จากรณีที่ น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ของ ด.ญ.กีต้าร์ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นำเรื่องมาร้องเรียนสื่อฯ ว่าลูกสาวของตนถูก นายศุภชัย ทองอินทร์ หรือ บังโฟล์ค อายุ 26 ปี เป็นอาเลี้ยงน้องของพ่อเลี้ยง บังคับข่มขืนมานานนับ ปีแถมยังขู่ฆ่าและขู่จะนำคลิปออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ หาก ด.ญ.กีต้าร์ ไม่ยอมให้ข่มขืนและนำเรื่องนี้ไปบอกใคร
ทั้งนี้ น.ส.หวาน ได้นำหลักฐานเป็นแชตและภาพเปลือยของลูกสาวที่สนทนากับ บังโฟล์ค ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางน้ำเปรี้ยว ซึ่งได้เข้าตรวจสอบบ้านของบังโฟล์คในพื้นที่ ต.ศาลาแดง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.หวาน แม่ของ ด.ญ.กีตาร์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนนี้สภาพจิตใจตนเเย่มาก วิตกกังวลหลาย ๆ เรื่อง เป็นห่วงสภาพจิตใจลูกสาวคนโตเพราะเขาเครียดมาก ๆ ตอนนี้ลูกสาวไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กเเละครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งเเต่ลูกไปอยู่ที่นั่นเมื่อเช้านี้ตนเองก็ได้คุยกับลูก โดยลูกสาวโทรมาร้องไห้บอกว่าไม่อยากอยู่ที่นั่นอยากจะกลับมาหาตน ลูกสาวไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นบอกเเต่ “อยากกลับมาหาเเม่” ส่วนลูกสาวจะสามารถกลับมาอยู่กับตนได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้ตนเองก็ยังไม่ได้สอบถามกับทางหน่วยงาน
ส่วนตัวผู้ต้องหาที่มีศักดิ์เป็นอาของลูกสาวตนนั้น ตนเองยอมรับว่าเเม้ว่าจะอยู่บ้านใกล้กัน เเต่ตนไม่ค่อยสนิทกันเเละไม่ค่อยได้สุงสิงกันมากนัก ต่างคนต่างอยู่ ต่างทำงาน โดยนายบังโฟล์คมีภรรยาอยู่เเล้ว ตนไม่ทราบว่าเขาคบหากันมานานเเค่ไหน เเต่พวกเขาไม่มีลูกด้วยกัน
เหตุการณ์ที่เกิดกับลูกสาวตนนั้น ตนไม่เคยทราบหรือระเเคะระคายใจมาก่อน ลูกสาวไม่เคยเเสดงอาการอะไรให้เห็นเลย เพราะลูกสาวถูกนายโฟล์คขู่ฆ่าในเเชต เเต่หลังจากเรื่องเเดงนายโฟล์คก็หายตัวไป ส่วนภรรยาของนายโฟล์คก็ติดต่อมาหาตนเเละบอกว่าตัวเองก็ไม่สามารถติดต่อสามีได้เเละไม่ทราบว่าสามีไปอยู่ที่ไหน ในส่วนเรื่องของคดีความตนขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขอให้ดำเนินขั้นตอนตามกระบวนการกฎหมาย
ตนเองไม่คิดเลยว่า ลูกสาวคนโตจะถูกกระทำแบบนี้มานานนับปี ตนเองอยู่กับลูกตลอดเวลาไม่รู้เลยว่า 1 ปีที่ผ่านมา ลูกจะต้องทุกข์ทรมานมากเพียงใด ไม่รู้ว่าลูกต้องเจออะไรบ้าง เเละไม่คิดเลยว่าคนใกล้ตัวจะมาทำแบบนี้
ตนเองมีลูกทั้งหมด 4 คน ลูกสาวคนโต ผู้เสียหาย เป็นลูกติดจากสามีเก่า เเละลูกอีก 3 คน เกิดกับสามีปัจจุบัน โดยตอนที่ตนย้ายมาอยู่กับสามี ตอนนั้นลูกสาวคนโตอายุประมาณ 2 ขวบ ตอนนั้นสามีเเละนายโฟล์คก็ช่วยกันเลี้ยงเเละเห็นลูกสาวตนมาตั้งเเต่เล็ก จนกระทั่งตนมีลูกชายเเละลูกสาวอีก 2 คน ตนเเละสามีก็ช่วยกันเลี้ยงมาตลอด เวลาสามีออกไปทำงานตนก็จะคอยอยู่บ้านเลี้ยงลูก เเต่ไม่เคยรู้เลยว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในบ้าน
หลังจากเรื่องแดงสามีของตน ซึ่งเป็นพี่ชายเเท้ ๆ ของนายโฟล์ค ผู้ต้องหา ทราบเรื่องก็โกรธมากเเละอยากจะตัดพี่ตัดน้องกัน หลังจากนี้ตนเองก็คงจะต้องรอให้เรื่องทุกอย่างจบก่อน เเละก็อาจจะย้ายพาลูก ๆ กลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ส่วนสามีก็อาจจะตามไปอยู่ด้วย
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายศุภชัย หรือ นายโฟล์ค อายุ 26 ปี ผู้ถูกกล่าวหา เเละครอบครัวเดินทางมามอบตัวที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ก่อนจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีป้าของนายโฟล์ค ร่วมนั่งฟังการสอบปากคำด้วย ซึ่งบางช่วงป้าของนายโฟล์คมีอาการร้องไห้ด้วย ป้าของนายโฟล์ค ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง ก่อนที่ตนจะรู้เรื่องนี้ ด.ญ.กีต้าร์ก็เป็นเด็กร่าเริงมาก ๆ คนหนึ่ง เเต่พักหลังก็เริ่มซึมผิดปกติ เเต่ก็ไม่มีใครเอะใจเพราะคิดว่าเด็กกำลังโตเป็นสาวเลยมีโลกส่วนตัวสูง
ส่วน นายโฟล์ค เมื่อก่อนนี้ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง พูดจาไพเราะ ไม่ก้าวร้าว บ้านมีฐานะ เจอผู้ใหญ่ก็ยกมือไหว้ เเต่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย เเละไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายเดือนเเล้ว เท่าที่รู้นายโฟล์คจะมีกินน้ำกระท่อมกับเสพกัญชา ส่วนเรื่องยาเสพติดตนไม่ทราบว่ายุ่งเกี่ยวหรือไม่ ตนไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัวของตน เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อเเต่ก็ต้องยอมรับความจริง เเม้ว่านายโฟล์คจะมีเมียอยู่เเล้ว ตนไม่รู้ว่าตอนทำนายโฟล์คคิดอะไรอยู่ เพราะนายโฟล์คก็เป็นคนช่วยเลี้ยงหลานสาวคนนี้มาตั้งเเต่เล็ก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดไม่ใช่เเค่ครั้งสองครั้งเเต่มีมานานนับปี ไม่รู้ว่านายโฟล์คทำแบบนี้ได้อย่างไร อีกทั้งนายโฟล์คเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ น.ส.หวาน เเละสามีพี่ชายเเท้ ๆ นายโฟล์ค เเต่หลังจากพี่ชายทราบเรื่องที่เกิดกับลูกเลี้ยงก็โกรธมาก ถ้าเจอจะขอตบกะโหลกสักที
นอกจาก ด.ญ.กีต้าร์ เเล้ว ก็ยังมีหลานสาวอีก 2 คนที่ถูกนายโฟล์คเเชตไปหา เเต่ตนไม่ได้ถามรายละเอียด เพราะไม่มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ทราบเเค่ว่านายโฟล์คโทรไปชวนหลานสาวออกไปข้างนอก เเต่เด็ก ๆ ไม่ยอมออกไปด้วย หากเกิดอะไรขึ้นกับหลานตน ตนไม่ยอมเเน่ ต่อให้นายโฟล์คจะเป็นหลานเหมือนกันก็ตาม
ด้าน น.ส.เนย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ภรรยาของนายโฟล์ค เปิดเผยข้อมูลว่าแฟนของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่คนเลว เขาเป็นคนดีมาตลอด เท่าที่คบหากันมานานกว่า 2 ปี เขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย เขาเป็นคนขี้เล่น ตลกเฮฮากวน ๆ เเละสิ่งที่เเม่เด็กพูดมาไม่ใช่ความจริงทั้งหมด โดยเด็กหญิงผู้เสียหายเเละลูกของฝ่าย น.ส.หวาน ทุกคน ไม่ใช่หลานเเท้ ๆ ของตระกูลเเฟนตนเลย
ตนขอบอกเลยว่า น.ส.หวาน ไม่เคยเลี้ยงลูกเลย ออกไปเล่นไพ่ทุกวัน ไม่ทำงาน ปล่อยให้ลูกสาวคนโตเลี้ยงน้อง ๆ ส่วนตัวเเฟนของตนเเละหลาน ๆ นั้น นายโฟล์คเป็นคนรักเด็กเเละเคยซื้อขนมอะไรมาให้หลานเสมอ อีกทั้งยังคอยช่วยเลี้ยงเด็กหญิงมาด้วย ยืนยันว่าไม่มีทางทำแบบนั้นกับหลานเเน่นอน พฤติกรรมเด็กหญิงวัย 12 ก็เป็นคนเเรง ๆ ตนไม่รู้ว่าน้องมีแฟนหรือไม่ เพราะตนก็ต้องทำงาน โดยมีนายโฟล์คไปรับไปส่ง บางครั้งเเฟนของตนก็อยู่บ้านคนเดียว เเละออกไปทำงานรับเหมากับพ่อ พวกตนก็หยุดไม่ค่อยตรงกัน
ส่วนเรื่องเเชตที่หลุดออกมานั้น ตนไม่ทราบว่าเฟซบุ๊กแฟนโดนเเฮกหรือไม่ เเละตนเองมองว่าใคร ๆ ก็สร้างเเชตขึ้นมาได้ มันก็อาจจะเป็นการสร้างขึ้นก็ได้เพื่อใส่ร้ายแฟนตน ยิ่งเรื่องข่มขู่ฆ่ายิ่งเป็นไปไม่ได้เลย อีกทั้งแม่เด็ก พี่ชายนายโฟล์ค เเละนายโฟล์ค์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมาก่อน เเต่เเม่เด็กอาจจะเป็นคนขี้อิจฉา เห็นใครได้ดีกว่าไม่ได้ จึงต้องสร้างเเชตขึ้นมาเป็นหลักฐาน ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตนเเละนายโฟล์คออกไปจากบ้าน
นอกจากนี้ ฝ่ายเเม่เด็กยังมีการเรียกค่าทำขวัญเป็นเงินสด 300,000 บาท เพื่อจบเรื่อง เเต่พอมาอีกวันหนึ่งก็เรียกเงินสด 500,000 บาท ตนทำงานร้านสะดวกซื้อเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท จะหาเงินจากไหนมาให้ ตนไม่มีหลักฐานเเต่ตนความจำดี จำได้ทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูด ใครทำอะไรย่อมรู้อยู่เเก่ใจ อีกทั้งก่อนหน้านี้เด็กหญิงคนนี้เคยถูกเเม่เขาตีเกือบตาย เเต่นายโฟล์คเข้าไปช่วยไว้ ตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาตีลูกเรื่องอะไร
ส่วนข่าวที่ออกมาว่าตนและแฟนเก็บเสื้อผ้าหนีไปนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ขอให้ช่วยเเก้ข่าวด้วย ตนเพียงเเค่ไปอยู่บ้านตัวเองเท่านั้น ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าเเฟนตนเป็นคนดี วันนั้นที่ตำรวจไปค้นบ้าน เจ้าของบ้านเองยังไม่รู้เรื่องเลย เเต่ฝ่ายเเม่เด็กกลับนำค้น ส่วนเรื่องอุปกรณ์เสพกัญชาที่พบในห้องก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีไว้ติดบ้าน กับดื่มน้ำกระท่อม เเต่เรื่องยาเสพติดแฟนของตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวเเน่นอน ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมอะไรเลย ตอนนี้คนในครอบครัวไม่มีใครเชื่อว่าโฟล์คจะทำแบบนั้น เเต่จะเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนไม่สามารถบอกแบบนั้นได้ เเต่สิ่งที่เกิดขึ้นควรจะมีการคุยกันภายในก่อน ไม่ใช่เอาไปร้องสื่อเลยเเบบนั้น
ต่อมาเวลา 18.00 น. หลังนายโฟล์คเเละป้าให้การกับพนักงานสอบสวนนานประมาณ 2 ชม. ก็ออกมาจากห้องสอบสวน เเละเดินเข้าไปที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ ทีมข่าวได้พยายามสอบถาม นายโฟล์ค เเละขอให้ชี้เเจง เเต่ทีมข่าวถูกญาติเเละเพื่อน ๆ ของนายโฟล์คดันออก รวมถึงนายโฟล์คก็ไม่ได้พูดอะไรเลย จากนั้นทีมข่าวได้พยายามขอคุยกับป้าของนายโฟล์ค เเต่อีกฝ่ายบอกว่า “ไม่มีอะไรจะพูด ทุกเรื่อง ๆ รอไปคุยกันที่ศาลทีเดียว” ก่อนจะเดินหนีไป ส่วนเพื่อน ๆ ของนายโฟล์คก็บอกว่า “ไม่มีอะไรจะชี้เเจง ไม่อยากจะให้เรื่องมันยืดเเล้วจะไม่จบ”
Advertisement