จยย.ซวย!เด็ก 16 ขับเก๋งชนเสียหายนับแสน ญาติชดใช้แทนแค่ 2 หมื่น ลั่นมากกว่านี้ก็ไปฟ้องเอา (คลิป)
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Job Jab โพสต์คลิปอุบัติเหตุบริเวณแยกชิดลม ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ปรากฏภาพรถจักรยานยนต์กำลังขี่ผ่านแยกไฟแดงดังกล่าวตามสัญญาณไฟเขียว แต่ถูกรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง ขับฝ่าไฟแดงพุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งหลังเกิดเหตุทราบว่าคู่กรณีเป็นเด็กชายวัย 16 ปีเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับผู้เสียหายย่านสาธุประดิษฐ์ 57 แขวงบางโพงพาง เขตยานาวา กรุงเทพฯ ได้พบกับนายอนุพงษ์ อยู่รอด อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจโพสต์คลิปวงจรปิด ว่า ตนต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะทางครอบครัวของเด็ก 16 ปี บอกให้พวกตนไปฟ้องร้องเอา จึงจะยอมชดใช้ค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ทั้งนี้ตนทราบมาว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถที่เด็ก 16 ปีรายนี้ และเพื่อน ๆ อีก 3 คน รวมเงินกันซื้อเอง ซึ่งรถไม่มีพ.ร.บ.รถยนต์ และใบขับขี่แต่อย่างใด
นายอนุพงษ์ เปิดเผยว่า วันที่ 11 เม.ย.63 เวลาประมาณ 13.26 น. ตนกับแฟนสาวเพิ่งกลับจากทำธุระ และกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านย่านถนนสาธุประดิษฐ์ เมื่อมาถึงแยกชิดลมจอดรถติดสัญญาณไฟจราจร กระทั่งสัญญาณไฟเขียว ตนได้มองซ้ายขวาและขับออกไป ทันใดนั้นมีรถเก๋งสีขาวพุ่งเข้ามาและชนเต็มแรงและกระแทกรถของตน ทำให้ตนและแฟนตกลงจากรถทันที โดยรถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวก็ไม่ยอมจอด จากนั้นก็ได้ขับหลบหนีไปทางถนนเพลินจิต จึงได้ให้น้องไปแจ้งความเอาไว้ให้
ขณะเกิดเหตุตนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขามีรอยช้ำ หัวเข่าและข้อเท้าด้านขวารู้สึกเจ็บ ส่วนแฟนสาวขณะนั้นมีอาการชักกระตุกอยู่กลางถนนประมาณ 2-3 นาที และมีสติขึ้นมาเอง และพบว่าศรีษะด้านหลังปูดบวม และมีรอยฟกช้ำตามตัว ข้อศอกขวาเจ็บ ซึ่งตนและแฟนเข้ารักษาที่ รพ.กล้วยน้ำไท เป็นระยะเวลา 3 วันก่อนที่แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านในวันที่ 14 เม.ย.63 ที่ผ่านมา
หลังจากออกจากโรงพยาบาลตนได้ดำเนินเรื่องต่าง ๆ ไปตามขอกล้องวงจรปิด และทราบว่าวันเกิดเหตุคู่กรณีผิด เพราะวิ่งชิดขวาสวนเลนขึ้นมา เนื่องจากปกติถนนดังกล่าวต้องวิ่งเลนซ้าย เพราะเป็นถนน 2 เลนสวนกัน ซึ่งตำรวจได้ติดตามและเรียกคู่กรณีมาเคลียร์กับตนที่ สน.ลุมพินี โดยตนเรียกร้องค่าเสียหายเป็นค่าซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาล รวมกันเป็นเงินประมาณ 160,000 บาท เพราะค่าเสียหายแค่รถจักรยานยนต์ก็เกือบแสนบาทแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้หวังว่าจะให้จ่ายครั้งเดียว แต่แม่ของเด็กชายบอกว่า “งั้นก็ดำเนินคดีไปเลย ไปฟ้องร้องเอา นึกว่าจะจ่ายแค่หมื่นสองหมื่น” ตนก็ได้โต้เถียงกันอยู่สักพัก ซึ่งฝ่ายคู่กรณียังไม่ยอมชดใช้ ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องทางกฎหมาย
ทั้งนี้สำหรับตนอยากฝากถึงความรับผิดชอบถึงคู่กรณีว่า วันเกิดเหตุควรจะจอดลงมาดูบ้าง วันที่เจอกันก็ยังไม่มีการขอโทษ ไม่มีความสำนึกผิดเลย ซึ่งเด็กชาย 16 ปี วันที่เจอกันที่โรงพักก็ไม่พูดอะไร
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับน.ส.กรองทิพย์ ทิพวัฒน์ อายุ 30 ปี แฟนสาวนายอนุพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุระหว่างที่ตนนั่งซ้อนท้ายอยู่บนรถจักรยานยนต์ของแฟนหนุ่มนั้น ก็มีรถพุ่งเข้ามาชนตนไม่รู้สึกตัว และมีอาการวูบไป ไม่ได้ยินอะไรเลย กระทั่งฟื้นมาบนถนนแฟนบอกว่าตนมีอาการชักเกร็ง ตอนนั้นก็รู้สึกปวดศรีษะมาก
หลังจากออกจากโรงพยาบาล เบื้องต้นยังมีอาการปวดศีรษะ ในทุก ๆ เช้าที่ตื่นมาจะรู้สึกชาและเจ็บจี๊ดในศีรษะ ส่วนแผลที่ข้อศอกขวาตอนนี้เริ่มหายแล้ว ซึ่งแพทย์บอกว่าผลข้างเคียงในอนาคต อาจจะมีอาการชักเวลาที่มีอาการป่วยอีก เพราะวันเกิดเหตุมีอาการชักกระตุกไปแล้วก่อนหน้านี้ อาจจะทำให้กลับมาชักอีกได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังดีที่ตนและแฟนหนุ่มสามารถรอดมาได้ แต่หากเป็นคนอื่นที่เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ แล้วไม่โชคดีเหมือนพวกตนจะทำอย่างไร ตนอยากจะให้ผู้ปกครองของเด็กควรจะดูแลบุตรหลานให้ดี และมารับผิดชอบกับเรื่องที่ก่อ “ถ้าไม่ถึงอายุอันควรที่จะมีใบขับขี่ อย่าริซื้อรถเลย”
สำหรับตอนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมาย เพราะตั้งแต่วันที่เจอกันที่โรงพัก วันที่ 16 เม.ย.63 จนถึงวันนี้ ตนก็ไม่ได้เจอคู่กรณีอีกเลย
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ติดต่อไปยังนายอ๋อง (นามสมมติ) ลุงของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด ทราบเพียงว่าในวันที่เจอกันที่โรงพัก มีการเจรจาว่าจะชดใช้เงินให้ประมาณ 2-3 หมื่นบาท แต่ผู้เสียหายไม่รับเงินส่วนนั้น และเรียกเงินหลักแสน ตนก็ไม่รู้อะไรนักหนา เพราะตอนนี้แม่ของหลานไม่ได้อาศัยอยู่กับตน ส่วนเด็กวัย 16 ปี ก็แยกออกไปอยู่กับเพื่อน ๆ แล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะไม่ได้ติดต่อกัน วันที่ไปโรงพักตนก็แค่ไปส่งเท่านั้น
Advertisement
