริษัทจีนที่รับงานก่อสร้างที่ใช้ชื่อ"NT2CGROUP" หรือตึกก่อสร้างที่มีลักษณะตามภาพในชั้นนี้ ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เกี่ยวกับบริษัทดังกล่าวว่าอยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีหรือไม่
มีบางบริษัทรับเหมาก่อสร้างใช้เสื้อกั๊กสีเขียวมีลักษณะคล้ายแต่ตัวอักษรจีนและชื่อบริษัทรับเหมาเป็นคนละบริษัทพบภาพหญิงต่างด้าวคนเดียวกันสวมเสื้อกั๊กสีเขียวและหมวกก่อสร้างโดยมีข้อความในภาพสื่อความหมายปี2016-2022:ปี2023-2025:กัมพูชาอาจเป็นการสื่อความหมายถึงช่วงปีที่ทำงานในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา
การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการเหยียดหยามธงชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทนความเป็นไทยเอกราชและเกียรติภูมิของประเทศ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา118บัญญัติถึงการกระทำใดๆต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นอันอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นจึงได้มอบหมายพนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่การเคารพธงชาติเป็นหน้าที่ของพลเมืองในชาติและถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานซึ่งจะไม่มีคนไทยคนใดกระทำการเหยียดหยามธงชาติของประเทศอื่นโดยในวันที่ 30 ก.ค.68 ได้สั่งการให้ตรวจสอบทุกจุดเอาให้ชัวร์ว่ามีอยู่ในปราจีนหรือไม่
ด้านนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีคำสั่งการแจ้งหัวหน้าส่วนราชการ-นายจ้าง/สถานประกอบการเรื่องเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาระบุในคำสั่งว่า...สืบเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาส่งผลให้มีบุคคลบางกลุ่มไปยั่วยุให้เกิดการเกลียดชังและเกิดการทำร้ายร่างกายแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย
เพื่อป้องกันในให้เกิดปัญหาดังกล่าวในจังหวัดปราจีนบุรี จึงขอให้ท่านชี้แจงให้แรงงานชาวกัมพูชาทราบว่ากระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายให้เลิกจ้างแรงงานกัมพูชาสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ให้ทำงานสถานประกอบการงดเว้นการรวมกลุ่มและออกไปนอกที่พักในเวลากลางคืนในช่วงเวลาดังกล่าวนี้และดูแลช่วยเหลือลูกจ้างกัมพูชาตามความเหมาะสมหากมีเหตุการณ์รวมกลุ่มของลูกจ้างท่านสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบหรือแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี
พร้อมแจ้งถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี สืบเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาส่งผลให้มีบุคคลบางกลุ่มไปยั่วยุให้เกิดการเกลียดชังและเกิดการทำร้ายร่างกายแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและป้องกันการรวมกลุ่มชุมนุมประท้วงหรือก่อเหตุรุนแรงของแรงงานกัมพูชาที่อยู่หรือทำงานในจังหวัดปราจีนบุรีขอให้ท่านแจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาติดตามความเคลื่อนไหวและเฝ้าระวังการก่อเหตุของแรงงานกัมพูชาอย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถเข้าคลีคลายสถานการณ์และยุติปัญหาได้ทันเวลา
Advertisement