ญาติโผล่อยากช่วย 2 พี่น้องพ่อแม่ตายหมดรู้ข่าวได้ 5 ล้าน แต่เด็กขอดูแลกันเอง (คลิป)
วันที่ 7 ธ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับรายงานว่า ด.ญ.ณัฐวรรณ์ หิริโอ หรือ น้องมะนาว อายุ 12 ปี และ ด.ช.ณัฐวุฒิ กล้าหาญ หรือ น้องเน็ต อายุ 11 ปี สองพี่น้อง ต้องใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพัง ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจาก นายแฉล้ม กล้าหาญ อายุ 55 ปี พ่อซึ่งเป็นเสาหลักคนสุดท้ายของครอบครัว ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคปอดอักเสบ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ นางฟักทอง กล้าหาญ อายุ 89 ปี ย่าของเด็กทั้งสองก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ส่วนแม่นั้น เสียชีวิตไปก่อนหน้าเมื่อประมาณ 6-7 ปีก่อน
โดย ด.ญ.ณัฐวรรณ์ เปิดเผยว่า เดิมบ้านนี้อยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย นางฟักทอง กล้าหาญ อายุ 89 ปี เป็นย่า นายแฉล้ม กล้าหาญ อายุ 55 ปี เป็นพ่อ นางจำเนียร หิริโอ อายุ 46 ปี เป็นแม่ และลูก ๆ อีก 2 คน โดยแม่เสียเมื่อ 6-7 ปี ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 65 ย่า ก็เสีย จากนั้นอีก 7 วัน ที่ 2 ธ.ค. 65 พ่อก็มาเสียไปอีกคน
โดยช่วงที่พ่อยังอยู่ พ่อจะทำกับข้าวให้กินตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน บางวันก็มีตังให้บ้าง บางวันก็ไม่มี วันที่พ่อเสียทางบ้านไม่มีเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ต่อจากนี้ตนต้องอยู่กันตามลำพังเพียง 2 คน ไม่รู้สึกกลัว แต่คิดถึงพ่อและรักพ่อมาก ส่วนอนาคตยังไม่รู้จะเป็นเป็นอย่างไรต่อไปและยังต้องการจะเรียนหนังสือต่อไป แต่ติดขัดที่ไม่มีใครดูแลแล้ว
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังหมู่ 4 ต.หนองหัววัว อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร บ้านของเด็กทั้งสองคน พบว่าเป็นบ้านโล่งไม่มีสิ่งของมีค่าใด ๆ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เข้าไปสำรวจภายในบ้านของ น้องมะนาว น้องเน็ต สองพี่น้อง โดยเด็ก ๆ ได้พาทีมข่าวเข้าไปดูห้องนอนที่ทั้งสองคนเคยนอนกับพ่อ ส่วนนอกห้องนอนเป็นห้องของย่า
นอกจากนี้ภายในบ้านเด็ก ๆ ยังตั้งโกศของพ่อกับแม่ไว้ข้างกัน พร้อมทั้งหยิบเสื้อ อปพร.ของพ่อมาให้กับทีมข่าวดู
น้องมะนาว น้องเน็ต ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวสั้น ๆ ทั้งคู่บอกว่าเสียใจ ยังคงคิดถึงพ่อกับย่า ที่ผ่านมาแม้พ่อจะป่วยโรคเกาต์พ่อก็จะตื่น 6.00 น. เพื่อหุงข้าวทำอาหารเช้าให้พวกตนกินก่อนไปโรงเรียน บางวันพ่อพอมีเงินพ่อก็จะให้เงินคนละ 15 บาท เพื่อนำไปซื้อขนม
หลังจากนี้ พวกตนจะรักกันเพื่อไม่ให้พ่อต้องเป็นห่วง โดย น้องเน็ต พูดว่า “จะหุงข้าว หาข้าวให้พี่กิน พ่อไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมดูแลพี่เอง” โดย น้องมะนาว พูดว่า “พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะดูแลน้องเอง” ทั้งนี้เด็กทั้งสองคนบอกกับทีมข่าวว่าอยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อ ไม่อยากย้ายไปไหนเพราะคิดถึงยายกับพ่อ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้พูดคุยกับ นายวุฒิพงษ์ พลศร หรือ เอ อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งพาทีมข่าวเข้าไปดูความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ บอกว่า ขณะนี้เด็ก ๆ ไม่เหลือใครแล้ว เด็ก ๆ ไม่มีรายได้ โดยพ่อของเด็กติดเงินกู้กองทุนหมู่บ้านจำนวน 40,000 บาท และ ธ.ก.ส. 400,000 บาท ซึ่งเมื่อพ่อของเด็กเสียชีวิตไปแล้วเด็ก ๆ ก็ต้องรับภาระหนี้ของธนาคารแทน อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และอำเภอพรานกระต่าย ได้เข้ามาตรวจสอบข้อมูล เพื่อเตรียมแนวทางการข่วยเหลือเด็ก ๆ แล้ว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.สุภารัตน์ โมลาลาย หรือ แอน อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องของเด็ก ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นญาติคนเดียวของเด็กทั้งสองคนที่เหลืออยู่ในหมู่บ้าน น.ส.สุภารัตน์ บอกว่า ปกติเด็ก ๆ จะอาศัยอยู่กับย่าและพ่อ ซึ่งพ่อของเด็กก็ร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้ไม่สามารถรับจ้างทำงานหนักได้ แต่พ่อของเด็กก็พยายามดูแลย่าและเด็กอย่างดีที่สุด รายได้วันละ 300 บาท แต่ไม่ได้ทุกวัน
โดยเด็กทั้งสองคนเป็นเด็กดี คอยช่วยพ่อทำงานทซึ้งถือได้ว่าเด็กทั้งสองคนสู้ชีวิตมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่แม่เสียชีวิตไป ตนซึ่งเป็นญาติที่เหลือของเด็กในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาปกติตนก็จะหมั่นเอาข้าวไปให้เด็ก ๆ และคอยช่วยดูแลเด็ก ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จิตใจของเด็กค่อนข้างบอบช้ำ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นหนักเกินไปสำหรับเด็กอายุ 11-12 ปี โดยแต่ก่อนทั้งคู่ร่าเริง แต่ขณะนี้เก็บตัว ซึ่งตนก็จะคอยอยู่เป็นเพื่อนเด็กและคอยปลอบใจ ทั้งนี้มีญาติหาง ๆ เสนอที่จะรับตัวเด็กไปดูแล แต่เด็ก ๆ ไม่ยอมไปเพราะไม่คุ้นเคย ซึ่งหากเด็ก ๆ ยืนยันว่าจะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อตนก็จะช่วยดูแลเด็ก ๆ อย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้
Advertisement
