เหตุการณ์รถบรรทุก 4 ล้อใหญ่ สีขาวแบบตู้ทึบ ถูกรถยนต์สายตรวจอย่างน้อย 3 สถานี ไล่ล่าบนถนนสายพรหมคีรี-นครศรีธรรมราช ช่วงทางเข้าบ้านเขาปูน ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี และมีการไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง มาตามเส้นทางมุ่งหน้า สู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชอีกหลายกิโลเมตร ก่อนเจ้าหน้ที่ตัดสินใจยิงล้อหลังซ้าย สกัดจนยางระเบิดไม่สามารถไปต่อได้สิ้นฤทธิ์บริเวณหน้าเทศบาลตำบลท่างิ้ว อำเภอเมืองนครสรีธรรมราช เจ้าหน้าที่เข้าคุมตัวยังอยู่ในสภาพมึนๆพูดจาไม่รู้เรื่องจากนั้นจึงคุมตัวสวมเครื่องพันธนาการ ท่ามกลางความโล่งใจของผู้ใช้รถใช้ถนน
หลังจากคุมตัวให้ตั้งสติพบว่ายังพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ระบุว่า ชื่อ“โบ๊ท” เป็นคนแถวนี้แต่มีญาติอยู่ที่แพรกษาสมุทรปราการ ขับรถยนต์บรรทุก 4 ล้อคันนี้มาจากกทม.มายังอำเภอพระพรหม เพื่อกลับบ้าน เมื่อถามว่าเสพยามาหรือไม่ ชายคนนี้ ระบุว่า ไม่ได้เสพยาแต่เสพเนื้อ(กัญชา)ทุกวัน และเมื่อถามว่าเติมน้ำมันมาจากอำเภอนาบอนแล้วไม่จ่ายเงิน กลับตอบว่า จำไม่ได้ ส่วนสาเหตุที่หนีตำรวจมาต่อเนื่องนั้นเนื่องจากกลัวตำรวจจับไม่มีใบขับขี่ ขับรถหนีเรื่อยๆคงหนีพ้น
ต่อมาตำรวจได้ตรวจค้นรถบรรทุกพบว่าหลังบรรทุกว่างเปล่าแต่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบ และพบบัตรประจำตัวชายคนนี้ทราบชื่อคือนายพรรษา นิลธรรม อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับจุดเริ่มต้นการไล่ล่านั้นช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสภ.นาบอน นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากสถานีบริการน้ำมันในตำบลแก้วแสน ว่ารถบรรทุกคันนี้เติมน้ำมันแล้วไม่จ่ายเงิน ได้ขับรถหลบหนีอย่างหวาดเสียว ต่อมาได้มีการเริ่มไล่ล่าปรากฏว่านายพรรษา หรือโบ๊ท ขับรถหลบหนีพ้นจากอำเภอนาบอน เข้าเขตอำเภอทุ่งสง ทะลุมายังอำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนหลุดต่อไปยังอำเภอพรหมคีรี จากนั้นได้วกกลับมาที่อำเภอเมือง อีกครั้ง ก่อนมาจนมุมที่เขตตำบลท่างิ้ว อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยตลอดเส้นทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่ล่าสกัดราวกับหลุดมาจากในหนัง ก่อนมาสิ้นฤทธิ์ใช้เวลาไล่ล่ากว่า 2 ชม.จนถูกคุมตัวได้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถตรวจสภาพอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งตรวจปัสสาวะ ขณะเดียวกันได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทหวาดเสียวอันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานเป็นข้อหาแรก และคุมตัวส่งพนักงาน
Advertisement