จากกรณีของการหายตัวไปของนายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ เหยื่อที่ถูกอุ้มหายเมื่อเข้าสู่วันที่ 14 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา กระทั่งถูกพบเป็นศพ ในพื้นที่บ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ได้จับกุมนายธนเดช หรือ กิ่ง ผู้ต้องสงสัยรายแรกไว้แล้ว และ ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่ 1.นายภัคนัท 2.นายธราเทพ 3. นายณรงค์เดช 4.นายนพพิจิตร
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 68 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมคณะ ได้ดำเนินการติดตามคนร้าย ซึ่งได้ออกหมายจับไปแล้ว 4 ราย คาดว่าได้หลบหนีออกนอกเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรีแล้ว แต่ยังอยู่ในประเทศไทย โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายเป็นผู้ชาย ส่วนจะมีผู้ต้องหาผู้หญิงหรือไม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าใครเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
หากผู้ต้องหาไม่ยอมให้ทำการจับกุม หรือพบว่ามีการต่อสู้ขัดขืน เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามยุทธวิธี เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลอันตราย มีพฤติกรรมอุกอาจ และมีการวางแผนก่อเหตุนครั้งนี้ พร้อมฝากไปถึงผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี หากคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดก็ให้เข้ามามอบตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนี้ คนร้ายในคดีนี้พบว่า ยังมีความเกี่ยวข้องกับคดีอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้ได้ดำเนินการไปเยอะแล้ว เชื่อว่าคดีนี้ไม่ยาก เพราะตำรวจดำเนินการมาโดยตลอด สำหรับประเด็นในการก่อเหตุ ตอนนี้ตำรวจจะเร่งสืบสวนทุกประเด็น รวมถึงประเด็นชู้สาวด้วย
สำหรับผู้ก่อเหตุที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ ได้ซัดทอดถึงบุคคลอื่นบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ไม่ได้ให้การเป็นประโยชน์อะไ รแต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานอยู่แล้วในเมื่อไม่รับก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่ถูกออกหมายจับประกอบไปด้วย 1.นายณงค์เดช 2.นายภคณัท 3.นายนพพิจิตร4. นายธราเทพ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และเป็นการกระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
Advertisement