จากกรณี สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุที่ รถจักรยานยนต์ ทะเบียน พพย 630 กรุงเทพมหานคร ขับขี่มากัน 2 คน ก่อนจะหักหลบรถจักรยานยนต์ 2 คันที่ขับย้อนศรมา เป็นเหตุให้รถเสียหลักล้ม โดยผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ทราบชื่อ นางสาวนุชนารถ ทาสีบุญ อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บแขนหัก เหตุเกิดที่ ถนนลายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
คลิปกล้องวงจรปิด จากอู่รถยนต์ วันที่ 18 ก.ค.63 เวลา 06.47 น. ความยาว 0.20 น. จับภาพขณะรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับรถย้อนศร โดยผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีเหลืองได้ขี่รถจักรยานยนต์นำหน้า ส่วนวินจักรยานยนต์ขี่ตามหลังมา วินาทีที่ 0.03 สองสาวได้ขับมาทางตรง และเบี่ยงตัวหลบรถที่ย้อนศรมา วินาทีที่ 0.04 ชนกับฟุตพาท วินาทีที่ 0.05 ชนเข้ากับรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าอู่รถยนต์
คลิปกล้องวงจรปิดความยาว 0.30 น. เหตุการณ์เดียวกัน แต่จับภาพอีกมุมหนึ่ง พบจักรยานยนต์สองคัน ขับรถย้อนศร และวินาทีที่ 0.12 พุ่งชนรถเก๋ง จนเสียหลักล้มอย่างแรง และรถที่อยู่ข้างทางสั่นไหวไปตามแรงที่ถูกชน
ล่าสุดวันที่ 19 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ คนที่ขับรถย้อนศร จำนวน 2 คน ได้แก่ ผู้หญิงที่ขับนำหน้าวินจักรยานยนต์ และวินจักรยานยนต์ที่ขับตามหลังมา ได้เดินทางเข้ามามอบตัว และรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทีมข่าวได้พยายามสอบถาม ผู้หญิงที่ขับนำหน้าวินจักรยานยนต์ แต่ไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย ซึ่งทีมข่าวพยายามสอบถามชื่อ แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมบอกชื่อแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ ป้อมทอง อายุ 54 ปี หนึ่งในคนที่ขับรถย้อนศร ประกอบอาชีพวินจักรยานยนต์ เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ เวลา 07.00 น. ตนเพิ่งจะส่งผู้โดยสารเสร็จ และได้ขี่รถย้อนศรตามหลังผู้หญิงอีกคน ด้วยความเร็ว 20 กม. เพราะตนขับรถย้อนศร จึงต้องคอยระวังรถ ส่วนผู้เสียชีวิตขับรถมาทางตรง ด้วยความเร็วประมาณ 80 กม. และบังเอิญมาเจอรถจักรยานยนต์ที่ย้อนศรมาจำนวน 2 คัน จากนั้นผู้เสียชีวิตได้ขับรถชิดซ้ายเพื่อหักหลบ ทำให้เสียหลักเกี่ยวกับฟุตพาท และชนเข้ากับรถที่จอดอยู่หน้าอู่รถยนต์
ขณะนั้นตนไม่ได้ลงมาดู เพราะตนรู้สึกตกใจมาก และคิดอะไรไม่ออก อีกทั้งตนไม่ทราบว่ามีคนเสียชีวิตด้วย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคงจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน แต่พอตนตั้งสติได้ ตนก็เข้ามามอบตัวทันที และยอมรับว่าตนมีส่วนผิด และพร้อมรับผลที่ตามมาทุกอย่าง
ขณะนี้ตนยังไม่เคยเจอหน้าญาติของผู้เสียชีวิต และกลัวว่าทางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจะโกรธเหมือนกัน อย่างไรก็ตามตนตั้งใจจะไปร่วมงานศพ และอยากจะเข้าไปกล่าวขอโทษทางญาติพี่น้อง
สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้น คนที่ขับรถย้อนศรทั้งสองคน ได้ถูกตั้งข้อหา ทั้งหมด 4 กระทง 1.ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย หรือ ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2.ไม่ขับรถไปตามที่เจ้าพนักงานกำหนด (ขับรถย้อนศร) 3.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือ ควาทเดือดร้อน 4.ผู้ขับขี่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หรือทรัพย์สิน ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ หรือไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน
Advertisement