จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง และมีข้อมูลว่าเส้นผมของน้องชมพู่ถูกตัดไป ซึ่งพ่อแม่ของน้องชมพู่เชื่อว่าคนร้ายได้นำเส้นผมไปทำเรื่องไสยศาสตร์ นั้น
วันที่ 13 มิ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ ที่พักสงฆ์ภูหลวง ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร พบกับ พระสมบัติ อภิสัทโธ ประธานที่พักสงฆ์ภูหลวง บอกว่า เส้นผมของน้องชมพู่ที่หายไปนั้น เอาไปทำอะไรไม่ได้ เพราะตนบวชเป็นพระมานาน ไม่เคยได้ยินว่าเส้นผมเด็กจะนำไปทำเรื่องไสยศาสตร์ได้
และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่น้องชมพู่จะเดินหลงขึ้นไปเสียชีวิตเอง อีกทั้งน้องชมพู่เป็นเด็กบ้านนอกก็อาจจะเดินไปได้ไกลกว่าเด็กที่โตในเมือง และเชื่อว่าถ้าน้องชมพู่เดินหลงไปคนเดียวจริง ๆ ในความเป็นเด็กคงจะไม่เดินกลับทางเก่า แต่จะเดินกระเสือกกระสนไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเสียชีวิต เพราะว่ามีโอกาสพูดคุยกับตำรวจและเคยได้ยินตำรวจพูดว่าคนร้ายจะต้องมีความเป็นมืออาชีพมาก เพราะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้
นอกจากนี้ ได้สอนกับนายไชย์พล หรือลุงพล เป็นกุศโลบายไปว่า ถ้ามีแพะกับลาไปกินน้ำที่ริมสระ แล้วเกิดมนุษย์หาปลาในสระไม่ได้เขาก็จะโทษแพะกับลาว่ากินปลา ซึ่งก็มีแพะกับลาจะเคราะห์ร้าย ซึ่งเปรียบคดีนี้ก็เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าน้องชมพู่ถูกฆ่าหรือเดินหลงไปเสียชีวิตเอง
คิดว่าตำรวจคงไม่จับแพะ แต่คงจับลาเพราะลามันโง่ และตำรวจคงต้องพยายามหาคนที่จะมารับผิดให้ได้ แม้จะยังไม่รู้ว่าน้องชมพู่ตายเองหรือไม่
ขณะที่ความเป็นไปได้ที่น้องชมพู่จะเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟด้วยตัวเองนั้น มีหลายคนที่ไม่เชื่อและมั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้ คือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุรโชค เจษฏาเดช อดีตผู้กำกับการสืบสวน ภ.จว.อำนาจเจริญ
Advertisement