ส่อวุ่น! ญาติสงสัย รพ.ให้เลือดผิดกรุ๊ป เหยื่อก้อนปูนตกใส่รถพระราม 2
ส่อวุ่น! ญาติสงสัย โรงพยาบาลให้เลือดผิดกรุ๊ป เหยื่อก้อนปูนตกใส่รถพระราม 2 รอผลชันสูตร -ข้อมูลทางการแพทย์ชัดเจนก่อนเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป
จากกรณี นาย อำนาจ ทองขำ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายงานช่างของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เสียชีวิต หลังจากถูกก้อนปูนขนาดใหญ่หล่นลงมาใส่รถกระบะ ขณะขับอยู่ใต้ต่างระดับขาออกกรุงเทพฯ บนถนนพระราม2 ทำให้อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนจากแรงอัดกระแทก ตับฉีกขาด และเลือดที่ออกในช่องท้อง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาวันที่ 1 พ.ค. 68 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้พูดคุยกับ คุณเอ (นามสมมติ) หนึ่งในตัวแทนครอบครัวของนายอำนาจ ซึ่งให้สัมภาษณ์เพื่อฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า อยากฝากถึงหน่วยงานว่าให้มีมาตรการ ที่เข้มข้นมากกว่านี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนที่สัญจรบนถนนพระราม 2 แบบจริงจัง และจริงใจ
อีกทั้งเคสนี้ไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น อุบัติเหตุแบบนี้มันเกิดขึ้นแบบที่มาตั้งกี่ครั้งแล้ว ส่วนประเด็นที่มีการถอดบทเรียนแล้วถอดบทเรียนอีก ขอพูดตรงๆ เลยว่า ก็ไม่เห็นว่าอะไรจะดีขึ้น เกิดขึ้นซ้ำๆ
ส่วนการเยียวยามองว่าทางครอบครัวต้องได้รับการเยียวยาอยู่แล้วแต่การเยียวยาเป็นตัวเงินคงไม่สามารถเยียวยาได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางครั้งเวลาตอบคำถามก็ไม่ได้แสดงถึงการแก้ไขปัญหาที่จริงจังด้วยซ้ำเลย
ตัวแทนครอบครัวท่านนี้ ยังบอกอีกว่า ในเบื้องต้นครอบครัวเองก็มีติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเล็กน้อยในประเด็นที่ รพ.แรก ให้เลือดผิดกรุ๊ป แต่ในส่วนของรายละเอียดยังไม่ทราบอะไรมาก เราต้องรอผลชันสูตร และข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนกว่านี้ก่อน จึงยังไม่ขอตัดสินเรื่องนี้ หรือยังไม่ขอกล่าวโทษใคร แต่หากประเด็นให้เลือดผิดกรุ๊ปเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พี่ชายเสียชีวิต ทางครอบครัวคงต้องร้องเรียน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป แต่อย่างไรก็ตามต้องรอความชัดเจนก่อน แต่ส่วนตัวก็คงมองว่าหากไม่มีอุบัติเหตุเช่นนี้คงไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น
ด้านนางจันทร์แรม ทองขำ อายุ 45 ปี ภรรยาของนายอำนาจ เปิดเผยว่า ครอบครัวจะนำร่างกลับบ้านเกิดที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีการตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ จะมีการฌาปนกิจในวันเสาร์นี้
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นจากการชันสูตร “ตับได้รับบาดเจ็บ - เลือดออกในช่องท้อง”
เมื่อทีมข่าวพยายามถามถึงกรณีการให้เลือดผิดตามที่ครอบครัวมีการตั้งข้อสงสัยก่อนหน้านี้ ด้านทนายความส่วนตัวซึ่งเป็นญาติได้ให้ข้อมูลกับทางทีมข่าวว่า ยังไม่ขอยืนยันความชัดเจน เพราะประเด็นนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับเอกสารการรักษาทางการแพทย์ หากพูดออกไปแล้วผิดพลาด อาจจะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลได้ ประเด็นนี้ ขอให้ตามผลการชันสูตรก่อนเบื้องต้นว่าเสียชีวิตจากการถูกประเภทของแข็ง ทำให้ตับได้รับบาดเจ็บและเลือดออก ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเลือดต้องตรวจสอบอีกครั้งยังไม่ขอยืนยัน
ส่วนทางคดีกับหน่วยงานที่เป็นคนดูแลจุดดังกล่าว ตอนนี้ทางครอบครัวยังอยู่ในขั้นขั้นตอนของการรวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน รวมถึงใบทางการแพทย์ ต้องรอให้เสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาก่อน หลังจากนี้ทางก็กลัวจะมาให้ข้อมูลและจัดดำเนินการเรียกร้องกับฝั่งคู่กรณี
ขณะที่ นายกัญญากร ทองขำ อายุ 44 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดใจปมประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของการเสียชีวิตของพี่ชายว่า ตนอยากจะสื่อสารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาตรวจสอบและดูแลเรื่องนี้ให้จริงจัง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาทางหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องมีแต่บอกว่าจะแก้ไข แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ตนระแวงและรู้สึกกลัวตลอดที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้
ส่วนกรณีการให้เลือดรักษาผิดกรุ๊ป มาจากที่เมื่อวาน หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้มีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ประกันสังคมของพี่ชาย หลังจากที่เข้าการรักษาและมีการผ่าตัดเบื้องต้นจนตรวจพบว่ามีอาการตับฉีก และต้องเสียเลือดค่อนข้างเยอะ ทางโรงพยาบาลแรกได้มีการให้เลือดจำนวน 12 ถุง เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะย้ายมายังโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ซึ่งเมื่อพี่ชายมารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ทางทีมแพทย์ได้มีการผ่าตัดเร่งด่วน ก่อนที่จะตรวจพบว่าทางโรงพยาบาลแรก มีการให้เลือดกรุ๊ป A มาจำนวน 12 ถุง ซึ่งเป็นการตรวจสอบของโรงพยาบาลสมุทรสาครเอง เพราะพบความผิดปกติเกี่ยวกับลักษณะการแข็งของตัวเลือด จนกระทั่งมาทราบจากญาติว่าจริงแล้วผู้บาดเจ็บมีกรุ๊ปเลือด B แต่ทางโรงพยาบาลแรก กลับไม่ได้มีการแจ้งกับทางญาติหรือสอบถามก่อนที่จะมีการให้เลือด ทางที่ตอนนั้นทางครอบครัวเองก็เห็นว่าทีมแพทย์มีการเจาะเลือด เพื่อตรวจหากรุ๊ปเลือด แต่ทำไมถึงให้เลือดคนละกรุ๊ป
เมื่อทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร ทราบเรื่องจึงได้มีการพยายามเคลียร์เลือดเก่าที่ได้มาจากโรงพยาบาลแรก โดยใช้วิธีการให้เลือดกรุ๊ป o ตามทางการแพทย์ ซึ่งประเด็นนี้ยอมรับว่าทางครอบครัวก็ยังมีการตั้งข้อสงสัย และยังไม่ได้มีการชี้แจงจากทางการแพทย์ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นเพียงว่าประเด็นการให้เลือด ลักษณะผิดอาจจะมีการส่งผลต่อการรักษา หรือการไหลของเลือดหรือไม่ ประเด็นนี้ทางครอบครัวจะต้องสอบถามหรือให้รายละเอียดชัดเจนอีกครั้งกับทางฝั่งทีมแพทย์
ทางญาติเองไม่ได้กล่าวหา แต่เป็นการตั้งข้อสงสัยว่าการให้เลือดตามที่ได้รับข้อมูลจากโรงพยาบาลสมุทรสาครนั้น มันมีผลดีผลเสียกับการรักษาหรือไม่
Advertisement
