รปภ.สาว โดนหมอด่ากราด ไม่ใส่แมสก์ขู่ปิดบริษัท แฉเจอจนชิน แนะญาติพาตรวจจิต (คลิป)
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอหนุ่มใหญ่ตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ชั่ว เพราะไม่ใส่หน้ากากอนามัย และข่มขู่ว่าจะปิดบริษัท พร้อมข้อความระบุว่า “พี่ ๆ ครับ ผมขออนุญาติครับ ช่วยตัดสินทีว่า รปภ. ผิดอะไรครับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 9 ก.ย.63 ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางนา กรุงเทพมหานคร สังเกตเห็นว่าป้อมประจำการของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะตั้งอยู่หน้าบ้าน และมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 3-4 คนคอยดูแลความปลอดภัย
น.ส.อุ๊บอิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี รปภ.หญิงที่อยู่ในคลิป ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. คู่กรณีกำลังจะขับรถเข้าหมู่บ้าน และระหว่างที่ รปภ.กำลังจะเปิดไม้กั้นประตู คู่กรณีได้ลดกระจกรถลงมา แล้วเริ่มด่ารปภ.ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
โดยด่าทอทำนองว่า “นายกฯ สั่งให้ใส่หน้ากากอนามัย ทำไมพวกมึงไม่ใส่ บริษัทมึงเดี๋ยวอยู่ไม่เกินปี เดี๋ยวก็ย้ายไป” ทั้งยังบอกว่า ตนเป็นทหารยศสูง อ้างถึงอดีตเข้าประเทศไม่ได้ พวกมึงก็จะเป็นเหมือนกัน เท่าที่ตนทราบคู่กรณีน่าจะเป็นหมอ แต่ถูกให้ออกจากราชการ เพราะรักษาคนอื่นไม่ได้ เนื่องจากมีอาการป่วยทางจิต คู่กรณีเคยอยู่ที่นี่แล้วย้ายออกไปนานแล้ว และเมื่อเดือน พ.ค.63 ได้ย้ายกลับมา และอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน
ทุกคนที่ทราบเรื่องรู้สึกสงสารลูกของคู่กรณีมากกว่า เพราะต้องมารับรู้การกระทำที่รุนแรงของคู่กรณี ใครเดินผ่านก็ชี้หน้า ตนเคยโดนด่านับครั้งไม่ถ้วน ส่วนใหญ่จะดูถูกบริษัท และคำที่บ่อยสุด คือ “พวกมึงเป็นสวะ” อีกทั้งคู่กรณียังคิดว่าทุกคนเป็นศัตรู และยังกล่าวประมาณว่า รปภ.กินค่าส่วนกลาง จ้องจะเอาคนมาขโมยของ
นอกจากนี้คู่กรณียังโวยวายคนแถวบ้าน ลูกบ้านแจ้งให้ตนไประงับเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยตนเคยไปยืนให้คู่กรณีด่าประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนกว่าคู่กรณีจะสงบสติ อีกทั้งแกร็บฟู้ดที่เข้าไปส่งอาหาร ยังเคยเล่าว่า คู่กรณีเคยไปโวยวายในห้างสรรพสินค้า กับในร้านอาหาร
ทั้งนี้ตนพยายามคิดว่า ไม่ได้ถูกหยาม และเข้าใจว่าคู่กรณีป่วย และคู่กรณีเป็นลูกบ้าน ตนต้องน้อมรับทุกอย่าง โดยทางนิติบุคคลรับทราบเรื่องแล้ว แต่ทุกคนกำลังหาทางแก้ไขกันอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ต้องการให้คู่กรณีมาขอโทษ เพราะถึงแม้ว่าจะมาขอโทษก็คงจะกลับมาทำอีก เพราะคู่กรณีมีอาการป่วยทางจิต แต่พอควบคุมตัวเองได้ก็น่าจะเหมือนคนปกติ
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพักของนายหมอ (นามสมมติ) คู่กรณี แต่บ้านค่อนข้างเงียบ มีเพียงรถเบนซ์ จำนวน 2 คันจอดอยู่ ทีมข่าวพยายามกดกริ่งหน้าบ้าน และพยายามส่งเสียงเรียกแต่ไม่มีใครออกมา โดยเพื่อนบ้านทุกคน ให้ข้อมูลว่า ถ้ามีเจ้าหน้าที่เข้ามา คู่กรณีจะไม่ยอมแสดงตัว เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พอกดกริ่งเรียกคู่กรณีก็จะเก็บตัวเงียบ แต่หากเป็นคนอื่นจะถูกตะโกนด่า
Advertisement
