เปิดใจ! พ่อกระเตงลูกส่งแกร็บ เผยตกงานแต่เลี้ยง 3 ชีวิต ซึ้งร้านบะหมี่ให้กินฟรี (คลิป)
จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ร้านปู๊ตี่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง สามย่าน MRTซอยข้างวัดหัวลำโพง" ได้โพสต์ภาพหนุ่มแกร็บฟู้ดรายหนึ่ง ที่ได้นำลูกสาวนั่งในกระเป๋าจิงโจ้ ซึ่งขณะนั้นเด็กกำลังนอนหลับ พร้อมกับข้อความว่า “ใครรู้จักน้องคนขับ Grab ที่อุ้มลูกส่งของในรูปท่านนี้ ช่วยบอกเขาทีนะครับ ว่าปู๊ตี่บะหมี่เกี้ยวกุ้งสามยาน MRT มีความยินดีขออนุญาตดูแลบะหมี่เกี้ยวกุ้งให้เขาและลูกฟรี 1 ปี มาทานได้ตลอดนะครับ #สู้ไม่ถอยเพื่อลูก #คนสู้ชีวิต #คนไทยต้องช่วยดูแลกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ยังได้พูดคุยกับหนุ่ม แกร็บรายดังกล่าว คือ นายมานพ ชัยสิทธิ์ อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวว่ามีการแชร์ภาพของตนกับลูกในทางโลกโซเชียลฯ ช่วงเย็นวานนี้ โดยรุ่นน้องที่ขับแกร็บมาบอก พร้อมกับนำรูปมาให้ดู และให้ติดต่อกลับไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวย่าน 3 ย่าน
ทั้งนี้ตนยอมรับว่าตกใจมากที่รูปตัวเองและลูกสาววัย 1 ขวบ 8 เดือน ถูกนำไปเผยแพร่ จนพูดไม่ออก และได้ทักไปสอบถามกับเจ้าของร้านบะหมี่ บอกให้ตนเข้าไปรับประทานอาหารในร้านฟรี และยอมรับว่าได้ถ่ายรูปตน แต่ตนคงไม่กล้าไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านดังกล่าว เนื่องจากเกรงใจ แต่ต้องขอขอบคุณทางเจ้าของร้านที่หวังดีกับตน
ขณะนี้ตนยังไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมเจ้าของร้านบะหมี่ ถึงจะให้ตนไปทานอาหารฟรี 1 ปี และสาเหตุที่โพสต์รูปตนลงโซเชียลฯ หลังจากนี้ช่วงเย็น ตนคงจะสอบถาม เพราะเมื่อวานกลับบ้านดึก และในช่วงช่วงเช้าได้คุยกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยตนได้ขอให้ทางเจ้าของเพจร้านลบโพสต์ออก เนื่องจากถูกกระแสวิจารณ์ว่าสร้างภาพ หากตนอยากได้อะไรตนหาด้วยตัวเองจะดีกว่า
โดยปกติแล้วลูกสาวจะออกมาด้วยเป็นครั้งคราว 2-3 วัน/สัปดาห์ ที่ผ่านมาลูกสาวได้อ้อนว่าอยากจะออกมาด้วยเสมอ ด้วยความที่ลูกสาวสนิทกับตนมาก และลูกสาวชอบนั่งรถรถจักรยานยนต์เที่ยวด้วย อีกทั้งภรรยาของตนไม่อยู่บ้าน เนื่องจากต้องออกไปหางานทำ หากวันไหนที่ภรรยาออกไปหางานทำ ตนก็ต้องนำลูกสาวไปทำงานด้วย เพราะจะไม่มีใครอยู่บ้านเพื่อดูแลลูก
นอกจากนี้ ตนจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกจากบ้านไปทำงาน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และจะกลับบ้านในเวลา 22.00 น. วิ่งวันละ 10 กว่ารอบ ตนทำงานทั้งส่งอาหาร และรับส่งเอกสาร ทำมาได้ 3 เดือนแล้ว เนื่องจากตกงาน โดยก่อนหน้านี้ตนทำงานโรงแรมแห่งหนึ่ง และภรรยาก็ต้องมาตกงานเช่นกัน ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่เดียวกัน
โดยรายได้ในแต่ละวันนั้นไม่เท่ากัน ประมาณ 500-700 บาท ตนเคยได้สูงสุด 1,100 บาท ส่วนตัวแล้วมีรายจ่ายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้านเดือนละ 6,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 2,000-3,000 บาท ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ 2,000 บาท ค่าอาหาร 3 คนรวมกัน ค่าบัตรเครดิตและหนี้อื่น ๆ ต้องจ่ายเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งทุกวันนี้ตนเป็นหนี้บัตรเครดิตรวมแล้วประมาณ 40,000 บาท ก่อนหน้านี้ทำงานในโรงแรม จะได้เดือนละ 38,000 บาท
นายมานพ ยังกล่าวอีกว่า หลายคนคิดว่าที่ตนนำลูกออกมาทำงานด้วย จะได้รับอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุนั้น ตนก็ยอมรับว่าอันตรายจริง แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เนื่องจากไม่มีใครดูแลลูก และต้องแบกรับค้าใช้จ่ายเพื่อเลี้ยงครอบครัว
ทีมข่าวอมรินทร์ ได้พูดคุยกับ นางปรีดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา เวลาช่วง 13.00 น. ตนได้ไปทำธุระ พอถึงไฟแดงแยกนราธิวาส ตนได้เห็นชายขับแกร็บฟู้ด ที่อุ้มลูกซบไหล่ ขณะนั้นน้องนอนหลับ โดยชายคนดังกล่าวได้จับลูกสาวอย่างทะนุถนอม ตนเลยตัดสินใจถ่ายรูปไว้ เนื่องจากเห็นแล้วประทับใจ รู้สึกสงสารที่ต้องทำหน้าที่เลี้ยงลูกไปด้วย
หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ตนได้พูดคุยกับครอบครัวว่า อยากเจอตัวหนุ่มคนดังกล่าว จึงได้โพสต์ลงไปในแฟนเพจของร้าน หวังว่าจะให้มาทานร้านอาหาร โดยสามารถมาทานได้ตลอด ไม่ใช่เพียงแค่ 1 ปี หากผ่านมาก็แวะมาได้เสมอ มานั่งคุยกันเหมือนพี่น้อง หรือเพื่อน ตนเพียงอยากแบ่งปันน้ำใจให้ เพราะเห็นว่าน่ารัก
ส่วนกระแสที่หลายคนมองว่า ร้านของตนต้องการกระแสนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโปรโมตร้าน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ตนมีก็อยากแบ่งปัน เพราะตนไม่ได้เดือดร้อน เป็นเหมือนการสร้างกำลังใจให้แก่ผู้อื่น หากตนไม่โพสต์ก็จะไม่สามารถตามหาหนุ่มคนนี้ได้ เพราะตนอยากเจอ อยากแบ่งปันเท่านั้นเอง ส่วนเวลาที่ทำดีแต่ถูกมองว่าเอาหน้า ตนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเราทำแล้วมีความสุขก็ทำไป
Advertisement
