จากกรณีโลกโซเซียลฯ ได้มีการโพสต์ภาพเด็กกำลังนั่งกำลังนั่งพี้กัญชาด้วยบ้องไม้ไผ่ บริเวณริมชายหาดพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนมีการนำเสนอข่าวเป็นกระแสร้องแรงถึงความไม่เหมาะสม
วันที่ 2 ธ.ค.65 พม. ตำรวจ เมืองพัทยา สาธารณสุข อ.บางละมุง และ ฝ่ายปกครองบางละมุง ได้เข้าทำการช่วยเหลือ ด.ช.เอ็ม (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ที่ปรากฎภาพทางโลกโซเซียลฯ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ควบคุมตัวได้ในขณะกำลังนอนหลับอยู่ริมหายทรายห่างจากจุดนั่งพี้กัญชาประมาณ 100 เมตร โดยพบประวัติว่า ด.ช.เอ็ม เพิ่งหนีออกมาจากศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัวบางละมุง
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ที่ห้องงานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ภายหลังมีการสอบสวนและพูดคุยกับ ด.ช.เอ็ม นานกว่า 2 ชม. โดยพยายามพูดคุยกับเด็กถึงสาเหตุการณ์พี้กัญชาและปัญหาครอบครัว ก่อนจะนำเด็กตรวจร่างกายที่ รพ.บางละมุง โดย ด.ช.เอ็ม ขอเอาสุนัทไปด้วย
นางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้ น.ส.รัตนาพร คนรำ นักสังคมสงเคราะห์มาสอบสวนเด็กในเบื้องต้น พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ด.ช.เอ็ม เป็นเด็กที่เคยได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี แต่ด้วยปัญหานิสัยและพฤติกรรมของเด็กเองจึงมีการหลบหนีออกมา วันนี้กลับมาเจอเด็กอีกครั้งก็รับตัวเองไปคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กอีกครั้ง เนื่องจากน้องเป็นที่ครอบครัวดูแลไม่ได้ ไม่มีพ่อแม่
ซึ่งจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือเด็กตามกระบวนการ และคุ้มครองเด็กตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ส่วนเด็กไม่ยอมเปิดเผยหรือให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องกัญชา จึงได้มีการพูดคุยสอบถามเรื่องสารทุกข์สุขดิบและชีวิตความเป็นอยู่ แต่ระหว่างที่คุยน้องจะพยายามถามถึงเจ้าใบเตยลูกสุนัขคู่ใจตลอดเวลาเท่านั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่พัทยารุ่งเรือง ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยได้พูดคุยกับ นางทองสา (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ย่าแท้ ๆ ของ ด.ช.เอ็ม เบื้องต้นคุณย่าเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลานเป็นลูกของลูกชายคนโต โดยพ่อกับแม่เด็กแยกทางกันตั้งแต่หลานอายุ 3 ขวบ หลังจากนั้นพ่อเด็กก็หนีไปเพราะเรื่องหนี้สิน ส่วนแม่เด็กรู้เพียงว่าทำงานอยู่ จ.ระยอง
ใน อดีต ด.ช.เอ็ม เป็นเด็กเรียบร้อยพูดจาเพราะเวลาเรียกย่าจะเรียก “ย่าครับ” ทุกคำ ต่อมาช่วงอายุ 7 ขวบ ก็เริ่มมีพฤติกรรมลักขโมยตามร้านค้าและร้านขายของชิ้นละ 20 บาท และถูกจับส่งตำรวจเป็นประจำ จนช่วงเมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมาเริ่มพฤติกรรมติดเพื่อน ชอบหนีออกจากบ้านกลับมาบ้านก็ชอบมาทะเลาะกับย่า จึงตัดสินใจขอส่งเด็กให้บ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ไปอยู่ได้ไม่กี่วันหลานก็หนีออกมา
จนล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่แล้ว พ.ย. หลานพยายามจะเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเพื่อไปอยู่ที่อื่น ย่าพยายามห้ามจนเกิดการฉุดกระชากกัน แต่สุดท้ายก็ถูกหลานกระโดดถีบ กระโดดต่อย และหมวกกันน็อกฟาด จนได้บาดเจ็บส่วนหลานก็หนีไป จากนั้นก็ไม่ทราบข่าวหลานอีกเลยก่อนจะมีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กติดต่อมาเมื่อเช้า ว่าจะรับหลานกลับไปเข้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี
นางทองสา ยอมรับว่ารู้สึกตกใจที่เห็นข่าวว่าหลานไปดูดกัญชากับเพื่อน อีกทั้งยังยอมรับว่าหลานเป็นเด็กขาดความอบอุ่นไม่มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดู แต่จะให้เอาหลานกลับมาเลี้ยงดูก็คงรับไม่ไหวเพราะไม่รู้ว่าจะถูกหลานฆ่าตายวันไหน พร้อมทั้งอยากบอกหลานว่า “อยากให้เค้าเป็นเด็กดี กลับตัวกลับใจ สิ่งไหนไม่ดีก็ขอให้เลิกทำ” ก่อนปิดท้ายอีกว่าที่หลานเป็นแบบนี้เพราะว่ารุ่นพี่และเพื่อนทำหลานเสียคน
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า เป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายแน่นอนเยาวชนได้ของมาอย่างไร
ตำรวจต้องขยายผลไปจับกุมผู้ให้ของ ต่อให้อยู่ในครอบครัวก็ต้องจัดการเพราะกฎหมายห้ามเด็กเข้าถึง แต่ในอีกมุมหนึ่งภาพที่ออกมา มันน่าสงสัยว่ามีการเซตกันขึ้นมาเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง แต่เท่าที่เห็นคือผิดกฎหมายแน่นอน
Advertisement