"ดร.ธนกฤต-กัน จอมพลัง" รุดช่วยสาววัย 27 ป่วยจิตเวช ถูกรุมยำ 5 ต่อ 1 ส่งบำบัด รพ.สมเด็จเจ้าพระยา
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 5 พ.ค.ที่สน.สุทธิสาร นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำเจ้าหน้าที่จิตวิทยาจาก รพ.ศรีธัญญา กระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจร่างกาย นางสาวไหม อายุ 27 ปี ผู้เสียหายที่ถูกคู่กรณีรุมทำร้ายอยู่ในอาการคล้ายพูดจาวกวน เพื่อประเมินอาการก่อนส่งรักษาอาการทางจิต ที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา
นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ 4 พ.ค.มีคนแจ้งมาหาตน ในเพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ให้ช่วยตามหาลูกสาวให้ จากนั้นก็มีคลิปปรากฏในโลกออนไลน์ ว่ามี เหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น ตนจึงได้เดินทางมาที่ สน. สุทธิสาร ได้พูดคุยกับ ผกก.สน.สุทธิสาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ก็สามารถพบตัวผู้เสียหาย และจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับตัว ทางคุณแม่ของผู้เสียหาย อยากให้ช่วยเหลือ เนื่องจากลูกสาวมีอาการทางจิตเวช ตนจึงได้ประสานให้ ดร.ธนกฤต มาช่วยเหลือ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวทราบดีว่ามีการใช้สารเสพติดเป็นระยะเวลานาน จึงอาจจะไปกระทบสภาพจิต ซึ่งเราเข้าใจได้ว่าคงไม่มีใครอยากจะผิดพลาดตลอดชีวิต วันนี้เราหาทางแก้
นอกจากนี้ ตนไม่อยากให้เกิดในลักษณะล้างแค้นอยากให้กฎหมายเป็นเครื่องตัดสิน และ มองว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทางตำรวจได้ทำงานอย่างรวดเร็วมากสุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนกลับมีตำรวจถูกทำร้าย มองว่ามันไม่แฟร์ คนทำงานแต่ถูกทำร้ายแบบนี้ จึงให้อีกฝ่าย มาขอโทษตำรวจแล้ว
ดร.ธนกฤต กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของตำรวจ ซึ่งเมื่อมาถึง ตนได้ มีการพูดคุยกับผู้เสียหายแล้วจากการพูดคุยก็พบว่ารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เจ้าตัวบอกว่ามีอาการจากการเสพสารเสพติด เช่น ไอซ์และสารตัวอื่นด้วย ซึ่งก็ได้ ขอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พบว่า มีปัสสาวะม่วง มีสารเสพติดจริง แต่ไม่พบหลักฐานอื่น เช่นยาเสพติดที่มีไว้ในครอบครอง จึงได้ให้นักจิตวิทยาได้ทำการทดสอบและตรวจผลออกมาก็เข้าองค์ประกอบของคนที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช จากนั้นได้ประสานไปที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สมเด็จเจ้าพระยา ก็พร้อมที่จะรับตัว กำชับว่า ให้ดูแล จนเขาสามารถใช้ชีวิตได้ ขอให้ทางพ่อเลี้ยงและแม่ ควรจะดูแลให้ดี หรือให้ชี้เบาะแสยาเสพติด เพื่อให้ตำรวจขยายผล ไม่อยากให้บุตรหลาน เป็นแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่มีการพูดคุยกับผู้เสียหาย ครอบครัวได้ร้องไห้ออกมาด้วยความหนักใจ เพราะเคยพาลูกสาวไปบำบัดอยู่หลายครั้ง แต่ก็กลับมาใช้สารเสพติดเหมือนเดิม ครั้งนี้จึงอยากให้หายขาด
ด้านนักจิตเวช กล่าวว่า จากการพูดคุยก็พบว่ามีอาการทางจิตเวช ซึ่งเกิดจากยาเสพติดชัดเจน ทำให้มีอาการแบบนี้ เคยรักษาอยู่หลายครั้ง แต่กลับมาใช้ยาเสพติดอีก ซึ่งมองว่าสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมาก และทางครอบครัวก็ควรที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้าน พ.ต.อ.พรเทพ ผกก.สน.สุทธิสาร กล่าวว่าตอนนี่ได้ติดตามตัวคู่กรณีมาแล้ว 4 คน ได้สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่ยังติดตามตัวผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งคน ชื่อว่า น.ส.ก้อย คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้ ส่วนผลการตรวจหาสารเสพติดในคู่กรณี ทั้งหมดไม่พบสารเสพติด แต่พบ 1 คนที่มีประวัติในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อตอนอายุ 17 ปี
เมื่อถามถึงเรื่องการขยายผลยาเสพติดในพื้นที่ พ.ต.อ.พรเทพ กล่าวว่า เท่าที่คุยกับครอบครัวของผู้เสียหายพบว่าได้ใช้ชีวิตในพื้นที่อื่นแต่เข้ามามีเรื่องในพื้นที่สุทธิสาร แต่ที่ผ่านมาทางตำรวจได้ลงพื้นที่ในการกวาดล้างปราบปรามยาเสพติด ต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนที่มีชาวบ้านแจ้งว่าจุดที่เกิดเหตุมักมีการมั่วสุมยาเสพติดนั้น ผู้กำกับบอกว่าจุดนั้นสายตรวจมีการไปตรวจเป็นประจำทุกครั้งที่มีชาวบ้านแจ้งมา ว่ามีการมั่วสุมของวัยรุ่น แต่ ได้สั่งการให้ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบเรื่องของสารเสพติดในบริเวณดังกล่าวแล้ว
สำหรับรายชื่อผู้ก่อเหตุ ทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางสาวนันธิยา อายุ 22 ปี, 2.นายนุชา อายุ 24 ปี, 3.น.ส.ชัชฌา 25 ปี, 4.นายบดินทร์ อายุ 34 ปี ส่วนอีกราย คือ น.ส.สุนิสา อายุ 37 ปี อยู่ระหว่างประสานให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน
Advertisement