จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ แซ่ตั้น อายุ44 ปี สามีของ เจ๊แก้ว อายุ 43 ปี แม่ค้าขายส่งทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีว่า ได้ไปหายตัวไปขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เพื่อกลับบ้านพัก ที่อยู่แถวตลาดล่าง เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของคืนวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมาทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงปัจจุบันนี้
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (19 พ.ย. 68) พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รองผกก.สืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในคืนเกิดเหตุเจ๊แก้วขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตลาด เลี้ยวขวาไปเส้นทางถนนตลาดล่าง แล้วเลี้ยวขึ้นสู่ถนนอำเภอ โดยขี่รถไปคนเดียว ไม่มีผู้ช้อนท้าย หรือมีใครประกบ
ประกอบกับสอบปากคำลูกสาวในเบื้องต้น เชื่อว่าเป็นการน้อยใจสามีที่ทำงานไม่มีวันหยุด แถมสามียังไม่ไว้ใจ ติดกล้องวงจรปิดที่ร้าน เหมือนคอยจ้องจับผิด แต่ไม่มีเหตุทะเลาะกันรุนแรง
ด้าน น.ส.เกท น้องสาว บอกว่าพี่เขยต้องเดินทางไปซื้อทุเรียนอยู่ต่างจังหวัด 2-3 อาทิตย์จะกลับมาที และเป็นคนค่อนข้างขี้หึง หวาดระแวงจึงติดกล้องวงจรปิดที่บ้าน และที่แผง แต่พี่สาวบ่นให้ฟังว่า ไม่สบายใจเหมือนกับถูกจับตา หรือติดคุก พร้อมย้ำว่ากรณีเรื่องชู้สาวนั้นไม่มีแน่ แต่อาจจะเป็นการน้อยใจสะสมที่หมักหมมมานานจึงหลบไป แต่พี่สาวได้หายไปแบบไม่ติดต่อมา จึงทำให้ทุกคนเป็นห่วง ขอให้พี่สาวติดต่อกับมา มีอะไรให้กลับมาพูดคุยกัน อย่าหายแบบไร้ร่องรอย เพราะทุกคนเป็นห่วง และไม่สบายใจกลัวจะเกิดเหตุร้าย
ขณะที่น้องอ้อม ลูกสาวของเจ๊แก้ว บอกว่า แม่กลับบ้านได้แล้ว ทุกคนรออยู่ พร้อมตัดพ้อว่าหนูคิดถึงแม่มากๆ รีบส่งข่าวมาให้ทุกคนรู้ว่าแม่ปลอดภัย ไม่เกิดเหตุร้าย พร้อมระบุว่ากรณีมีข่าวออกไปโจมตีพ่อว่าเป็นการทะเลาะกัน ทำให้แม่หลบหนีออกจากบ้านนั้น ไม่เป็นความจริง พ่อไปซื้อทุเรียนที่จ.จันทบุรี ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดในร้านแม่โทรไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่าหากแม่ไม่สบายใจก็ถอดออก ไม่มีการทะเลาะกันแต่อย่างใด
Advertisement