สยองสาวใหญ่หาย 4 วันเป็นศพมัดปากยัดตู้แช่ ลูกเผยปมเครียดหนี้คาใจ ทิ้งจ.ม.ลาเข้ากรุง (คลิป)
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ย. 65 พบศพหญิงไทยอยู่ในตู้แช่แข็ง เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านวัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางจันทิรา แก้วป้องปก อายุ 57 ปี จากการตรวจสอบสภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้น นอนงอตัว ปากถูกเทปกาวปิดไว้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ นำศพส่งพิสูจน์ต่อไป
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบตู้เย็นที่พบศพวางอยู่หน้าบ้าน เป็นตู้เย็นเเช่ของสดขนาดความสูง 70 เซนติเมตร กว้าง 70 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร โดยช่วงเย็นที่ผ่านมาพบว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญยสถาน ได้เข้ามานำตู้เย็นใบดังกล่าวออกจากบ้านหลังเกิดเหตุนำขึ้นรถกระบะเพื่อนำไปทำลาย
นายธีรยุทธ สุวรรณพฤกษ์ อายุ 57 ปี สามีผู้เสียชีวิต เผยว่าตนเองยอมรับว่ามีปากเสียงทะเลาะกับเมียจริง แต่เมียก็ไม่ถึงขึ้นโกรธกันยาวนานเพราะยังทำกับข้าวกับปลาให้กินอยู่ตามปกติ นอกจากนี้เมียยังเป็นผู้ป่วยจิตเวชเคยกินยานอนหลับเกินขนาดเหมือนจงใจฆ่าตัวตายมาแล้วรอบหนึ่ง และยังชอบหนีออกจากบ้านอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งวันนี้ลูกชายมาพบศพแม่อยู่ในตู้แช่ไก่เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ
ด้าน นายอัครพล สุวรรณพฤกษ์ อายุ 33 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อก่อนเเม่ของตนมีอาชีพขายไก่ทอด เเต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีอาการป่วยจิตเวชจึงไม่ได้ประกอบอาชีพเพราะต้องรักษาตัว ตนเองก็ให้เเม่อยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร โดยที่ผ่านมาเเม่เครียดเรื่องหนี้สินที่ไปกู้เงินนอกระบบมาเเละมักจะถูกโทรขู่ทวงเงินอยู่หลายครั้ง เเละตนก็ตามใช้หนี้ให้เเม่มาโดยตลอด ซึ่งเวลาเเม่เครียดเเม่มักจะชอบหนีออกจากบ้านไปเข้าป่าอยู่บ่อย ๆ เเละมักจะกินยาเกินขนาดจนต้องนำส่งโรงพยาบาลมาเล้วหลายครั้ง
เเละก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65 เเม่มีปากเสียงทะเลาะกับพ่อเเต่ไม่รุนเเรง เเละหลังจากทะเลาะเสร็จก็ยังทำกับข้าวให้กันกินตามปกติ ต่อมาวันรุ่งขึ้นวันที่ 15 พ.ย. 65 เเม่ก็หายตัวไป เเละได้ทิ้งจดหมายไว้ 1 ฉบับ ถึงพ่อเขียนด้วยลายมือเเม่ใจความประมาณว่า "ขอโทษที่เป็นเมียที่ดีไม่ได้ สร้างเเต่ปัญหา สร้างเเต่หนี้สิน" เเละยังเขียนถึงลูกชายว่า "ขอโทษที่ต้องให้ลูกตามใช้หนี้ให้เเม่ เเม่จะขอไปกรุงเทพฯ ลูกจะได้สบาย" ซึ่งตนก็พยายามตามหาเเม่เเต่ก็ไม่พบ
สำหรับตู้เย็นดังกล่าวเป็นตู้เเช่ไก่ของเเม่ หลังจากที่เเม่ไม่ได้ขายของก็ถอดปลั๊กวางไว้หน้าบ้าน ส่วนห้องที่อยู่ด้านหลังตู้เป็นห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งตนก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเเม่อยู่ในตู้เย็น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินเสียงอะไรเเละไม่ได้กลิ่นใด ๆ เลย เนื่องจากตู้เย็นค่อนข้างปิดสนิท จนกระทั่งเช้าวันนี้ขณะที่ตนเองกำลังก้มใส่ถุงเท้าหน้าบ้านเพื่อจะออกไปทำงาน ก็ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาเล็กน้อย จึงเดินไปเปิดดูก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะสิ่งที่เห็นคือศพเเม่อยู่ในตู้เย็น ตนเองเเทบทรุดรีบวิ่งไปบอกชาวบ้าน
นายอัครพล ระบุอีกว่า ตอนนี้ตนยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของเเม่ เเต่รู้สึกคาใจเทปกาวที่พันอยู่รอบปากเเละศีรษะ เพราะในบ้านไม่เคยมีเทปกาวมาก่อน เเละที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครซื้อมาใช้ด้วยซ้ำ เเต่ก็ไม่ทราบว่ามาอยู่ที่ศพเเม่ได้อย่างไร เเต่เชื่อว่าตำรวจคงตรวจหา DNA เรียบร้อยเเล้ว ดังนั้นความหวังจึงอยู่ที่ตำรวจอยากให้คลี่คลายคดีโดยเร็วว่าสรุปเเล้วเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม หากฆ่าตัวตายตนเองก็ไม่ติดใจ เเต่หากเป็นการฆาตกรรมเเม่ของตนก็จะได้รับความเป็นธรรม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับกู้ภัยที่เก็บศพ นายนิตติพงษ์ เพชรดิต อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญยสถาน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ ว่าพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในตู้เย็น จึงเดินทางมายังบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งตอนที่ตนมาถึงตู้เย็นยังปิดอยู่ เเต่ก็ได้กลิ่นโชยออกมาเล็กน้อยพอเปิดตู้เย็นออกมากลิ่นเเรงมาก พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในท่านอนหงาย งอขา อยู่ในสภาพขึ้นอืดเต็มที่ พบเทปกาวพันเเน่นรอบปากเเละศีรษะ
ซึ่งในตู้เย็นพบเเก้วน้ำกับรองเท้า 1 คู่ วางอยู่ที่ปลายเท้าศพ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋า 1 ใบ, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, ผ้าเเละหมวก ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้ตายวางอยู่ใต้ศพ
โดยหลังจากส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธชินราชเเล้ว ทางครอบครัวของผู้ตายได้เเจ้งกับตนขอให้นำตู้เย็นออกไปจากบ้านให้ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะนำตู้เย็นใบดังกล่าวไปเผาทำลายให้
Advertisement
