วันที่ 11 พ.ค. 68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ , พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.สปพ. ,พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สปพ. , พ.ต.ท.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผกก.สปพ. , พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.191) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกจับกุมนายธนธรรม หรือ เม่น อายุ 22 ปี หนุ่มชาวจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีสถานะเป็น “เจ้าบ่าวป้ายแดง” หลังกำลังลำเลียงยาบ้ากว่า 5,140,000 เม็ด ด้วยรถยนต์กระบะ มาสด้า สีดำ ทะเบียน กน 5509 สระบุรี ผ่านพื้นที่ ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้นโยบายเร่งรัดปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อมผู้บัญชาการระดับสูง ได้มอบหมายให้เร่งขยายผลและปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจัง
จากการข่าวและการทำงานร่วมกับสายลับ เจ้าหน้าที่ทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากบริเวณริมโขง จ.อำนาจเจริญ ก่อนซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เพื่อนำส่งลูกค้าในพื้นที่ปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสะกดรอยติดตามรถต้องสงสัยจำนวน 3 คัน โดยคันที่พบยาบ้าเป็นรถยนต์กระบะ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้หลังเกิดการไล่ล่าระทึกและรถของผู้ต้องหาพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ จากค้นพบของกลาง เป็น ยาบ้าประมาณ 5,140,000 เม็ด , อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 10 นัด , โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง , รถยนต์กระบะที่ใช้ขนยาเสพติด
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาเสพติดมาจากพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จ.อุบลราชธานี ได้ค่าจ้าง ครั้งละ 30,000 - 50,000 บาท และมีเครือข่ายร่วมกันอีก 2 คันรถที่ทำหน้าที่คุ้มกันและนำทาง ซึ่งสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ” พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
Advertisement