ปลาปราบปอบลุงตายแล้วฟื้นหิวเลือด ที่แท้ตับแข็ง ทรุดบอกลูกเมียกราบขมา (คลิป)

กรณีเหตุการณ์ตาตายแล้วฟื้นโดนปอบสิงกินของดิบ ญาติร้องหมอปลาช่วย ล่าสุด วันที่ 26 ธ.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เดินทางมาที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 บ้านวังสงวน ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยเป็นบ้านหลังที่นายกิต อายุ 61 ปี พักอาศัยอยู่

ช่วงที่ทีมข่าวเดินทางมาถึงก็พบว่ามีเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่แคร่หน้าบ้านใต้ต้นมะม่วง กคนมารอพบหมอปลา หลังจากทราบข่าวว่าวันนี้หมอปลาจะเดินทางลงพื้นที่มาดูอาการนายกิต

นางแสงอรุณ ปลื้มใจ อายุ 61 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายกิต เปิดใจว่า ตนเองเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของลุงกิต ช่วงที่ลุงกิตเริ่มมีอาการแปลกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.65 ตนเองก็ได้เข้ามาดูอาการอยู่บ้าง โดยช่วงวันที่ 18 ธ.ค.65 ที่ลุงกิตตายแล้วฟื้น ตนเองก็ได้มาเฝ้าดูอยู่ ในช่วง 23.00 น. ที่ลุงกิตหมดชีพจร ตนเองก็ไม่ได้เข้าไปจับที่ข้อเเขนด้วย ลูกชายแกเป็นคนจับ ตนเห็นว่าลุงกิตหมดลมไปจริง นอนนิ่งไปเลย แล้วอยู่ ๆ ก็ฟื้นกลับมาแข็งแเรงเหมือนไม่ใช่คนเดิม ก่อนหน้านี้ในหมู่บ้านตนไม่เคยมีเรื่องคนตายแล้วฟื้นมาก่อน ทำให้ตนประหลาดใจอย่างมาก กทั้งลุงกิตยังอยากจะกินแต่พวกลาบเลือด บอกว่ากินเเล้วจะแข็งแรง

หลังจากลุงกิตตายแล้วฟื้น นิสัยก็เปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยโวยวายก็โวยวายขึ้นมา ไล่เมียออกจากบ้าน ตนจึงเข้าไปห้าม แกก็หันมาตนว่า "คนบางคนเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนไป หน้าอย่างหลังอย่าง" ตนจึงบอกว่าจะกลับบ้านแล้ว แกก็ถามว่าตอนเย็นจะมาอีกไหม ตนก็บอกว่าไม่มาแล้ว ตนยอมรับว่าน้อยใจ ที่มาเฝ้าก็เพราะเป็นห่วง แต่ก็เข้าใจได้เพราะลุงกิตไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

จนวันที่ 20 ธ.ค.65 ตนเองได้สอบถามน้องสาวของลุงกิตที่ตอนนี้กลับบ้านไปอยู่ที่ อ.หล่มสัก ทราบว่าก่อนหน้านี้น้องสาวคนดังกล่าวได้เคยเอาของรักษามาให้ไว้กับลุงกิตจริง แต่นานมาเเล้ว ตนเองก็จำไม่ได้ว่ากี่ปี จำไม่ได้ว่าน้องสาวบอกว่าของพวกนี้มาจากที่ไหน ซึ่งมีก้นเทียน ตะกรุด ด้าย โดยลุงกิตก็ยอมรับไว้ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าลุงกิตมีพฤติกรรมอะไรแปลกไปหรือไม่ เพราะตนอยู่คนละหมู่บ้านกัน ไม่ค่อยได้มาหาแก นาน ๆ จะมาหาสักที จนกระทั่งทราบข่าวว่าแกไม่สบายจึงได้มาเยี่ยม โดยพฤติกรรมทั้งหมดของลุงกิต ก็ทำให้ตนเชื่อได้ว่าน่าจะมีผีปอบมาเข้าสิง เมื่อก่อนในหมู่บ้านของตนก็เคยมีความเชื่อเรื่องปอบเหมือนกัน ไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้ยังมีอยู่หรือไม่

ส่วนเมื่อคืนนี้ 25 ธ.ค. 65 ตนเองก็ได้มานอนเฝ้าลุงกิตกับพวกญาติ ๆ และนางบาย ภรรยาของลุงกิต รวมประมาณ 5-6 คนมานอนกันอยู่ที่เเคร่หน้าบ้านใต้ต้นมะม่วง จนช่วง 02.00 น. ตนเองก็ได้ยินเสียงหมา 2 ตัวหอน หลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงลุงกิตไอ ก่อนจะมีเสียงพูดคุยคนเดียวจับใจความไม่ได้ ซี่งเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าเข้าไปดูลุงกิต จะเดินไปเข้าห้องน้ำในบ้านก็ยังไม่กล้า ต้องหาเรื่องชวนกันคุยไปเรื่อย ๆ เพราะความกลัว ตนคิดว่าหมอปลาจะมาช่วงเย็นลุงกิตก็คงอาการไม่ดีขึ้น เพราะแกอาการหนักมากแล้ว ข้างในเน่าหมดแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. หมอปลาได้เดินทางมาถึงที่บ้าน หมอปลาก็ได้เดินเข้าไปในบ้านเพื่อดูอาการลุงกิต โดยมีนางบายเปิดมุ้งให้ ก่อนหมอปลาจะถามอีกว่า "ทางโรงพยาบาลสิ้นสุดการรักษาเเล้วใช่หรือไม่" ซึ่งนางบายก็บอกว่า "ใช่ หมอบอกให้กลับมาดูอาการที่บ้าน แต่ก็มีนัดไปหาหมออีกครั้งวันที่ 29 ธ.ค.นี้ ส่วนวันนี้สามียังไม่กินข้าวเลย"

หลังจากนั้นหมอปลาและพี่น้ำฟ้า ภรรยา เข้าไปนั่งข้างลุงกิต ก่อนจะถามว่า "ตาเป็นยังไงบ้าง" ก่อนจะเลิกผ้าห่มดูท้องลุงกิต และใช้มือจับไปที่ท้องลุงกิต ก่อนจะบอกกับทีมข่าวว่า "มองหน้าเขาไม่เป็นไร แต่พอเอามือแตะไม่ได้ จะเป็นปอบหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ข้างในมีสิ่งไม่ดีอยู่ กลางคืนแกจะหงุดหงิดแกจะนอนไม่ได้ แต่กลางวันแกจะนอนได้" ก่อนจะถามอีกว่าเวลานอนใครเฝ้าลุงกิต ด้านญาติ ๆ ก็บอกว่าลูกชายคนเล็กและคนโต ก่อนจะสอบถามลูกชายคนเล็กอีกว่าเจออะไรหรือไม่ ก่อนลูกชายคนเล็กจะบอกว่าเจอเงาดำอยู่บริเวณด้านล่างของบ้าน เจอมานานประมาณ 2-3 วัน ยอมรับว่ากลัว ส่วนเรื่องที่ฝันคือเห็นพ่อมายืนหน้าบ้านในสภาพปกติ แต่บอกกับตัวเองว่า "พ่อเข้าร่างไม่ได้" ก่อนจะหายไป

หมอปลาถามลุงกิตอีกว่า "เป็นยังไงตอนนี้ ทรมานไหม ถ้าเลือกได้อยากตายไหม" ลุงกิตก็บอกว่า "อยากตาย" หมอปลาถามต่อว่า "ทำไมถึงอยากตาย" ลุงกิตตอบว่า "เป็นมานานหลายปีเเล้ว อยากตาย" หมอปลาถามต่อว่า "ถ้าตายเเล้วไม่กลัวลูกเมียเสียใจหรือ"ลุงกิตก็บอกว่า "ลูกโตกันหมดแล้ว คงไม่เสียใจ โรคนี้มันรักษาไม่ได้เเล้ว ผมอยากตายให้มันแล้วไป" ก่อนหมอปลาจะหันมาบอกกับทีมข่าวอีกว่า "ถ้าปกติเจอเคสแบบนี้ เวลามองหน้าเขา ผมจะแย่ แต่เคสนี้ต้องแตะท้องก่อนถึงจะแย่ เพราะมีผีอยู่ข้างในท้องเขา ผมจะอ้วก" ก่อนจะขอทิชชู่มาเช็ดหน้า

ก่อนหมอปลาจะเชิญลูกเมียลุงกิตออกมาคุยด้านนอก โดยบอกกับทีมข่าวว่า "ลุงกิตไม่ได้อยากตายหรอก แต่เขาแค่ทรมาน" ต่อมา นางบายได้เอาตะกรุดให้หมอปลาดู ก่อนจะถามความสมัครใจของครอบครัวลุงกิตว่าพร้อมจะให้ลุงกิตตายหรือไม่ ซึ่งลูก ๆ และเมียของลุงกิตก็ยินยอม เพราะลุงกิตทรมานมากแล้ว เคยจะกินยาตายด้วย

หมอปลาจึงเสนอ 2 ทางเลือก ปล่อยให้ลุงกิตเป็นแบบนี้ต่อไป ทรมานไปเรื่อย ๆ กับทางที่ 2 คือหมอปลาจะทำพิธีให้ คืนนี้ลุงกิตจะสงบ จะไม่โวยวาย ไม่อยากกินอะไรทั้งสิ้น เบื่ออาหารไปเลย เพราะทางการแพทย์น่าจะรักษาไม่ได้เเล้ว ตนไม่ได้ฆ่าลุงกิต แต่เพียงจะผูกวิญญาณเอาออกให้เขาไปผุดไปเกิด พอผีออกจากร่าง เขาก็จะสงบ

จากนั้นลูกทั้ง 2 คนได้เข้ามากราบเท้าลุงกิต ลูกทั้ง 2 คนก็น้ำตาซึมตอนที่ก้มกราบเท้าด้วย ก่อนจะตั้งนะโม 3 จบ เเละอธิฐานขออโหสิกรรมกับพ่อ ได้มีการนำน้ำมาล้างเท้าพ่อ ก่อนเมียและลูก ๆ จะจับมือลุงกิต ลุงกิตได้สั่งเสียลูกเมียว่า "พ่อไม่อยู่แล้วนะ พ่อไปแล้วนะ" ลูกบอกว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวจะดูแลครอบครัวต่อเอง"

จากนั้น ญาติเตรียมดอกไม้ ธูป 16 ดอก เทียน 1 เล่ม น้ำเปล่า 1 ขวด ให้หมอปลาทำพิธี ใช้สายสิญจน์พันรอบศีรษะและนำปากกาเมจิกมาเขียนชื่อลุงกิตบนหน้าท้อง ก่อนจะจุดธูปและเทียนลงบนน้ำมนต์ สวดคาถาเป่าไปที่หน้า และหน้าท้องของลุงกิต หลังจากหมอปลาทำพิธีเสร็จสิ้น ก็มีการกรวดน้ำให้ลุงกิตด้วย

นางบาย โม่แก่น ภรรยาของลุงกิต บอกว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้น หลังจากชาวบ้านไม่เข้าใจครอบครัวของตนเเละด่าว่าตน ว่าเป็นบ้า แต่ตนไม่สนใจ เพราะตนหมดทางเลือกแล้ว จึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังหมอปลา ตนยืนยันว่าตนและครอบครัวดูแลสามีมาโดยตลอด สามีเองก็ไม่ไหวเเล้ว พยายามที่จะไปหลายครั้ง แต่เหมือนมีอะไรมารั้งไว้ เพราะแกท้องโต ลุกนั่งไม่ไหว บอกว่าจะตาย ขอให้ปล่อยแกไปเถอะฃ

ทั้งนี้ ตนอยากให้สามีไปสบายหมดห่วง ตนเองก็ยืนยอมที่จะให้สามีไป และตนขอขอบคุณหมอปลา และทีมงานอย่างมากที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้พวกตนสบายใจ เข้ามาปลดปล่อยคนป่วยให้แกได้ไปสบาย