โจ๋ร้านลาบอ้างถูกตีชิงมือถือชักมีดแทงอริดับ ญาติเหยื่ออึ้งเอ่ยปากขอโลงสีส้มก่อนตาย (คลิป)

จากกรณีเพจเฟชบุ๊ก "ฮุก 31 จุดยโสธร" โพสต์เรื่องราวว่า เวลา 21.51 น. อาสากู้ภัยฮุก 31 จ.ยโสธร รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกแทงเสียชีวิต บริเวณสะพานตะวันแดง ต.น้ำคำใหญ่ อ.เมือง จ.ยโสธร

โดยผู้เสียชีวิตชื่อนายวัชรา สุนทรา อายุ 27 ปี ชาวอ.เมือง จ.ยโสธร ถูกนายฉัตรมงคล ผลจันทร์ อายุ 21 ปี ใช้มีดทำครัวแทงเข้าที่ต้นขาซ้ายเข้าเส้นเลือดใหญ่จนเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นได้รับบาดแผลที่บริเวณสันจมูกเป็นแผลฉีกขาด

ล่าสุดวันที่ 7 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณสะพานตะวันแดง อยู่ห่างจากกับสถานบันเทิง (ตะวันแดง) ประมาณ 200 เมตร ในพื้นที่ ต.น้ำคำใหญ่ อ.เมือง จ.ยโสธร โดยสภาพที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณขอบสะพาน ขาเข้าตัวเมืองยโสธร มีคราบเลือดของผู้ตายติดตามขอบสะพานอย่างเห็นได้ชัด

นายยุทธ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ตนขับรถตามหลังผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต ตนก็เห็นทั้งคู่ขับรถไล่กัน ประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุ

พอทั้ง 2 ฝั่งไล่กันไปจนถึงสะพานตะวันแดง ตนก็ได้ยินเสียงคนตายพูดขึ้นมาว่า "พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ" จากนั้นคนก่อเหตุก็ได้ใช้มีดทำครัวที่พกมา ฟันเข้าที่ต้นขาด้านซ้ายของคนตาย จนคนตายนอนลงกับพื้น ส่วนคนก่อเหตุได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่อยู่ร้านอาหารตรงข้ามสถานบันเทิงอีก 200 เมตร

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายังวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนายวัชรา สุนทรา ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นางประยูร สุภาพการณ์ ป้าของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 19.00 น. หลานชายตนได้ขอตนไปเที่ยวกับเพื่อน ตนก็ไม่รู้ว่าหลานชายจะไปเที่ยวที่ไหน กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ตนถึงมาทราบข่าวจากกลุ่มกู้ภัยในเฟชบุ๊กว่า หลานชายตนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ตอนนั้นก็ตกใจมาก จนเข่าแทบทรุด

ขณะนี้ตนก็ยังไม่รู้ว่าหลานชายไปมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุเพราะอะไร และผู้ก่อเหตุเอง ตนก็ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ที่ผ่านมาหลานชายตนเขาก็ไม่เคยไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร เขาจะทำงานของเขาอยู่ตลอดเวลา

สำหรับนายวัชรา เป็นคนนิสัยดี ร่าเริง ขยันทำงาน ก่อนจะเกิดเหตุ 3 วันหลานชายได้ไปทำงานกับเพื่อน ในระหว่างที่หลานชายนั่งรถยนต์ผ่านร้านจำหน่ายโลงศพ ได้พูดกับเพื่อน ๆ ของเขาว่า "โลงศพสวยจัง ซื้อโลงศพให้หน่อยนะ อยากได้โลงศพสีส้ม" ซึ่งพอหลานชายตนมาเสียชีวิต ตนก็ได้ซื้อโลงศพสีส้มให้หลานชาย ตอนนี้ใส่โลงเย็นครอบไว้แล้ว

อีกประเด็นประมาณ 10 วันที่ผ่านมา หลานชายก็บอกกับตนและญาติ ๆ ว่า ขอถ่ายรูปครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย ตนจึงคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นลางสังหรณ์ ทั้งนี้ตนก็อยากถามผู้ก่อเหตุว่า ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า จากคำให้การณ์ของนายฉัตรมงคล ผู้ต้องหา อ้างว่า ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับจากเยี่ยมญาติที่ รพ.ยโสธร กระทั่งไปถึงสี่แยก เลยจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตได้เขม่นกัน จากนั้นก็มีปากเสียง คู่กรณีได้ใช้ของแข็ง ไม่แน่ใจว่าเป็นหินหรือไม้ ตีเข้าที่สันจมูกของนายฉัตรมงคล ทำให้ต้องใช้มีดทำครัวที่พกติดตัวไปไล่ฟันคู่กรณี จนมาถึงสะพานตะวันแดง รถของผู้เสียชีวิตเสียหลัก จึงแทงผู้เสียชีวิตจนมีดแทงเข้าที่สะโพกด้านซ้าย โดนเส้นเลือดใหญ่

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่แจ้ง 3 ข้อหาดังนี้ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย 2.พกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ และ 3.มีสารเสพติดในร่างกาย

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านของนายฉัตรมงคล ผลจันทร์ ผู้ก่อเหตุ ต.ดงมะไฟ อ.ทรายมูล จ.ยโสธร พบกับนางสา (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้นำสิ่งของไปให้ญาติที่ รพ.ยโสธร กระทั่งขากลับลูกชายได้ทำโทรศัพท์มือถือตกบริเวณใกล้ ๆ กับจุดเกิดเหตุ ลูกชายจึงวนรถกลับไปเอา ระหว่างที่ลูกชายก้มเก็บโทรศัพท์นั้น ก็มีผู้เสียชีวิต และเพื่อนของเขาอีก 1 คน เดินเข้ามารุมทำร้ายร่างกาย ทำให้ลูกชายต้องใช้มีดทำครัวที่พกติดตัว ทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตเพื่อป้องกันตัว เพราะถ้าลูกชายไม่ทำอย่างนั้น ลูกชายตนอาจเป็นฝ่ายที่สูญเสียก็ได้

จากที่ตนฟังลูกชายเล่าเหตุการณ์ ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เพราะลูกชายตนไปแค่คนเดียว ส่วนอาวุธมีดนั้น ปกติลูกชายจะไม่พกติดตัว แต่เนื่องจากที่บ้านของตนขายลาบ วันเกิดเหตุเขาเลยพกมีดติดตัวไปด้วย แต่ไม่ได้พกไปก่อเหตุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนทราบเรื่องประมาณช่วงเวลา 20.30 น. ความรู้สึกตนตอนนั้น ทั้งร่างกายสั่นและทรุด ยิ่งตนเห็นมีดตนก็จำได้เลยว่า เป็นมีดทำครัวของสามี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเสียใจกับลูกชายที่เขาไปก่อเหตุแบบนี้ และตนก็เสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิดเช่นกัน ตนอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ตนไม่กล้าไปขอโทษเขาเป็นการส่วนตัว เพราะเขาเป็นคนในเมือง ตนเป็นคนบ้านนอก

สำหรับลูกชายตน เขาเป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นไปได้ตนก็อยากจะหาหลักทรัพย์มาประกันตัว แต่ตนเป็นคนจน ไม่มีเงินจะประกันลูก ตนหาเช้ากินค่ำ สงสารลูกชาย ที่ผ่านมาลูกชายพลาดมาหลายครั้ง ถูกจับคดีเสพยาเสพติด แต่ไม่เคยหนักเท่าครั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ใจจริงตนคิดว่าลูกชายทำไปเพราะช่วยเหลือตัวเอง ลูกชายกลัวโดนเขาฆ่า ก็เลยฆ่าเขาก่อน ลูกชายไม่ได้ตั้งใจฆ่าใคร