ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายพีรพงษ์ฯ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 54/2568 ลงวันที่ 27 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามาถขัดขืนได้ และในที่สาธารณะหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ"
โดยจับกุมได้ที่ บริเวณคอนโดมีเนียม ถ.ประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากปี 2566 ได้มีผู้เสียหาย เป็นชาย อายุ 30 ปี เข้าห้องน้ำภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ต้องหาอยู่บริเวณห้องน้ำพอดี เมื่อพบเห็นผู้เสียหายขณะกำลังเข้าห้องน้ำ ผู้ต้องหาได้ติดตามเข้าไป ก่อนปีนห้องน้ำและนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะผู้เสียหายทำกิจส่วนตัว และทันทีที่ผู้เสียหายรู้ตัวว่า กำลังถูกแอบถ่ายจึงได้โวยวาย ผู้ต้องหาจึงวิ่งรถหลบหนีไป จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ขอให้ตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ
จากการสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายพีรพงษ์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนและผู้เสียหาย แต่ขณะนั้นตกลงยอมความกันไม่ได้ ก่อนที่นายพีรพงษ์ฯ จะหลบหนีไปพนักงานสอบสวน จึงขอศาลออกหมายจับไว้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. สืบทราบมาว่า นายพีรพงษ์ฯ ได้หลบหนีมาพักอยู่ที่คอนโดในพื้นที่ ถ.ประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบนายพีรพงษ์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับดังกล่าว จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พบผู้เสียหายกำลังเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ด้วยความที่อยากเห็น
ของลับของผู้เสียหาย และอยากเก็บไว้ดู จึงได้ปีนห้องน้ำเพื่อใช้โทรศัพท์มือแอบถ่ายคลิปดังกล่าวไว้
แต่ผู้เสียหายเกิดเห็นเข้า จึงได้โวยวาย และนำเรื่องแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน จากนั้นได้มีการนัดพูดคุยไกล่เกลี่ย เยียวยา ค่าเสียหายกันหลายครั้ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้ต้องหาจึงหลบหนีขึ้นมาเช่าคอนโดพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพ พร้อมรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้หลายครั้ง แต่ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์มาก่อน
Advertisement