
กรณีตำรวจออกหมายจับชาวบ้านกกกอก นายนริน เชื้อคมตา อายุ 48 ปี ในข้อหา "กระทำอนาจารเด็กไม่เกิน 15 ปี" ซึ่งมีการคาดการณ์เชื่อมโยงว่านายนริน อาจจะมีความเกี่ยวข้องในคดีฆ่าน้องชมพู่หรือไม่ เพราะคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ได้ผ่านมาแล้ว 45 วัน

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 08.00 น. ตำรวจ สภ.กกตูม ได้คุมตัวนายนริน เชื้อคมตา ออกจากห้องขังชั้น 2 มาสอบปากคำเพิ่มเติมและพิมพ์ลายนิ้วมือในห้องสอบสวนชั้น 1 ซึ่งระหว่างเดินลงทางบันได้ นายนริน ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนไม่ใช่คนร้ายที่กระทำกับน้องชมพู่ เพราะในวันที่ 11 พ.ค.63 ที่เป็นวันเกิดเหตุนั้นตนนอนอยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปข้างนอก

ต่อมานางฝน ภรรยาของนายนริน ได้เดินทางมายัง สภ.กกตูม โดยได้พูดกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า เบื้องต้นได้พูดคุยกันบ้างแล้ว เมื่อวานตอนที่มาเจอพบว่าสามีเหมือนมีอาการมึนเมาอะไรสักอย่าง

เบื้องต้นสารวัตรเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนนายนริน ได้ให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน จะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ภายหลังสอบปากคำ ในช่วงที่ตำรวจ สภ.กกตูม คุมตัวนายนรินจากห้องสอบปากคำไปขึ้นรถเพื่อไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งระหว่างที่ควบคุมตัวนายนรินได้สวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเจ้าตัวว่า ถูกบังคับให้รับสารภาพเรื่องคดีอนาจารหรือไม่ ได้คำตอบสั้น ๆ กลับมาว่า "ผมไม่ได้ทำ"
นางฝน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 11 พ.ค.63 ที่เป็นวันเกิดเหตุนั้น สามีของตนนอนอยู่ที่บ้านตั้งแต่เช้า แต่ตนจำเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ กระทั่งเวลา 07.00 น. จนถึงช่วงบ่าย สามีของตนก็อยู่ที่บ้านโดยมีลูก ๆ อยู่ด้วย ส่วนช่วงค่ำสามีได้ขึ้นภูเขา แต่ตนไม่ทราบว่าสามีขึ้นภูเขาช่วงเวลาใด เพราะตอนนั้นตนก็ได้ออกไปช่วยตามหาน้องชมพู่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารู้สึกกังวล ซึ่งตอนนี้ก็ได้เตรียมเรื่องประกันตัวสามี
นางฝน ยังได้เดินทางมายังสภาทนายความจังหวัดมุกดาหาร เพื่อร้องเรียนกับสภาทนายความ กรณีที่นายนรินได้รับการประสานทางโทรศัพท์ว่าจะมาคุมตัวนายนรินไปสอบปากคำเรื่องคดีน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 จากวันดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว กระทั่งล่าสุดมีการออกหมายจับสามีในคดีอนาจาร โดยวันนี้ ทนายนฤนารถ กลิ่นปทุมทรัพย์ ประธานสภาทนายความจังหวัดมุกดาหาร ได้มารับเรื่องด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ตนเดินทางมาร้องเรียนนังสภาทนายความ เนื่องจากคิดว่านายนรินไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเรื่องที่น้องขวัญ ถูกกระทำอนาจารนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.พ. ซึ่งในตอนนั้นน้องขวัญได้ถูกเพื่อนที่เป็นเด็กผู้ชายต่อยท้องที่โรงเรียน และไม่ได้เกิดในหมู่บ้าน กระทั่งล่าสุดสามีของตนถูกออกหมายจับ ซึ่งยิ่งทำให้ตนงงและแปลกใจ เพราะในช่วงที่น้องขวันถูกกระทำนั้น มีคู่กรณีเป็นผู้ชายที่โรงเรียนไม่ใช่สามีของตน แต่ล่าสุดตำรวจได้จับกุมแฟนตนไปกักขังหลายวันเพื่อสอบปากคำคดีของน้องชมพู่ ซึ่งตนคิดว่ามีสิ่งผิดปกติหลายอย่าง เพราะตำรวจมาจับสามีตนในช่วงคดีของน้องชมพู่ ก็กลัวว่าจะตกเป็นแพะ ซึ่งตอนนี้สามีของตนยังให้การปฏิเสธในคดีอนาจาร เพราะไม่ได้ทำ


เส้นทางที่ 1 = 400 เมตร (เส้นทางเข้าบ้านชมพู่ เส้นหลัก) ต้องเดินผ่านถนนหลักในหมู่บ้าน ระยะเวลาเดินเท้า 5 นาที ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด


เส้นทางที่ 2 = 450 เมตร ระยะเวลาการเดินเท้า 5.30 นาที ต้องเดินผ่านถนนหลักในหมู่บ้าน


เส้นทางที่ 3 = 500 เมตร จะผ่านบ้านประมาณ 4-5 หลัง จากนั้นก็ถึงป่ายางท้ายซอยดังกล่าว ก่อนเดินไปถึงบ้านน้องชมพู่ จึงใช้เวลาทั้งสิ้น 6.31 นาที

ทีมข่าวเดินทางมาทดสอบการเดินจากบ้านนายนริน เชื้อคมตา ไปจนกระทั่งถึงบ้านน้องชมพู่ ซึ่งสามารถเดินได้ตามเส้นทาง คือ เข้าซอย 1 2 และ 3 แต่ละเส้นทางมีระยะต่างกันออกไป
เส้นทางที่ 1 = 400 เมตร (เส้นทางเข้าบ้านชมพู่ เส้นหลัก)
เส้นทางที่ 2 = 450 เมตร
เส้นทางที่ 3 = 500 เมตร

ทีมข่าวทดสอบเดิน โดยเริ่มจับเวลาการเดินเพื่อเดินมาที่บ้านน้องชมพู่ พบว่าหากเลือกจาก 3 เส้นทาง เป็นทางที่ปลอดคนมากที่สุด ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าวันที่ 11 พ.ค.63 เป็นวันแรกนาขวัญ ชาวบ้านส่วนใหญ่ออกไปทำสวน ทำไร่ เพราะเป็นวันดี ระหว่างทางต้องผ่านซุ้มประตูวัด ข้ามถนน จากนั้นก็จะเข้าซอย 3 ก่อนเดินผ่านบ้านคนไป ประมาณ 4-5 หลัง จากนั้นก็ถึงป่ายางท้ายซอยดังกล่าว ก่อนเดินไปถึงบ้านน้องชมพู่ จึงใช้เวลาทั้งสิ้น 6.31 นาที

ทั้งนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายคล้าย เงินนาม ชาวบ้านที่อยู่ตรงข้ามปากซอยเข้าบ้านนายนริน ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์มีวีว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10-12 พ.ค.63 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ วันเกิดเหตุ และหลังวันเกิดเหตุน้องชมพู่หายตัวไป ตนเองก็ไม่รู้ว่านายนรินเขาอยู่บ้าน หรือออกไปที่ไหนหรือไม่ แต่ปกติแล้วนายนริน จะมีอาชีพเป็นนายพราน ชอบเข้าป่าหาของป่า
ส่วนวันที่ 11 พ.ค.63 นั้น ตนก็ไม่เห็นนายนริน ออกมาจากหน้าปากซอย ซึ่งบ้านของตนจะอยู่ปากซอยเข้าบ้านของนายนริน แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะเลือกออกจากบ้านไปทางด้านหลังหรือไม่ เพราะสามารถเข้าออกจากซอยด้านหลังบ้านนายนริน ก็ได้ ถ้าหากเขาจะเข้าไปหาของป่า

อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้ว ตนก็คิดว่านายนริน ไม่น่าจะก่อเหตุกับน้องเอ เพราะนายนรินเป็นคนดี ไม่เคยมีประวัติลักษณะนี้ และสำหรับกรณีนายนรินให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์ข่าวน้องชมพู่ บางครั้งให้สัมภาษณ์ว่าวันเกิดเหตุ นอนอยู่ป่า บางครั้งก็ให้สัมภาษณ์ว่านอนอยู่บ้าน ตนก็ไม่แน่ใจว่านายนริน ให้สัมภาษณ์หลงวันหรือไม่ ส่วนนายนรินกับน้องชมพู่นั้น ตนก็ไม่เคยเห็นว่าไปด้วยกัน หรือสนิทกัน
Advertisement