วันที่ 19 พ.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีเพจเฟซบุ๊ก“ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์” โพสต์ข้อความว่า “เติมแล้วหนีคนแบบนี้ต้องโดนอะไรดี “วันที่19/5/68เวลา01.55น.มีลูกค้าเข้ามาเติมน้ำมันที่ปตท.ปากน้ำ จำนวนเงิน 110 บาทแล้วไม่จ่ายเงิน ตั้งใจขับรถหนีเคยทำพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วรอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาเติม107 บาท บอกพนักงานสแกนจ่ายแล้วก็ขับรถหนีไปเลยค่ะ” พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเข้ามาเติมน้ำครั้งแรก เมื่อพนักงานเติมเสร็จแล้วและกำลังจะเดินไปเอาเครื่องสแกนจ่าย ผู้ขับขี่รถจักรยารนยนต์คันดังกล่าวก็ได้สตาร์ทรถและขับหนีออกไป และครั้งที่สองก็เช่นเดียวกัน แต่คนละวันหลังจากคลิปนี้เผยแพร่ไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเช่น “เงินแค่ร้อยกว่าบาทก้อยังจะโกงเขาอยู่เหรอ? สงสารพนักงานที่เขาต้องมารับผิดชอบค่าแรงเขาก้อไม่เท่าไร” “เห็นใจผู้ประกอบการนะคะ...น่าจะเก็บเงินก่อน” “ผมก็โดนเหมือนกันคับ2รอบ150บาท” “ต่อไปนี้จะเติมเท่าไหร่ต้องขออนุญาติเก็บเงินลูกค้าก่อนลดความเสี่ยงสงสารพนักงานค่ะ” “เขาพักยุหอแถวพิจิตรตราอะคับ” “ร้านค้าต้องให้ลูกค้าสแกนจ่ายก่อนค่อยเติมให้ระวัง..จะมีอีกอย่างเงินสดพับซ้อนกันเงินไม่ครบ..รับเงินมานับไม่ทันมันจะรีบออกไป”“แจ้งความตามทะเบียนรถเดี๋ยวจะได้ไม่ไปทำกับที่อื่นตำรวจเค้าคงจับได้”
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรบูรณ์-ปากน้ำ ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยพนักงานได้ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 25 เม.ย.2568 ได้มีชายวัยกลางคนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาเติมน้ำมันเต็มถัง เมื่อพนักงานเติมให้เสร็จ ก็เรียกเก็บเงินจำนวน 107 บาท ชายคนดังกล่าวก็บอกว่าสแกนจ่าย พนักงานจึงเดินไปเพื่อที่จะเอาเครื่องสแกนกับพนักงานบัญชี แต่จู่ ๆ ชายคนดังกล่าวก็สตาร์ทรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งแรก ยังไม่มีการแจ้งความแต่ก็ได้กำชับให้พนักงานแต่ละคนระมัดระวังเรื่องดังกล่าว
กระทั่งวันที่ 19 พ.ค.2568 เวลา 01.55น. ก็ได้มีผู้ก่อเหตุคนเดิมและขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมมาเติมน้ำมัน บอกว่าเต็มถังแต่พนักงานจำไม่ได้ เพราะอยู่คนละกะ จึงเติมให้เต็มถังจำนวนเงิน 110 บาท ชายคนดังกล่าวก็บอกเหมือนเดิมคือสแกนจ่ายเมื่อพนักงานกำลังเดินไปเอาที่สแกนกับพนักงานบัญชี ชายคนดังกล่าวก็ได้สตาร์ทรถ และหลบหนีไป จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนภัยรวมทั้งได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.เมืองเพชรบูณณ์ เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่ปั๊มน้ำมันใกล้เคียงก็พบว่าชายคนดังกล่าวได้ไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ เพราะเห็นว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก และไม่อยากจะเสียเวลา จึงทำให้ชายคนดังกล่าวย่ามใจก่อเหตุขึ้นอีกหลายครั้ง
Advertisement