จากกรณี เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.65 ร.ต.อ. องอาจ หาที รองสว.(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา รับแจ้งมีเหตุแทงกันบาดเจ็บ ที่บ้านห้วยทรายเลื่อน หมู่ 9 ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดกู้ภัยคุณธรรมแสงทอง
โดยที่เกิดเหตุพบนายยอด เครือสาร อายุ 59 ปี ถูกมีดปลายแหลมแทงเข้าบริเวณด้านหลัง 2 แผล หน้าอก 2 แผลมีเลือดไหล ทางเจ้าหน้าที่ชุด ปภ.สันโค้ง และชุดกู้ภัยช่วยทำแผล และนำส่ง รพ.ดอกคำใต้ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาบาดแผล
จากสารสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บและคู่กรณีชื่อ นายบุญรอด สุขแก้ว อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันในวงเหล้า และได้เอามีดแทงคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุนายบุญรอดก็ได้หลบหนีไป และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งตามข้อมูลในวงเหล้าตอนเกิดเหตุ นั่งดื่มกันอยู่ 3 คน มีนายยอด คนเจ็บ, นายบุญรอด คนก่อเหตุ และนายกิตติพงษ์ ธิมา อายุ 46 ปี เพื่อนต่างหมู่บ้าน โดยปมเหตุที่เกิดขึ้นเบื้องต้น ทางตำรวจให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุนายยอดและนายกิตติพงษ์กินเหล้ากันอยู่ 2 คน จากนั้นนายบุญรอดที่เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดก็เดินเข้าไปขอดื่มเหล้าด้วย กระทั่งนายบุญรอดนั่งดื่มไปได้ 2 แก้ว นายยอด ก็หันไปเห็นว่านายบุญรอดพกมีดติดตัวมาด้วย นายยอดจึงชี้หน้าบอกนายบุญรอดว่าหากพกมีดมากินเหล้าบ้านกูแบบนี้ ไม่ต้องกิน มึงกลับบ้านไปหรือไปหากินที่อื่น ทำให้นายบุญรอดไม่พอใจ ชักมีดขึ้นมาแทงนายยอด 2 ครั้งที่หน้าอก แล้วก็วิ่งไล่ตามไปแทงที่หลังอีก 2 ครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป
วันที่ 13 ธ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบ้านของนายยอด ผู้บาดเจ็บ ที่บ้านห้วยทรายเลื่อน หมู่ 9 ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา โดยลักษณะจุดเกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นแบบยกสูง ที่บริเวณใต้ถุนบ้าน มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ลักษณะตั้งไว้เป็นวงสังสรรค์ดื่มเหล้า และบนเก้าอี้ไม้ของคนเจ็บและเก้าอี้ม้าหิน มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ 2-3 หยด ส่วนบริเวณรอบบ้าน มีบ้านของนางมาลี พี่สาวของนายยอดอยู่ติดกัน และมีร้านค้าขายของชำอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ
วงจรปิดเห็นตอนเกิดเหตุ คนเจ็บคือนายยอดเดินมาขอความช่วยเหลือ หลังถูกแทง นายกิตติพงษ์ แต่ไม่มีภาพนายบุญรอด เดินตามเข้ามา ก่อนกู้ภัยและตำรวจจะเข้ามาในที่เกิดเหตุ นำตัวนายยอดส่งโรงโรงพยาบาล ซึ่งตามข้อมูลทางตำรวจยังตามจับคนก่อเหตุไม่ได้ ส่วนคนเจ็บอาการสาหัส เนื่องจากถูกแทงเฉียดปอด
นางแก้ว (นามสมมติ) เจ้าของร้านชำที่อยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองอยู่ในร้าน ไม่ได้ยินเสียงใครทะเลาะกัน จากนั้นประมาณ 19.09 น. นายกิตติพงษ์ เพื่อนในวงเหล้าของนายยอด ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในร้านมานั่งที่เก้าอี้ แล้วก็บอกว่าให้โทรศัพท์ไปแจ้งกู้ภัยว่านายยอดถูกแทงได้รับบาดเจ็บ
จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 2-3 นาที ตัวนายยอด คนเจ็บ ก็เดินถอดเสื้อเอามือกุมแผลเข้ามาในร้าน และบอกว่าช่วยด้วยถูกไอ้รอดแทง โทรศัพท์ไปตามลูกสาวให้หน่อย ตนเองก็โทรไปและบอกให้ลูกสาวนายยอดแจ้งกู้ภัยมาด้วย เนื่องจากนายยอดมีเลือดไหลออกตามตัวและพูดจาไม่รู้เรื่อง ตนยืนยันว่าตอนเกิดเหตุไม่เห็นว่าเขาแทงกันเรื่องอะไร รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้นายยอดจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบ้าน หากจะดื่มสังสรรค์ ก็จะมีเพื่อนต่างหมู่บ้านมาดื่มด้วย ซึ่งนายบุญรอด คนก่อเหตุมาดื่มครั้งนี้เป็นครั้งแรก
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายบุญรอด คนก่อเหตุ ที่อยู่ห่างจากบ้านของนายยอด แค่ประมาณ 500 เมตร เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น และมีรั้ว สังกะสี ที่ประตูรั้วเปิดแต่ภายในบ้านถูกปิดล็อกกุญแจเอาไว้ ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ส่วนรอบๆบ้าน เป็นบ้านของชาวบ้านที่ไม่ได้เป็นญาติกัน
ขณะที่ทีมข่าวออกไปตามหานายบุญรอด คนก่อเหตุ ก็มีนายแสวง สุขแก้ว อาของนายบุญรอด และมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาให้ข้อมูลกับอมรินทร์ ทีวี ว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินกู้ภัยพูดว่าหลานชายก็ถูกนายยอดแทงสวนได้รับบาดเจ็บ และตั้งแต่เกิดเหตุ หลานก็ยังไม่ได้เข้ามาที่บ้าน ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก ไม่รู้ว่าหลานเดินไปตายตรงไหนหรือไม่
ซึ่งวันนี้ นายแสวง จึงชวนทีมข่าวนั่งรถพ่วงข้าง ออกไปตามหาหลานชาย เนื่องจากก่อนที่ทีมข่าวจะไปที่บ้านมีชาวบ้านโทรศัพท์มาให้ข้อมูลกับนายแสวงว่าหลังเกิดเหตุเจอหลานเดินอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้านแถวคอกวัว โดยวันนี้นายแสวงได้พาทีมข่าวไปหาในจุดแรกก่อน คือคอกวัว ที่เป็นของเพื่อนนายบุญรอด แต่ในจุดแรกไม่พบใครที่คอกวัว ไม่มีใครอยู่และล็อกประตูเอาไว้ ส่วนจุดที่ 2 เป็นคอกวัวที่อยู่ใกล้กัน มีลักษณะเป็นเถียงนา ที่อยู่ติดถนน เมื่อไปถึง นายแสวง ก็เดินตามหาหลาน แต่ก็ไม่พบใคร
โดยระหว่างทางเจอกับชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนนี้หลังเกิดเหตุ ตอนที่ขับรถผ่านมาเจอนายบุญรอด เดินอยู่แถววัดตีนเขา ตอนนั้นที่เห็นนายบุญรอดเดินมาคนเดียว ไม่รู้เดินไปนอนที่วัดหรือไม่ เพราะตอนที่ย้อนกลับมาตอนเที่ยงคืน ไม่เจอนายบุญรอดแล้ว โดยทั้ง 3 จุด ที่ทีมข่าวและนายแสวงออกไปตามหา ยังไม่พบร่องรอยของนายบุญรอด โดยนายแสวง บอกกับทีมข่าวระหว่างทางค้นหาว่า เมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุ ตนเองมาทราบเรื่องว่าหลานไปแทงนายยอด ตอนประมาณ 1 ทุ่ม
นายแสวง ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะว่าหลานเพิ่งจะกลับมาจากต่างจังหวัด และก่อนหน้านี้หลานก็ไม่เคยไปกินเหล้ากับนายยอด คนเจ็บมาก่อน ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเองได้มีโอกาสเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบตัวนายยอด มีแต่กู้ภัยยืนอยู่ และให้ข้อมูลมาว่าคนเจ็บเล่าให้กู้ภัยฟังตอนทำแผลว่าตอนเกิดเหตุมีการแทงสู้กัน ต่างคนต่างแทง และหลานคือนายบุญรอด ก็ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นพอตนเองรู้เรื่องก็เลยออกตามหาหลานตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก หากเจอจะพาไปมอบตัวกับตำรวจ ยอมรับหลานชายทั้งเสพยาทั้งติดเหล้า พักหลัง ๆ ก่อนเกิดเหตุ มีชาวบ้านเห็นว่าเดินคุยคนเดียว ไม่คิดว่าหลานจะไปก่อเหตุแทงนายยอดเจ็บสาหัส ยืนยันก่อนหน้านี้หลานไม่เคยไปกินเหล้ากับนายยอด มาก่อน เพราะนายยอดอายุห่างกับหลานหลายปี ซึ่งปมเหตุส่วนตัวคิดว่าหลานน่าจะแวะไปขอกินเหล้ากับคนเจ็บ และอาจจะพูดไม่เข้าหูกัน จนเป็นเหตุให้แทงกัน ส่วนตัวยืนยันว่ารู้จักกับนายยอด และนายยอดก็เป็นคนที่ชาวบ้านเอือมระอา เนื่องจากเวลาเมาชอบหาเรื่อง
Advertisement