จากกรณีที่หน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถาน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้โพสต์ข้อความว่า “#ทอมโหดต่อยตาเขียว 2 ข้างไม่หนำใจราดน้ำร้อนใส่ก้นซ้ำเจ็บทั้งกายทรมานทั้งใจวันที่ 14/05/68 เวลา 23:45 น.โดยประมาณ
หน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานฯ ได้รับแจ้งมีบุคคลถูกทำร้ายร่างกายหญิงสาวหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีให้การว่าถูกแฟนที่เป็นทอม ทำร้ายชกต่อยทุบตี และ "ราดด้วยน้ำร้อน" เมื่อ 3 วันที่แล้วหลังจากเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกลับมาที่บ้านพัก ก็ยังโดนทุบตีทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง จึงทนไม่ไหว รีบหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีสถานที่เกิดเหตุ...ริมถนนตรงข้ามวัดหนองกะขะ พื้นที่ ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ข้อมูลในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย อายุ 41 ปี อาการของผู้บาดเจ็บที่ตาทั้งสองข้างมีรอยเขียวช้ำ และรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย บริเวณก้นมีรอยถูกราดด้วยน้ำร้อนเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่ อยู่ในอาการหวาดกลัว พร้อมกับรูปภาพของหญิงสาวที่มีชาวบ้านช่วยพยุงเดินออกมาจากซอยสภาพใบหน้าบวมช้ำ ตาทั้งสองข้างมีร่องรอยการทำร้าย และมีภาพของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถานปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลพานทอง
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.68) เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังซอยดังกล่าว พื้นที่ตำบลหนองกะขะ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับนางสาวแหม่ม อายุ 40 ปี พลเมืองดี ได้ชี้ให้ผู้สื่อบริเวณที่หญิงสาวเดินออกมาพร้อมกับได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเดินมาขอความช่วยเหลือจากนั้นต้นสังเกตเห็นเป็นหญิงสาวเดินร้องไห้มีบาดแผลฟกช้ำตามตัว และใบหน้า สอบถามคนเจ็บก็ได้ข้อมูลว่าถูกแฟนทำร้ายร่างกายและใช้น้ำร้อนลวก จึงได้หนีออกมาขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยดังกล่าว
ทางด้านนางสาวโมจิ อายุ 16 ปี พลเมืองดีอีกคน บอกว่า ตนเห็นคนเจ็บเดินออกมาจากซอยในสภาพใบหน้าเขียวช้ำ และตามลำตัว จึงได้เข้าไปสอบถามก็ทราบว่าถูกแฟนทำร้ายร่างกาย และหนีออกมาจากห้อง เพื่อมาขอความช่วยเหลือ จากนั้นตนจึงได้พาเดินออกมาบริเวณถนนเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาตรวจสอบ
ผู้สีขาวจึงได้เดินทางไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอาศัยอยู่แต่ไม่พบใครอยู่ พบว่าปิดล็อกเงียบ
สอบถามเพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลว่า ทั้งคู่มีการทะเลาะกันบ่อยครั้งและทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือกันอยู่ตลอด จนกระทั่งล่าสุดมีการตบตีกันเสียงดัง จนผู้หญิงหนีออกจากบ้าน บางทีทะเลาะกันและด่ากันไปตามถนนภายในซอย จนชาวบ้านเห็นจนชินตาของพฤติกรรมของคู่นี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังหน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถานฯได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้ไปช่วยเป็นพนักงานโรงงานซึ่งไปทำงานหมดไม่มีใครอยู่ จึงได้ข้อมูลเพียงว่าผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนางสาวมานี อายุ 41 ปียังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพานทอง เพราะร่างกายบอบช้ำเยอะและตาทั้งสองข้างเกือบปิด เพราะมีรอยถูกทำร้ายขนาดใหญ่จนเขียวช้ำและลำตัวก็มีร่องรอยการถูกทำร้าย
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังสถานีตำรวจภูธรพานทอง เพื่อสอบถามข้อมูลทางคดีของหญิงสาวรายดังกล่าวทราบว่า เบื้องต้นยังไม่มีเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ ต้องรอให้รักษาตัวจนหายดี หากต้องการดำเนินคดีทางกฎหมายก็สามารถเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจได้เลย
Advertisement