(3 มิ.ย. 2568) จากกรณี เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร อดีตพระเอกยอดนิยมและผู้กำกับภาพยนตร์ละคร วัย 72 ปี จากไปเมื่อกลางดึก เวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดวันนี้เวลา 15.30 น. ครอบครัวได้เคลื่อนร่างจากสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ไปบำเพ็ญกุศลโดยจะมีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ผลการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ในขณะเดียวกัน คุณเบสท์ ลูกสาว และคุณเกรท ลูกชาย เปิดใจว่า คุณพ่อไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยมีประวัติการรักษาบายพาสหัวใจหนึ่งครั้ง เมื่อปี 2547 จากนั้นก็ไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยอีกหรือนอนโรงพยาบาล ระหว่างนั้นคุณพ่อก็ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี อัปเดทอาการให้กับทางครอบครัวทราบตลอด แต่มีบ้างช่วงก่อนที่จะเดินทางมาที่โคราชคุณพ่อจะมีอาการพูดลิ้นแข็ง และได้มีการเข้าไปพบแพทย์ โดยแพทย์ให้ยาขยายหลอดเลือดมาทาน ส่วนผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่าสาเหตุเกิดจากเส้นเลือดหัวใจอุดตัน
คุณพ่อเดินทางมาหาเพื่อนที่ทำธุรกิจโรงงานและอะไหล่เกี่ยวกับเครื่องจักร ที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ชวนกันออกมาทานข้าว จนกระทั่งคุณพ่อวูบหมดสตินำตัวส่งโรงพยาบาล จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งการจากไปของคุณพ่อเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ทางครอบครัวยังมึนงงไม่คิดว่าคุณพ่อจะจากไปเร็วอย่างนี้ หลังจากที่เพื่อนในวงการบันเทิงของคุณพ่อรู้ข่าวว่าคุณพ่อเสียชีวิต ก็โทรเข้ามาสอบถามเรื่องราว ทุกคนต่างตกใจและให้กำลังใจทางครอบครัว
ครอบครัวตั้งบำเพ็ญกุศลโดยจะมีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร วันที่ 4 มิ.ย. 2568 รดน้ำศพเวลา 16.00 น. ต่อมาเวลา 18.00 น. สวดอภิธรรมศพ 5 คืน และณาปนกิจวันจันทร์ที่ 9 มิ.ย. 2568 เวลา 17.00 น.
ซึ่งยังมีงานที่คุณพ่อยังค้างคาอยู่เรื่องภาพยนตร์ซึ่งทางครอบครัวคิดว่า คุณพ่อก็ยังคงเป็นห่วงและยังคงไม่ไปไหน ตอนนี้ได้ถ่ายทำเสร็จหมดแล้ว ตอนที่รู้ว่าคุณพ่อห่วง คงมีแค่เรื่องนี้เรื่องของครอบครัว คุณพ่อคงไม่ห่วงอะไร ก่อนที่จะได้มีการเคลื่อนร่างทางครอบครัวได้บอกกับคุณพ่อว่า กลับบ้านเรานะ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวไม่เคยมีลางสังหรณ์หรือลางบอกเหตุมาก่อน ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์การสูญเสียคุณพ่ออย่างกระทันหัน
ขอบคุณทุกคน แฟนคลับคุณพ่อและเพื่อนในวงการบันเทิงที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามและเป็นห่วงครอบครัว คอยให้กำลังใจทางครอบครัวพยายามเข้มแข็ง เพื่อไม่อยากทำให้ทุกคนเป็นห่วง ตอนนี้ตนเองและน้องชายต้องเข้มแข็งให้มากที่สุดเพราะมีแม่ต้องดูแลอีก
ในขณะเดียวกัน คุณเบสท์ ลูกสาวเผยว่า หนังที่คุณพ่อสร้างยังค้างคาเตรียมสานต่อให้พ่อหมดห่วง ซึ่งงานวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่คุณพ่อรักและให้ความสำคัญมาเกือบตลอดชีวิต หลังจากที่คุณพ่อได้เสียชีวิตลงตนเองคิดว่าคุณพ่อยังจะไม่ไปไหนถ้าหนังที่คุณพ่อสร้างยังไม่สำเร็จ
ซึ่งหนังเรื่องนี้คุณพ่อตั้งใจสร้าง เป็นหนังเรื่องราวเกี่ยวกับการตอบแทนสังคม เขียนบทขึ้นมาเพื่อที่จะสนับสนุนส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวและเกี่ยวกับการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมไทย ซึ่งไม่ค่อยมีใครทำหนังแนวนี้แล้ว คุณพ่อจึงอยากถ่ายทำภาพยนตร์ผสมระหว่างการท่องเที่ยวกับวัฒนธรรม จึงเลือกจะไปถ่ายที่จังหวัดน่าน เนื่องจากที่น่านมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งมีวัฒนธรรมของชนเผ่าซึ่งมีหลายชนเผ่ามากที่อยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ คุณพ่อเลยเลือกสถานที่แห่งนี้ ซึ่งคนที่ทำงานกับคุณพ่อจะรู้ดีว่าคุณพ่อทุ่มเทเป็นอย่างมาก ทั้งตากแดดตากลมตากฝน เอาหมวกให้ใส่ก็ไม่ยอมใส่ ทางครอบครัวก็รู้มาตลอดว่าคุณพ่อเป็นห่วงและรักสิ่งนี้มาก หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตจึงอยากสานต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงตามเจตนารมย์ของคุณพ่อที่ตั้งใจไว้ "ภาพยนตร์เรื่องย่าม่าน"
Advertisement