จากกรณีเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าปากซอยต้นสน 15 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (3พ.ค.68) เมื่อเวลา 21.00 น.พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ควบคุมตัวนายสิทธิพงษ์ สิงหฬ หรือ แม็ก อายุ 41 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดเกิดเหตุภายในซอยต้นสน 15 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสิทธิพงษ์ หรือ นายแม็ก ผู้ก่อเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายแม็กมีสีหน้าเคร่งเครียด ก้มหน้าตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ นายแม็ก เปิดเผยสั้นๆว่า ตนได้มีการชกต่อยกันในร้านเกิดเหตุ ก่อนจะมีปัญหากันต่อเนื่องบริเวณจุดเกิดเหตุตามคลิปวงจรปิด ซึ่งตอนนั้นตนจำไม่ได้ว่ายิงไปทั้งหมดกี่นัด หลังจากที่ยิงเสร็จตนได้ขับรถขึ้นสะพานพระราม 4 หลังจากนั้นมุ่งหน้าไปที่สุพรรณบุรีเพื่อหลบหนี ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุมีการดื่มสุราจนมึนเมา และยืนยันว่าที่เกิดเหตุไปนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ระหว่างการทำแผนประกอบความรับสารภาพทางด้านเพื่อนของผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุกว่า 10 คนเพื่อให้กำลังใจและอยากทราบถึงสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง โดยระบุว่ามีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย ขณะนั่งดื่มสังสรรค์กันตั้งแต่ภายในร้านอาหาร ก่อนจะเกิดเหตุยิงกันต่อเนื่องจนถึงจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาไม่ได้กล่าวถึงประเด็นหญิงสาวที่อยู่บนรถแต่อย่างใด
ในช่วงเกิดเหตุผู้ต้องหาอาจมีอาการมึนเมาและขาดสติ ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าได้ใช้อาวุธปืนของบิดา ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ โดยพกติดตัวตลอดเวลาแม้กระทั่งหลบหนีไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งนี้ปืนดังกล่าวยังไม่ถูกนำไปทิ้งและจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนหรือไม่
หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์หลบหนี แต่เกิดรถเสียที่พื้นที่บางเลน จ.นครปฐม เนื่องจากเฉี่ยวชนกับรถของผู้ตายจนเครื่องร้อน ผู้ต้องหาจึงติดต่อให้บิดามารับและยอมรับว่าได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งตามคำให้การ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวน 16 ปลอก โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อก 19 ซึ่งสามารถดัดแปลงให้บรรจุกระสุนเพิ่มได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดของตัวอาวุธเพิ่มเติม
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวอีกว่าคดีนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในเวลาเพียง 1 วัน และจะเร่งสรุปสำนวนเพื่อขออนุมัติฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งเตรียมเรียกบิดาของผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธปืน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น 4 ข้อหา ได้แก่ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและยิงปืนในเขตเมืองหมู่บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร
อย่างไรก็ตามตำรวจจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบคุมเข้มการพกพาอาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ยืนยันว่าแม้ทางพ่อของผู้ก่อเหตุจะเป็นอดีตตำรวจ ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ต้องกังวล ทางตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายอย่างถึงที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดีก่อนจะนำตัวส่งฟ้องศาลภายในวันพรุ่งนีัตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
Advertisement