16 พ.ค. 68 ภายหลังการเข้าให้ปากคำกับตำรวจสอบสวนกลางนานกว่า 3 ชั่วโมง นายชาตรี สุขถาวร ไวยาวัจกรวัดไร่ขิง และเป็นกำนันตำบลไร่ขิง เผยว่า เงินการเบิกจ่ายเงินของบัญชีวัดต้องใช้อย่างน้อย 2 ใน 3 คน ที่สามารถเบิกจ่ายเงิน คือ เจ้าอาวาส กับ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสกว่า 10 รูป หรือ ไวยาวัจกรที่มี 3 คน จะเป็นพยานในการเซ็นเบิกจ่ายแต่ละครั้ง แต่จะต้องมีการแนบใบสั่งจ่ายทุกครั้ง จะไม่มีการเซ็นลอย และบางครั้งกรรมการวัดก็เป็นคนขอเบิกซึ่ง ขั้นตอนก็เหมือนกัน
เมื่อสอบถามว่าในแต่ละครั้งมีการเบิกจ่ายเท่าไหร่ ไวยาวัจกรบอกว่า มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท หากมีการเบิกเกิน 2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่วัดต้องรู้และเจ้าหน้าที่ธนาคารจะต้องโทรกลับมาตรวจสอบการเบิกจ่าย ว่า ยอดถูกต้องตามที่ต้องการเบิกหรือไม่
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ที่ทางสำนักพุทธฯมาอายัดปัญชีหรือไม่ ไวยาวัจกรอ้างว่าตนไม่รู้ และตนดูแลแค่ 4-5 บัญชีเท่านั้น แต่บัญชีวัดอื่นๆ มีมากกว่า 10 บัญชี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกผิดสังเกตหรือไม่กับรายรับรายจ่ายของวัด ไวยาวัจกรบอกว่า บอกว่า ไม่รู้สึกผิดสังเกต เพราะหลังช่วงโควิดรายรับน้อยลง แต่รายจ่ายมีมากขึ้นเหมือนเดิม ส่วนเงินที่เก็บค่าเช่าแผงในงานประจำปี ที่เป็น 1 ในรายได้ของวัด ( เงินทำบุญก็เป็นรายได้) ไวยาวัจกร เผยว่า ได้มาครั้งล่าสุด 10 กว่าล้านบาท ซึ่งวัดได้นำมาใช้จ่ายในการพัฒนาวัด
ส่วนกรรมการวัดจะมีหน้าที่เป็นแบบรายปีที่มาช่วยงานวัด แต่จะมีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำ แต่ตนนั้นไม่ทราบว่าพระผู้ช่วยที่มีมากกว่า 10 รูปนั้นมีการดูแลบัญชีของวัดคนละเท่าไหร่ และการเบิกจ่ายเงินในวัดเมื่อสอบถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะตำแหน่งของไวยาวัจกรเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายของวัด นายชาตรี บอกว่า ตามตำแหน่งแล้วตนเป็นเจ้าพนักงาน ก็ให้ข้อมูลไปตามความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ร่วมยักยอกเพราะไม่เคยถือเงินสดของวัด และบอกอีกว่า ใน 5 บัญชีที่ตนดูแล มีเงินไม่ถึงหลักร้อยล้าน มีเพียงหลักล้านเท่านั้น ซึ่งนายชาตรี ยังบอกอีกว่า อดีตเจ้าอาวาสจะต้องเป็นผู้รู้เรื่องของเงินวัดทั้งหมด เพราะเป็นตัวยืนของทุกบัญชี
เมื่อถามว่าอดีตเจ้าอาวาส เคยไปทำบุญกับวัดอื่นหรือไม่ นายชาตรี บอกว่าก็มีอยู่บ้างในวัดที่ไปร่วมสร้าง แต่เจ้าอาวาสก็แจ้งทุกครั้งที่นำเงินไปบริจาค ซึ่งเป็นการทำตามระเบียบ
เมื่อถามว่ารู้จักกับน.ส.อรัญญาวรรณ หรือไม่ นายชาตรี บอกว่า ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นมาก่อน และ น.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ได้ทำงานภายในวัด ตนเพิ่งมารู้จากข่าวเมื่อวานนี้ว่ามีผู้หญิงคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่วนคนขับรถ เป็นญาติห่างๆ ของเจ้าอาวาสซึ่งอาศัยอยู่ใกล้วัด มีความสนิทไว้ใจและขับรถให้เจ้าอาวาสมา 10 ปีแล้ว
นายชาตรี ยังบอกทิ้งท้ายว่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าเงินวัดก็น้อย แต่ทำไมถึงมีการโอนออกเป็นหลักร้อยล้าน ตนเชื่อว่าเป็นเงินส่วนตัว เพราะถ้าเป็นเงินวัดตนต้องรู้ และตนก็ไม่ทราบว่าข้อมูลว่าเจ้าอาวาสได้ไปยืมเงินเจ้าอาวาสวัดอื่นด้วย เมื่อถามว่า 4 ปีไม่ระแคะระคายกันบ้างเลยหรือ นายชาตรีบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและยืนยันว่า 5 บัญชีที่ตนดูแลนั้นไม่มีความผิดปกติ
Advertisement