เมื่อเวลา 09.30 น. (7 พ.ค. 2568) ที่บริเวณริมฟุตบาทหน้าแดนเนรมิต ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น้องบอย (นามสมมติ) เยาวชนวัย 16 ปี พร้อมกับ หอบเศียรพ่อแก่ เศียรพระพิฆเนศ พระพุทธรูป รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ และรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งมีดหมอใส่ในพานข้าวสาร เปิดใจกับสื่อหลังจากน้องวัย 16 ปี ถูก หมอดูเสรี หลอกให้หลงเชื่อจนทำให้ภาวะจิตใจผิดปกติรวมทั้งศูนย์ทรัพย์สินเงินทองเป็นจำนวนมาก โดยน้องบอย
ทางน้องบอย ผู้เสียหายระบุว่า เมื่อปี 2 ก่อน ตนมีปัญหาเรื่องความรักจนเพื่อนแนะนำให้ไปรู้จักกับ อาจารย์เสรี คนนี้ โดยเริ่มจากวิธีดูดวงราคา 300 บาท และเสียค่าบูชา 500 บาท เพื่อเสริมดวงชะตาเรื่องความรัก จากนั้นก็เริ่มการเรียกเข้ามาดูดวง ฝึกให้นั่งสมาธิ โดยตั้งจิตให้นึกถึงเทพ และอาจาร์เสรีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งมีการเช็คดวงชะตาเช่นนี้กันอยู่ตลอดเวลา โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์เสรีได้แนะนำให้ตนได้บูชาเศียรพ่อแก่ โดยอ้างว่าหากนำไปบูชาแล้วจะเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต ทำให้ตัวเองหลงเชื่อและจ่ายเงินในการบูชาเสียนี้ 20,000 บาท
และตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับหมอดูคนนี้ได้เสียเงินให้เขาไปแล้วหลายครั้ง ทั้งเงินสดและเงินโอนที่มาจากเงินเก็บของตน รวมถึงเงินอั่งเปารวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท จนกระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนที่เเล้ว เนื่องจากตนมีแฟนใหม่และอยากสมหวังเรื่องความรัก อาจารย์เสรีจึงแนะนำให้เจาะเลือด บริเวณนิ้วชี้ด้านซ้าย ไปประกอบเข้าพิธีเพื่อเสริมดวงเรื่องความรักเเต่ปรากฏว่าก็ไม่ได้ผล เนื่องจากตนได้เลิกรากับแฟนคนนี้ไปในที่สุด ยังไม่รวมกับการที่ตนเองนั่งสมาธิตามที่หมอแล้วเกิดอาการกลัว เนื่องจาก เจอเงาดำสูง และรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
ด้านแม่ของผู้เสียหายเล่าว่า เพิ่งรู้เมื่อปีที่แล้วว่าลูกชายบูชาพวกวัตถุมงคลเยอะมาก ส่วนตัวตกใจว่าลูกเอาของแบบนี้เข้าใาเข้าบ้านได้อย่างไร จึงเตือนไปว่าของแบบนี้เราอย่าบูชามั่ว เอามาจากตรงไหนให้เอากลับไป ซึ่งแม่ก็สั่งห้ามลูกชายไม่ให้ติดต่อกับหมอดูคนดังกล่าวอีกหลายลูกชายยังแอบติดต่อกับหมอดูโดยที่แม่ไม่รู้ แม่ยืนยันว่าลูกชายไม่มีปัญหาอะไร แค่อาจรู้สึกไม่มั่นใจเวลาจีบสาว พอเพื่อนชวนไปดูหมอดู ก็เลยอยากลองตามประสาวัยรุ่น พอเจอหมอไม่ดีน้องก็เลยกลายเป็นแบบนี้ ส่วนประเด็นการให้คำปรึกษาในครอบครัว ทางครอบครัวเคยบอกเรื่องการคบเพื่อนให้ใช้ความจริงใจเข้าหา และความตั้งใจ ไม่ต้องอาศัยเรื่องแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง มองว่าหมอใช้โอกาสนี้มาหลอกลูกชาย
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้พาน้องเยาวชนผู้เสียหายเข้าแจ้งข้อกล่าวหา อาจารย์เสรี ในฐานความผิด 6 ข้อหาประกอบด้วย ฉ้อโกง, พรากผู้เยาว์, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก, ค้ามนุษย์, พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจาก วิธีการดูดวงของ อาจารย์เสรี ส่งผลให้เยาวชนมีสภาวะจิตใจผิดปกติและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า หมอดูรายดังกล่าว เลือกเยาวชนที่มีปัญหา ดูว่าบ้านมีฐานะหรือไม่ แล้วอ้างสอนสมาธิ จากนั้นชักนำในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหนึ่งรายที่ถูก อาจารย์เสรี หลอกเช่นเดียวกัน คือ นายฉัตรชัย อายุ 35 ปี โดยเปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 ตนรู้ข่าวว่าเพื่อนที่ตนรู้จัก จมน้ำเสียชีวิตตนจึงพูดลอยๆ ประมาณว่า "ตายให้หนอนแดกไป" จากนั้นวันต่อมา ยายของตนที่รู้จักอาจารย์เสรีคนนี้ ชักชวนให้ตนไปส่งไปหาอาจารย์เสรี ก่อนที่ยายจะบอกให้ตนตามเข้าไปและเมื่อเข้าไปอาจารย์เสรีทักตนว่า มีคนตัวเปียกน้ำตามหลังมา จึงทำให้ตนจิตตก จากนั้นอาจารย์เสรีจึงให้ตนทำพิธีไล่สิ่งไม่ดีออกไปครั้งเเรกเสียเงินไปหลักร้อยบาท หลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์เสรี ทักตนอีกว่าชะตาตนถึงคาดต้องทำพิธีเปลี่ยนดวงชะตา จากนั้นก็ทักมาอีกว่า ตนมีองค์ปู่อยู่ในตัว ต้องทำพิธีรับปู่ รับขันธ์ครู ซึ่งจะมีการทักตนแบบนี้มาเรื่อยๆ และเริ่มมีการตีสนิททำให้เชื่อใจ ไว้ใจมาถึง 4-5 ปี จน อาจารย์เสรี มีการย้ายเข้ามาอยู่ในละแวกบ้านใกล้เคียงกัน จากนั้นมี การไปมาหาสู่กันเป็นประจำจนกระทั่งตนเองตัดสินใจยกบ้านให้อาจารย์เสรีเป็นสถานที่ในการประกอบพิธี
หลังรู้จักกันไม่นาน อาจารย์เสรี ได้ย้ายมาอยู่ระแวกใกล้กับบ้านยายของตนและพยายามตีสนิทยายของตน ก่อนที่จะใช้บ้านยายทำพิธี ทำหิ้ง วางเศียรพ่อปู่ วางพระเต็มหิ้ง โดยช่วงเย็นก็จะมักจะเรียกลูกศิษย์ รวมถึงตน และยายของตนเข้าไปหาอาจารย์เสรี ซึ่งเมื่อเข้าไปหาหมอดูจะมีท่าทีเหมือนมีองค์ปู่เข้า เสียงเหมือนคนแก่ เสียงดัง เคี้ยวหมาก ทุกครั้งที่พูดจะพูดตะค้อกและพูดคล้ายการบังคับ ทำให้ตนจิตตก ก่อนจะชักชวนให้ทำพิธีต่างๆ โดยชักชวนให้ซื้อเศียรพ่อปู่มาเรื่อยๆ และชักชวนให้เปิดตำหนักแต่ว่าตอนนั้นตนสภาพการเงินและจิตใจเริ่มย่ำแย่แล้วจึงปฏิเสธและตีตัวออกห่างอาจารย์เสรี ส่วนตัวตนสูญเงินให้อาจารย์ท่านนี้หลักหมื่นบาท
Advertisement