เมื่อวันที่ 3 ก.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี พร้อมกับนายไชย์พล วิภา นางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าชมพู่ เดินทางมาที่สนามบิน จ.สกลนคร เพื่อเดินทางมาออกรายการที่อมรินทร์ทีวี โดยเดินทางถึงสนามบินสกลนครช่วง 08.00 น. ซึ่งก็มีคนมาขอถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ รวมทั้งมีคนนำเงินมามอบให้ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับลุงพล
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
จากนั้นช่วงเวลา 09.50 น. ก็เดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง ที่นี่ก็มีคนมาขอถ่ายรูปอยู่เป็นระยะ ๆ โดยมีช่วงหนึ่งป้าแต๋นลองเดินไขว้ขาแบบการเดินแบบ ขณะเดินออกจากสนามบิน เมื่อออกมาหน้าสนามบิน ป้าแต๋น ได้ขึ้นรถตู้ และเดินทางมุ่งหน้ามาที่อมรินทร์ทีวี เมื่อมาถึงก็มีคนมาดักรอขอถ่ายภาพเช่นกัน
จากนั้นลุงพล ป้าแต๋น ได้เข้ามาแต่งหน้าของห้องแต่งหน้าอมรินทร์ พร้อมกับเข้ามาพักผ่อนที่ห้องรับรอง ซึ่งมีพนักงานของช่องมาขอถ่ายรูปด้วย จังหวะที่ป้าแต๋นแต่งหน้าเสร็จ และเดินมาที่ห้องรับรอง ลุงพลทำท่าตกใจป้าแต๋น เมื่อเห็นใบหน้าที่แต่งมาแล้ว ลุงพูดว่า “ทำไมป้าแต๋นสวยจัง”
จากนั้นลุงพลได้มีการเข้าไปร่วมสัมภาษณ์ป้าแต๋น และไอซ์ สารวัตร ในรายการข่าวเที่ยงอมรินทร์ ซึ่งเป็นการเข้าไปโปรโมต การมาร้องเพลงร่วมกันครั้งแรก หลังลงจากเวทีคอนเสิร์ตที่พญาเต่างอย
หลังจากนั้น ลุงพล ซึ่งแต่งตัวชุดเสื้อลายคราม กางเกงยีนส์ เพื่อมาถ่ายเอ็มวี "เต่างอย" เวอร์ชั่นหลังคอนเสิร์ตที่อมรินทร์ทีวี โดยให้ทีมข่าวร่วมเป็นแดนซ์เซอร์ รวมทั้งผู้จัดการส่วนตัวของพี่จินตหรา ก็ร่วมเต้นด้วย โดยสวมชุด "ภูไทสกลนคร"
จากนั้นก็มีแดนซ์เซอร์สาว 3 คนมาร่วมแจมด้วย ซึ่งระหว่างนั้นพี่จินตหราก็เดินทางมาถึง เข้ามาร่วมถ่ายเอ็มวีด้วย โดยไม่มีการซักซ้อม แต่เล่นเอ็มวีทันที ซึ่งถือเป็นการมาถ่ายเอ็มวีคู่ครั้งแรก นอกจากนี้ในเอ็มวี ยังรับเชิญให้พี่อุ๊ปวิริยะ เข้ามาเต้นร่วมสนุกด้วย
โดยพี่จินตหรา ให้สัมภาษณ์หลังการถ่ายเสร็จ ระบุว่า จินตหรา ก็ไม่ทราบว่าจะมีถ่ายเอ็มวี แต่เมื่อรถมาถึงเห็นกำลังเต้นกัน ก็อยากมาร่วมแจมด้วย เพราะดูแล้วรู้สึกสนุก ซึ่งลุงพลสามารถทำได้อย่างดี ตนก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนตอบรับดี ทั้งงานที่พญาเต่า และยอดวิวในยูทูบ ซึ่งเอ็มวีนี้ก็จะนำไปปล่อยในยูทูบเช่นกัน ก็อยากขอให้ติดตาม
ส่วนลุงพล ก็รู้สึกดีใจ ประทับใจ และไม่รู้ว่ามีคิวถ่ายกับจินตหรามาก่อน ซึ่งก็ตกใจเหมือนกัน และขอขอบคุณจินตหรา รวมทั้งขอให้เจริญในหน้าที่ในอนาคต
หลังจากนั้นลุงพล พี่จินตหรา ได้มีการเตรียมตัวเพื่อเข้าบันทึกรายการ Apop today ซึ่งมีการสัมภาษณ์และร่วมร้องเพลง ซึ่งช่วงให้สัมภาษณ์ลุงพลถึงกับน้ำตาไหล หันหลังให้กล้อง เพราะคิดถึงเรื่องราวที่เจอมาตั้งแต่เริ่มคดีน้องชมพู่ และวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ซึ่งป้าแต๋นก็ได้รับเชิญขึ้นมาบนเวที และมีการให้ป้าแต๋นร่วมเต้นเพลงเต่างอยทิ้งท้ายในรายการด้วย
งานนี้ คุณจินตหรา ก็เลยถือโอกาสมาโปรโมตเพลงพร้อมกับลุงพล และป้าแต๋น ที่อมรินทร์ทีวี โดยหลังจากถ่ายรายการเสร็จ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ซึ่งก็มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก โดยสื่อเริ่มด้วยคำถามที่ว่า ทำไมมีการถ่ายทำ MV เพลงนี้อีกครั้ง ลุงพล ก็เผยเหตุว่า เพราะของเก่า ไม่มีคุณจินตหรา ซึ่งตนก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ที่ได้กระทบไหล่คนดัง ตอนนี้ก็ยังเขิน ๆ อยู่ ซึ่งที่เพลงนี้กระแสดี ยอดวิวเยอะ ตนก็ดีใจกับคุณจินตหราด้วย
หลังจากนั้นสื่อมวลชนถามว่า รู้สึกอย่างไรที่คนมองว่าลุงพลโด่งดังเพราะข่าวเสียชีวิตของหลานตัวเอง ลุงพล ก็ยืนยันว่า ตนไม่ได้เกาะกระแสจากเรื่องน้องชมพู่เสียชีวิต เพื่อฉวยโอกาสให้ตัวเองมีชื่อเสียง ทุกวันนี้ตนก็ยังเป็นคนเดิม และไม่ได้ต้องการทรัพย์สินอะไรมากมาย มองว่าเป็นเรื่องดี ๆ ที่เข้ามาในครอบครัวมากกว่า ซึ่งตนก็ไม่เคยเก็บดราม่าต่าง ๆ กลับมาคิดเลย แต่ก็ยอมรับว่าแอบเป็นกังวลเล็ก ๆ เพราะคดีของหลานยังไม่จบ ทำให้มีบางเวลาที่ส่งความสนุกสนานได้ไม่เต็มที่ แต่ตนก็ไม่อยากให้เสียน้ำใจของผู้ที่หยิบยื่นมาให้
นอกจากนี้ ลุงพล ยังเผยต่อว่า ตนมองว่างานที่รับหากไม่มีผลกระทบต่อรูปคดีก็ทำได้ เพราะตอนนี้ตนก็ไม่ได้ทำงานทำให้ไม่มีรายได้มาช่วยเหลือครอบครัว สำหรับที่มีข่าวออกมาว่าตนเปิดรับบริจาคก็ไม่จริง ลองเช็กบัญชีดูได้ ไม่มีเงินเข้าแม้แต่บาทเดียว ตนก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะดัง ตอนนี้มีงานติดต่อมาบ้าง งานรีวิวสินค้าก็มี แต่ตนบอกขอใช้ดูก่อน ส่วนงานโชว์ตัวก็ติดต่อมาผ่านคุณอุ๊บ ซึ่งคุณอุ๊บ ไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัว เป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น เหมือนกับ ไอซ์ สารวัตร ตนมีป้าแต๋น เป็นผู้จัดการส่วนตัวเพียงคนเดียว
ด้านคุณจินตหรา เปิดเผยว่า ตอนแรกไม่ได้คิดจะทำเพลงร่วมกัน แต่บังเอิญผู้จัดการส่วนตัวของตน บ้านอยู่ใกล้กับลุงพล แล้วก็เสนอไอเดียมาว่า ลุงพลกำลังดัง ดึงมาร่วมงานบุญที่พญาเต่างอยในวันที่ 1 ก.ย.63 ดีหรือไม่ คนจะได้มาเยอะ ๆ ตนก็เห็นด้วยเพราะตนจัดคนเดียวทุกปีก็กลัวประชาชนเบื่อ ไม่ได้ต้องการเกาะกระแสลุงพลแต่อย่างใด
สำหรับการแถลงข่าวของคุณจินตหรา ลุงพล และป้าแต๋น ในวันนี้สังเกตเห็นว่า คุณจินตหรา มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก บางช่วงบางตอนก็เหมือนจะร้องไห้ แถมเวลาเจอคำถามของนักข่าวบางคำถาม ก็ไม่ได้ตอบ ทางลุงพลจึงต้องตอบให้แทน
หลังจบการแถลงข่าว คุณจินตหรา เปิดเผยว่า ช่วงการแถลงข่าวตนมีความตื่นเต้นกว่าเล่นคอนเสิร์ตอีก เพราะเจอพี่ ๆ สื่อมวลชนถามคำถาม จนคิดคำตอบไม่ออก เลยนั่งเบลอ ๆ อย่างที่เห็น ยอมรับว่าตกใจ เพราะคำถามแรง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
คุณจินตหรา บอกอีกว่า หากถามเกี่ยวกับเรื่องเพลง หรือเรื่องที่ตนถนัด ตนก็ยังตอบได้ แต่พอถามแบบนี้ ก็ทำเอาตนไปไม่เป็น หากถามว่าเครียดหรือไม่ที่เจอคำถามทำนองว่า “เลือกมาร่วมงานกับลุงพล แล้วหากลุงพลเป็นคนร้ายจะทำอย่างไร” หรือ “เกาะกระแสลุงพลหรือเปล่า” ตนก็ไม่เครียด แค่กังวลว่าจะตอบแบบไหนดี ซึ่งถ้ามีผู้จัดการเข้าร่วมแถลงข่าวด้วย คงจะตอบแทนตนได้ดีกว่านี้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนเริ่มคิดจะร่วมงานกับลุงพล ผู้จัดการเป็นคนจัดคิวให้ทั้งหมด ตนรู้แค่ว่าจะมาร่วมงานกับลุงพล ซึ่งเขาก็โอเค สามารถทำงานด้วยกันได้ ตนโฟกัสแต่เนื้องานจริง ๆ ไม่ได้ไปสนใจในเรื่องของคดีเลย
เมื่อถามต่อว่า มีช่วงหนึ่งที่จะร้องไห้ใช่หรือไม่ คุณจินตหรายอมรับว่า ใช่ เพราะตนก็ไม่รู้จะตอบไปในทิศทางไหนดี ตนไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมด ถ้ารู้ตนก็ตอบอยู่แล้ว ตนรู้แค่ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น สุดท้ายก็ได้อัปเดตจากคุณจินตหราว่า มีแพลนจะทำอะไรกับลุงพล เจ้าตัวก็บอกว่า ตอนนี้มีแค่เพลง เต่างอย ต้องรอดูในอนาคตอีกทีว่าจะทำอะไรเพิ่มอีกหรือไม่
ในส่วนของคอนเสิร์ตที่จะขึ้นร่วมกันอีก ก็ยังไม่มี เพราะคิวไม่ตรงกัน ซึ่งก็มีงานคู่กันติดต่อมาเยอะมาก ตนก็ดีใจที่เพลง เต่างอย มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นอีก เมื่อไรที่ว่างตรงกับลุงพลแล้วละก็ คงได้เห็นขึ้นเวทีเดียวกันอีกแน่นอน เพราะทั้งลุงพลและป้าแต๋น ก็ชอบสนุก เราคนอีสานบ้านเดียวกัน เวลาเจอกันก็จะเป็นกันเอง และอบอุ่น ไม่ได้มองเป็นศิลปินโด่งดัง
นอกจากนี้ คุณจินตหรา กล่าวอีกว่า นอกจากงานร้องเพลงก็ยังมีบางรายการติดต่อมา แต่ไม่ได้รับ เพราะผู้จัดการส่วนตัวรู้ดีว่า หากมาถามอะไรเกี่ยวกับคดีของลุงพล ตนจะไปไม่เป็น เขาเลยไม่รับให้กลัวตนจะพูดผิดพูดถูก
ลุงพล เปิดเผยว่า รู้สึกโล่งที่สื่อมวลชนยิงคำถาม ตนก็พยายามพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แล้วก็ประเด็นดราม่าต่าง ๆ ตนก็พยายามพูดให้ทุกคน ทุกฝ่ายเข้าใจว่าตนไม่ได้มาฉวยโอกาสสร้างผลงาน หรือโกยเงินโกยทองเข้าบ้าน จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรมากมายขนาดนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า แต่ละคำถามที่สื่อถามนั้นแรงหรือไม่ ลุงพลก็บอกว่า ไม่แรง ถือว่าเป็นคำถามพื้น ๆ ที่คนสงสัย แต่ตนสบายใจที่ได้พูดออกไป เพราะเป็นสิ่งที่ตนและป้าแต๋นยืนยันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินบริจาคก็ไม่เคยมี แล้วพวกการรับสิ่งของ อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีเข้ามาทุกวัน จะมีแต่เจ้าใหญ่ ๆ ที่ส่งมาจากเมืองนอก มูลค่า 3 หมื่นกว่าบาทแพงที่สุดแล้วที่ตนได้รับ นอกจากนั้นก็จะมีคนที่ส่งของมาเป็นชิ้น ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีคนไปให้กำลังใจที่บ้านมากกว่า
เมื่อถามถึงการมาเยือนช่องอมรินทร์ทีวี ลุงพล เผยความรู้สึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า นี่เป็นครั้งแรกและเต็มใจมา สิ่งไหนที่เป็นเรื่องดี โลกก็เปิดกว้างเสมอ ส่วนที่พี่อุ๊บ วิริยะ นักปั้นชื่อทอง จะมาขอเจรจาเป็นผู้จัดการส่วนตัวนั้น ขณะนี้มีการปรึกษากันแล้ว ได้ข้อสรุปว่า คุณอุ๊บ จะเป็นคนช่วยหางานให้ตนกับป้าแต๋น เพื่อที่จะมีรายได้ในช่วงนี้ที่ไม่ได้ทำงานการเกษตร
Advertisement