กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ooytip sinjaruch” โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายเป็นชาวเมียนมา บุกเข้ามาในบ้าน โดยพี่สาวซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเห็นพอดี จึงวิ่งหนีออกนอกบ้าน เป็นจังหวะที่หลานสาวเดินออกมา คนร้ายก็เดินวนไปกินน้ำ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นจะเข้ามาช่วยกันจับตัวคนร้ายออกไปได้
วันที่ 23 พ.ย. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นบ้านปูน 2 ชั้น มีรั้วโดยรอบ นางแดง (นามสมมติ) อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน นำทีมข่าวไปดูหลังบ้าน ซึ่งเป็นประตูเหล็กด้านหลังห้องครัว ที่คนร้ายงัดและเข้ามาในตัวบ้าน และบริเวณโถงกลางบ้าน จุดที่พ่อของนางแดงซึ่งป่วยติดเตียงนอนอยู่ และเป็นจุดที่คนร้ายกินน้ำเปล่า และน้ำมันพืชที่วางไว้บนโต๊ะ
นางแดง กล่าวว่า ช่วงเที่ยงคืนรอยต่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. และวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. ตนได้ยินเสียงหมาเห่าเสียงดังรอบบ้าน จึงเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เมื่อเดินออกไปไม่พบความผิดปกติ ก็เดินกลับเข้ามาที่บ้าน พบชายในคลิปเดินเข้ามาที่ห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งพ่ออายุ 92 ปี ที่ป่วยติดเตียงนอนอยู่ ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งออกมาหน้าบ้านร้องตะโกนให้คนช่วย
โดยน้องสาวกับน้องเขยนอนอยู่บ้านติดกันวิ่งออกมาดูและช่วยกันจับคนร้ายที่วิ่งตามออกมา แต่จับไม่ได้ มีการยื้อกันจนน้องเขยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้น คนร้ายก็กลับเข้าบ้านไปและล็อกประตู น่าจะเป็นช่วงที่หลานสาวออกมาที่ห้องโถงพอดี ระหว่างนั้นคนร้ายเดินเข้าไปในห้องครัว หลานสาวเปิดประตูจึงวิ่งหนีออกมา
โดยตนวิ่งไปบนถนนเห็นวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงขอความช่วยเหลือบอกว่าขโมยขึ้นบ้าน วัยรุ่นรายดังกล่าวถามว่าโจรมากันกี่คน ตนบอกว่าคนเดียว วัยรุ่นรายนี้บอกว่ารอแป๊บนึง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปตามเพื่อนมารวม 6 คน และบุกเข้าไปช่วยกันจับคนร้ายตามที่มีคลิปออกมา
นางแดง กล่าวต่อว่า คนร้ายน่าจะเมาคลั่งไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินหรือชีวิต เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ และหากตั้งใจจะมาทำร้ายตนคงไม่รอดแล้ว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่านอกจากคนร้ายจะดื่มน้ำเปล่าในบ้านตนแล้ว ยังดื่มน้ำมันพืชที่วางไว้บนโต๊ะเกือบหมดขวดด้วย ตนทราบมาว่าก่อนคนร้ายจะเข้าบ้านตน ได้ปีนเข้าบ้านจัดสรรที่อยู่ติดกันด้านหลังถึง 3 หลังด้วย
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านจัดสรร อยู่ด้านหลังบ้านนางแดง หมู่บ้านแห่งนี้ถูกคนร้ายปีนเข้าบ้าน 4 หลัง โดย 3 หลังแรกคนร้ายพยายามจะเข้าไปในบ้านแต่ไม่สำเร็จ ส่วนหลังที่ 4 คาดว่าคนร้ายปีนผ่านเพื่อจะไปบ้านนางแดง ซึ่งเป็นหลังสุดท้าย
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังแรกซึ่งอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน กล้องวงจรปิดตัวแรกเวลา 22.35 น. คนร้ายเดินผ่านบ้านหลังอื่นก่อนปีนรั้วเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย กล้องตัวที่ 2 จับภาพคนร้ายเดินผ่านไปหลังบ้าน กล้องตัวที่ 3 คนร้ายเดินไปหมุนลูกบิดประตูหลังบ้านแต่เปิดไม่ออก จากนั้นก็เดินไปอีกฝั่ง และกลับมาซุกตัวเข้าไปในพุ่มไม้หลังบ้านประมาณ 3 นาที จากนั้นกล้องตัวเดียวกันจับภาพ คนร้ายปีนรั้วหลังบ้านไปยังบ้านหลังที่ 2
นายพยุงศักดิ์ อึ๊งพานิช อายุ 50 ปี น้าชายเจ้าของบ้าน อยู่บ้านตรงข้ามผู้เสียหาย นำทีมข่าวไปดูหลังบ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่กำแพงทรุดคาดว่าคนร้ายจะเดินเข้ามาจากจุดดังกล่าวก่อนปีนเข้าบ้านหลานสาว นายพยุงศักดิ์ เล่าว่า คืนเกิดเหตุตัวเองนอนอยู่ในบ้าน ส่วนบ้านของหลานสาวไม่มีคนอยู่ ช่วงกลางดึกหลานสาวโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนร้ายบุกเข้าบ้านเพราะเห็นจากกล้องวงจรปิด ตนจึงรีบไล่กล้องดูมุมจากบ้านตัวเอง เห็นคนร้ายเดินผ่านหน้าบ้านไป มั่นใจว่าคนร้ายเข้าทางข้างบ้านตนที่กำแพงทรุด และอาจจะอยากเข้าบ้านตนด้วยแต่มีคนอยู่จึงไปเข้าบ้านหลานสาวตนแทน ดูจากพฤติการณ์แล้ว คนร้ายเดินวนไปมาพยายามจะเปิดประตูบ้านแต่ไม่สำเร็จจึงปีนไปบ้านหลังต่อไป
โดยตนอยากให้ทางโครงการมาแก้ไขเรื่องกำแพงที่ทรุด เพราะเป็นช่องที่ทำให้คนร้ายเดินเข้ามาได้โดยง่าย ตอนนี้ตัวเองก็ต้องคอยสอดส่องมากขึ้น กลัวว่าจะมีคนร้ายบุกเข้ามาอีก
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปบ้านหลังที่ 3 ซึ่งอยู่ติดกับหลังที่ 2 โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเวลา 22.43 น. คนร้ายเดินผ่านกล้องไปทางประตูหน้าบ้าน มีเสียงดังลักษณะพยายามจะเปิดประตู จากนั้นมีเสียงโวยวายในบ้าน กล้องอีกตัวมุมหน้าบ้านจะได้ยินเสียงเหนื่อยหอบของคนร้าย และเสียงพยายามจะงัดบ้าน จากนั้นคนในบ้านเป็นผู้หญิงร้องเสียงดังและผู้ชายตะโกนขอความช่วยเหลือเรียกข้างบ้านซึ่งเป็นครู ระหว่างนั้นคนร้ายวิ่งไปปีนประตูรั้วหนีออกไป
นางสามัคคี จุดาศรี อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 3 เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุขณะนอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงดังที่ประตูหน้าบ้าน จึงเดินออกมาดู เห็นคนร้ายกำลังพยายามดึงประตูบ้าน ตนจึงไปจับประตูเอาไว้จากด้านในไม่ให้เปิดได้ และตะโกนเรียกสามี จากนั้นสามีออกมาและตะโกนเรียกครู ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน และโทรศัพท์ไปบอกลูกสาวให้แจ้งตำรวจ ระหว่างนั้นคนร้ายน่าจะตกใจ และวิ่งไปปีนรั้วหน้าบ้านหนีไป
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ลูกสาวของตนมาถึงที่บ้านพร้อมตำรวจ ซึ่งตำรวจก็พยายามตามหาคนร้าย จนมารู้อีกทีคือคนร้ายไปเข้าบ้านนางแดง ที่อยู่หน้าหมู่บ้าน คาดว่าคนร้ายน่าจะไปปีนบ้านหลังที่ 4 ออกไปนอกหมู่บ้าน และปีนเข้าบ้านนางแดง
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังที่ 4 ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกของบ้านจัดสรร พบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน คาดว่าคนร้ายน่าจะปีนผ่านบ้านหลังนี้ไปออกด้านหลัง ก่อนงัดบ้านนางแดงซึ่งเป็นบ้านหลังสุดท้ายก่อนถูกจับกุม
ขณะที่พนักงานสอบสวนสภ.ท่ามะกา ระบุว่า ผู้ก่อเหตุชื่อว่า นายซอ มิน ทุน อายุ 47 ปี สัญชาติเมียนมา หลังจับกุมเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ตรวจสอบไม่พบสารเสพติดแต่มีอาการเมา คาดว่าดื่มสุราก่อนก่อเหตุและมีอาการหลอน พูดคนเดียวตลอดเวลา จากการสอบปากคำอ้างว่ามีคนจะทำร้ายจึงหนีไปเรื่อย ๆ โดยได้ส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว
Advertisement