สะพรึงลุงตายแล้วฟื้นกลางงานศพอ้างเห็นเมืองลับแล เมียเชื่อปาฏิหาริย์ (คลิป)
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ในพื้นที่หมู่ 10 ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีผู้ป่วยตายแล้วฟื้น หลังหมอบอกให้ญาติ ๆ ทำใจ ทางครอบครัวจึงขอคุณหมอนำตัว นายรักเลห์ แก้วครูนอก อายุ 56 ผู้ป่วย กลับบ้าน เพื่อที่จะให้เสียชีวิตที่บ้าน พร้อมกันนี้ยังมีการเตรียมงานไม่ว่าจะเป็นกางผ้าสีดำ และขนเครื่องครัวมาจากวัด เพื่อมาเตรียมจัดงานศพ แต่พอ นายรักเล่ห์ ถึงบ้านด้วยอาการใกล้หมดลมหายใจ กลับลุกขึ้นมาพูดเกือบทั้งวันทั้งคืน รวมทั้งเล่าเรื่องหมู่บ้านลึกลับที่ตนเองไปเจอมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้าน นายรักเลห์ แก้วครูนอก โดยบรรยากาศที่บ้านวันนี้ยังมีทางญาติ ๆ มานั่งเฝ้าดูอาการของ นายรักเลห์ กันอยู่ ส่วนข้าวของที่เตรียมเอาไว้จัดงานศพมีการคืนวัดไปแล้วบางส่วน ที่บริเวณใต้ถุนบ้านยังไม่ได้นำผ้าใบที่ขึงเอาไว้ออก
นายรักเลห์ เผยว่า ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว วันเกิดเหตุที่ทางบ้านส่งไปโรงพยาบาล จำได้แค่ว่าตัวเองนั่งกินน้ำพริกกับดอกแคร์อยู่ที่ใต้ต้นไม้ข้างเถียงนา จู่ ๆ ก็หน้ามืดและอาเจียนออกมา 2 ครั้ง และมีอาการแน่นหน้าอก ก็เลยตะโกนเรียกญาติกันที่กำลังนำวัวไปผูก ให้ไปตามภรรยาที่บ้านนำรถมาส่งไปโรงพยาบาล ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน เพราะไม่มีโรคประจำตัว นอกจากเป็นความดัน
ซึ่งระหว่างที่อยู่นาจนถึงโรงพยาบาล ยืนยันว่ารู้สึกตัวตลอด มดกัดก็รู้สึก แต่พอหมอรักษาเสร็จก็หลับไป และพอตื่นขึ้นมาก็จำได้ว่า ได้ยินเสียงคนไข้ที่นอนข้างกันด่ากันไปกันมา หลังจากนั้นก็หลับไปอีกจนมาตื่นอีกทีก็อยู่บ้านแล้ว จำไม่ได้ว่าหลับไปกี่วัน รู้แต่ว่าระหว่างที่หลับ ไม่ได้ไปไหนไกลเดินวนไปวนมาอยู่ที่บ้านและเห็นแต่ภาพคนฆ่าหมูอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ตอนนี้แข็งแรงดี แต่หลง ๆ ลืม ๆ
นางละคร สุเววงค์ อายุ 54 ปี ภรรยาของนายรักเลห์ บอกว่า วันเกิดเหตุ ที่ต้องส่งสามีไปโรงพยาบาล คือช่วงวันที่ 16 ม.ค. 66 ที่ ผ่านมา ซึ่งวันนั้นก่อนที่สามีจะออกไปนา บ่นให้ฟังแค่ว่าเมื่อย จากนั้นในช่วงบ่ายพี่สาวที่ไปเลี้ยงวัวใกล้กับที่นาของสามี ก็ให้ปั่นจักรยานมาบอกให้หารถไปรับสามี ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการอาเจียนหลายครั้ง กระทั่งนำตัวสามีไปส่งโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ซึ่งตอนนั้นยืนยันว่าสามีมีสติ ถามอะไรตอบรู้เรื่องทุกอย่าง แต่มีอาการอาเจียนระหว่างเดินทางตลอดเวลา
จนกระทั่งไปถึงโรงพยาบาล ทางแพทย์ก็นำสามีเข้าห้องฉุกเฉิน และผ่านไปสักพักประมาณ 18.00 น. แพทย์ก็ออกมาบอกว่า สามีอาการไม่ดีนะ ต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมุกดาหาร โดยแพทย์ได้วินิจฉัยพบว่าสามีมีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่ทัน และบอกญาติให้ทำใจ โดยระหว่างทางต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ตนเองก็ตอบตกลงไปก็ไปขอให้รักษาสามีหาย กระทั่งไปถึงโรงพยาบาลมุกดาหาร ทางแพทย์ก็เรียกเข้าไปคุยในห้อง และแจ้งว่าอาการของสามี ทรงตัวแล้วให้ย้ายไปนอนบนชั้น 7 เผื่อพักฟื้นรอดูอาการ และตนเองก็กลับไปที่บ้าน
กระทั่งต่อมาวันที่ 17 ม.ค. 66 ทางญาติสามีของตนเองได้โทรศัพท์มาบอกตอนตี 5 ว่าสามีนอนแน่นิ่งไม่พบชีพจร ทางแพทย์ได้ปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ แจ้งญาติว่าให้ทำใจ เพราะสามีน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ตนเองจึงไปคุยกับทางแพทย์ว่าจะเอาสามีกลับบ้าน แต่ขอให้ใส่เครื่องช่วยหายใจจนไปถึงบ้าน เนื่องจากหากสามีจะตายก็ขอให้กลับไปนอนตายที่บ้าน
จนกระทั่งทางญาติและตนเองจึงพาสามีกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ระหว่างที่นำกลับบ้านก็มีการใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด พอถึงบ้านก็ทำการถอดเครื่องช่วยหายใจสามีของตนเองก็นอนนิ่งไม่มีการตอบโต้ ทางญาติจึงทำการเตรียมกับกวาดบ้านพร้อมทำพิธีทางศาสนา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ 22.00 น. ในขณะที่ญาติกำลังนั่งคุยกันอยู่ ปรากฏว่าสามีดันตื่นขึ้นมา เริ่มหายใจได้ แล้วก็ลุกขึ้นมาคุยแต่พูดไม่รู้เรื่อง จับใจความได้แค่ว่าสามีบอกว่าไปเจอคนที่ตายไปแล้ว กลุ่มคนตายที่เห็นกำลังล้อมวงฆ่าหมูกันอยู่ จากนั้นสามีก็ไม่ยอมนอน นั่งพูดไปเรื่อยไม่ยอมนอนจนถึงตอนนี้ ส่วนตัวดีใจมากที่สามีฟื้นขึ้นมา แต่ตอนนี้ต้องเฝ้าดูอาการ และพยายามฟื้นสติสามีให้กลับมาเหมือนเดิม
Advertisement
