(16 พ.ค. 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัด โดยระบุว่า เรื่องนี้ได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งกองบังคับการปราบปรามได้รวบรวมข้อมูลเส้นทางการเงินชัดเจน เบื้องต้นเป็นการกระทำความผิดฐานเจ้าพนักงานจึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย และขณะนี้ผู้ต้องหาได้ลาสิกขาเป็นฆราวาสแล้ว ส่วนการสืบสวนสอบสวนตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยเฉพาะ ให้กองปราบฯ และ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ดำเนินการ ซึ่งตอนนี้มีความคืบหน้าในเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดเข้าบัญชีส่วนตัว และโอนจากบัญชีส่วนตัวไปยังบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่กิจของวัดหรือกิจของสงฆ์ ซึ่งตอนนี้มีความชัดเจนแล้ว
ส่วนการขยายผล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่าจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผล เพื่อเป็นองค์ประกอบพิสูจน์ทราบการกระทำความผิด พ.ร.บ.สงฆ์ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทุจริต ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องนี้กลับมาให้ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งจะต้องขยายผลตามแนวทางปฏิบัติของตำรวจ ว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องและร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ อย่างไร
ส่วนประเด็นที่สำนักงานพระพุทธศาสนาและสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลและรับผิดชอบ ยืนยันว่า ตำรวจได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และไม่ว่าจะสาขาอาชีพใดก็ย่อมมีบุคคลที่กระทำผิดอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวงการสงฆ์จะเสียหาย เพราะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวในสาขาอาชีพนั้นๆ ใครกระทำผิดอย่างไรไม่เกี่ยวกับวิชาชีพ และไม่อยากให้เอาเรื่องอื่นมาเกี่ยว ส่วนตำรวจมีหน้าที่นำข้อเท็จจริงออกมาสู่สังคมว่า อดีตเจ้าอาวาส โอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัวและส่งต่อให้บุคคลอื่นเพื่ออะไร ซึ่งต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่การให้ปากคำเป็นประโยชน์ในทางคดี
ส่วนเรื่องนี้จะเป็นการรีดเอาทรัพย์จากอดีตเจ้าอาวาสหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่าเรื่องนี้ต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไป หากมีใครร่วมกระทำความผิดด้วยก็ต้องออกหมายเรียกหรือออกหมายจับตามขั้นตอนของกฏหมาย
ส่วนเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงเว็บการพนันออนไลน์ อดีตเจ้าอาวาสให้การว่ารู้เห็นหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่าเรื่องนี้ต้องแยกออกเป็นสองส่วน เรื่องเว็บพนันออนไลน์ให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ตำรวจเน้นการสอบสวนเรื่องการกระทำความผิดที่นำเงินวัดออกมาแล้วนำไปให้บุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนผลการตรวจค้นช่วงเช้าที่ผ่านมาพบพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์พอสมควร ซึ่งต้องนำมาพิสูจน์ทราบอีกครั้ง
Advertisement