เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 63 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุ นายเจมส์ บุ้งเจาะบาง อายุ 32 ปี คุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดบุกฟัน นางสาวพูลทรัพย์ บุ้งเจาะบาง อายุ 48 ปี พี่สาว เสียชีวิตคามุ้งบนห้องนอน ภายในบ้านปูนชั้นเดียว หมู่ 1 ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ สภาพศพมีผ้าห่มและมุ้งหล่นคลุมร่าง มีคราบเลือดเลอะเต็มที่นอน หลังก่อเหตุนายเจมส์ได้หลบหนีออกไป
ล่าสุด ตำรวจได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุจุดแรก บ้านไม้ยกพื้นสูงของผู้ตาย ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านผู้ตาย ห่างกันประมาณ 30 เมตร แต่ไม่พบตัว จุดที่สองคือบ้านของนายสถิต บุ้งเจาะบาง อายุ 54 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุและผู้ตาย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 30 เมตร
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบนายเจมส์ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน สภาพถอดเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น จึงทำการควบคุมตัวและนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.วังโป่ง ซึ่งนายเจมส์ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
นายพูนศักดิ์ ขุนทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านผู้ก่อนเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนอัธยาศัยดีแต่ติดสุรา โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุนั้นบ่นกับตนตลอดว่าปวดกระดูกช่วงสะโพก เดินไม่ค่อยไหว ไปหาหมอก็ดีขึ้น ไม่กี่วันก็กลับมาปวดอีก จึงหันไปพึ่งสุรา จากคนที่ติดสุราอยู่ก่อนแล้ว กลายเป็นติดยิ่งขึ้นใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในวันจันทร์ที่ 5 ต.ค. ตนไม่อยู่บ้าน ผู้ก่อเหตุได้เดินมาที่ข้างบ้านของตนในช่วงเช้า แล้วมาอีก 3 ครั้งที่หน้าบ้านในช่วงบ่าย มาอีกที่ในเวลาประมาณ 18.00 น. ในสภาพถอดเสื้อใส่ผ้าขนหนู ยกมือไหว้ภรรยาของตน ซึ่งภรรยาของตนก็ได้ไล่ให้กลับบ้านไป มาครั้งสุดท้ายในเวลาประมาณ 20.00 น. ในสภาพเปลือยเปล่า คุกเข่ายกมือไหว้ที่หน้าบ้าน ซึ่งภรรยาของตนก็ได้ไล่ผู้ก่อเหตุให้กลับไปอีกครั้ง
ตนที่กำลังเดินทางกลับมาที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงบอกให้ภรรยาย้ายไปอยู่บ้านญาติก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการแปลก ๆ และหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในวันอังคารที่ 6 ต.ค. ผู้ก่อเหตุได้วิ่งมาโวยวายที่หลังบ้านของตน ยกมือไหว้ยายของตน แล้วก็กลับบ้านไป จากนั้นเมื่อตกเย็น ผู้ก่อเหตุก็ได้วิ่งมาที่หน้าบ้านของตนอีกรอบ จากนั้นในเวลาประมาณ 21.00 น. ตนก็ได้ยินเสียงดังทำลายข้าวของดังมาจากบ้านของผู้ตายเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจ สภ.วังโป่ง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย
กระทั่งเช้าวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบบ้านผู้ตายเต็มหน้าบ้านของตน ตนจึงได้รู้ว่าผู้ก่อเหตุใช้มีดถางหญ้าฟันผู้ตาย เจ้าหน้าที่สอบถามพี่ชายผู้ก่อเหตุ ทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปหลบอยู่บ้านพี่ชายอีกหลังหนึ่ง ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 30 เมตร เมื่อจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ตนสังเกตเห็นว่าผู้ก่อเหตุตัวสั่นคล้ายคนกลัวความผิด ขณะนี้ ตนสบายใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุได้
นายสถิต บุ้งเจาะบาง อายุ 54 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้าน ขณะนั้นตนก็สังเกตเห็นนายเจมส์วิ่งเข้ามาภายบ้านของตนด้วยท่าทีที่ลุกลี้ลุกลน ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นไม่นานตำรวจก็มาหาตนที่บ้าน ญาติร้องไห้ตะโกนว่า "พี่ตายแล้ว ๆ" จากนั้นตนก็เห็นนายเจมส์นอนอยู่ในมุ้ง กำลังซ่อนมีดทำครัวปลายแหลมไว้ข้างตัว
ตนปลุกนายเจมส์ นายเจมส์ลืมตาทำตาขวางใส่ตน ตนจึงรู้สึกกลัวว่าจะโดนนายเจมส์ใช้มีดแทง ตนจึงรีบออกจากบ้านมาบอกตำรวจให้รีบเข้าไปจับกุมตัวนายเจมส์ ทั้งนี้ ทุกครั้งที่น้องชายดื่มสุราจะมีอาการคลั่งโวยวาย แต่ไม่เคยไปทำร้ายใครให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดแล้ว เพราะมีการใช้มีดจะปาดคอตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายเจมส์ ฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยในช่วงเช้าของวันที่ 8 ต.ค. 63 ตำรวจจะนำตัวนายเจมส์ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป
Advertisement