จับเจ๊เงินกู้โหดปืนขู่ตบเด็ก 14 เลือดอาบยัวะปากแจ๋ว อ้างแค้นโดนเบี้ยวจนเสียทอง (คลิป)
วันที่ 17 พ.ย. 65 นายสายชล (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นำคลิปพร้อมกับหลักฐานร้องกับสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เพื่อให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี หลังตนถูกเจ้าหนี้เงินกู้รายหนึ่งชื่อ เจ๊จี๊ด อายุ 40 กว่าปี ใน อ.สิชล บุกมาที่บ้านพร้อมลูกน้องชื่อ นายบอย อายุ 27 ปี บังคับข่มขู่ทำร้ายร่างกายบีบคอและใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจี้หัวตน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ลูกน้องเจ้าหนี้ ยังทำร้ายลูกสาวของตนอีกด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนำคลิปและหลักฐานแจ้งความตำรวจ สภ.สิชล แล้ว แต่ผ่านมากว่า 16 วัน คดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่สำคัญครอบครัวของตนยังถูกเจ้าหนี้รายนี้ข่มขู่เอาชีวิต ต้องอยู่อย่างหวาดผวาไม่กล้านนอนบ้าน แต่มาจนถึง 17 พ.ย. 2565 คดียังไม่คืบหน้า
ล่าสุดวันที่ 17 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่มายังบ้านที่เกิดเหตุ พบ น.ส.ม่อน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย หรือลูกสาวนายสายชล ผู้เสียหายที่กู้เงิน น.ส.ม่อน บอกว่า ปกติถ้าพ่อไม่อยู่ตนก็จะอยู่กับน้องชายวัย 9 ขวบ และตา อายุ 67 ปี ซึ่งกลางวันก็จะออกไปทำงาน ส่วนตนกับน้องก็จะไปโรงเรียน เธอย้ำว่าเธอไมรู้ว่าพ่อไปกู้เงินใครมา
ซึ่งวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 1 พ.ย. 65 ตนได้ยินพ่อคุยโทรศัพท์กับเจ้าหนี้มีการระบุว่า จะเดินทางมามาหาพ่อตนเองที่บ้าน ซึ่งพ่อพูดคุยกับเจ้าหนี้ดีมาก ๆ โดยพ่อย้ำว่าถ้ามาก็มาพูดคุยไก่เกลี่ยกัน หลังจากนั้นก็พบเจ้าหนี้เป็นผู้หญิงมาที่บ้านกับชาย 2 คน ทราบชื่อเล่นภายหลังชื่อ ”เจ๊จี๊ด” มาถึงบ้าน 17.00 น. ซึ่งมาถึงก็มาพูดคุยกับพ่อตนเองจึงทราบว่าพ่อไปกู้เงินเขามา 10,000 บาท โดยมีการขึ้นเสียงถามว่าจะจ่ายเมื่อไหร่ พอตนเองถามเจ๊ว่าพ่อติดนี่เจ๊เท่าไหร่เจ๊ก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องของหนูอย่าเสือก ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายแทน พ่ออย่ามาเสือก
โดยเจ๊จี๊ดมีลักษณะอารมณ์เสียทำท่าทางจะพุ่งเข้ามาทำร้ายตนเอง พ่อจึงตะโกนบอกว่าอย่าทำอะไรลูกผม ขณะที่ตนเองหันไปมองชายอีกคนทำท่าเหมือนลักษณะจับปืน ซึ่งตอนนั้นไม่เห็นอาวุธปืน ตนเองจึงบอกว่าให้พูดกันดี ๆ เจ๊จี๊ดก็ย้ำอีกว่าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ไปอยู่ในบ้าน ส่วนพ่อตนเองก็พยายามให้ตนเองเข้าบ้าน แต่ตนเองมองว่าพ่อน่าจะไม่ปลอดภัยจึงเลือกยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน
จากนั้นจู่ ๆ เจ๊จี๊ดขึ้นมากระชากหัวตนเองแบบไม่ทันตั้งตัว กระชากลงจากบ้านจนตนล้มหัวเข่ากระแทกกับพื้น และเจ๊จี๊ดใช้กำปั้นต่อยหน้าตนเอง ขณะที่ตนเองก็พยายามยื้อตัวเจ๊จี๊ด หันไปเห็นพ่อถูกชายบีบตัวและชายอีกคนเอาปืนจ่อที่หัว พร้อมตะโกนขู่ว่าให้ตนเองปล่อยเจ๊จี๊ดและข่มขู่อีก “มึงจะจ่ายเมื่อไร จะจ่ายไหม มึงจะจ่ายตอนไหน ก่อนที่มึงจะตาย” ตนจึงปล่อยเจ๊จี๊ดแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก สท. เพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเจ๊จี๊ดลักษณะน่าจะดื่มเหล้ามา และคิดว่าถ้าไม่ขอความช่วยเหลือตนกับพ่อไม่รอดแน่
ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่กล้าเข้าบ้านเลยและพึ่งกลับมานอนได้ 1 คืน ตนกลัวหวาดผวาไปหมดและตนรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงมาก เพราะตนทราบภายหลังว่าที่ผ่านมาพ่อจ่ายเจ้าหนี้ตลอด แค่ไม่จ่าย 2-3 วันเอง ช่วงที่ฝนตกเพราะพ่อทำงานไม่ได้ ตนอยากให้ตำรวจจัดการเจ้าหนี้โหดให้ด้วย
ทีมข่าววีดีโอคอลพูดคุยกับ นายสายชล ผู้กู้เงิน พ่อของ น.ส.ม่อน กล่าวว่าตนทำอาชีพจัดหาไก่ชนและขาย ได้เป็นค่าจัดหาแต่ช่วงก.ย. 65 การเงินสะดุดจึงกู้เงินกับผู้ก่อเหตุจำนวน 10,000 บาท ช่วงแรกตกลงจ่ายดอกวันละ 300 บาท จนกว่าจะมีเงินต้น 10,000 บาท ไปคืน แต่จู่ ๆ ก็ถูกบีบให้จ่ายดอกวันละ 1,000 บาท แต่ตนไม่ได้หาเงินจ่ายได้ 1,000 บาททุกวัน จึงจ่าย 800 บาท หรือ 900 บาท บ้าง ตามที่มีในแต่ละวัน
ทั้งนี้ทุกครั้งที่จ่ายไปจนครบ 10 วัน ก็จะมีการหักหน้าซอง ซึ่งตนไม่ทราบว่าคือค่าอะไร แต่ลักษณะเหมือนเป็นเบี้ยปรับ เพราะครบ 10 วันแล้วตนไม่มีเงินต้นไปจ่ายก็จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,000 บาท ขณะเดียวกันหากวันไหนไม่มีจ่ายตนจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินวันละ 200 บาท ซึ่งตนก็เคยกู้กับรายอื่นมาไม่เคยเจอเงินกู้รูปแบบนี้เลย
กระทั่งก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 ตนเองค้างอยู่ 3 วัน แต่ตนก็ย้ำไปก่อนหน้านี้ที่มีการมาตามทวงถึงบ้านแล้ว 1 ครั้ง แต่ตนไม่อยู่บ้านมีเพียงลูกสาวที่อยู่บ้าน ตนบอกไปว่ากำลังหาเงินให้ แต่จากนั้นเจ๊จี๊ดก็พาลูกน้องผู้ชาย 2 คน มีข่มขู่ก่อนก่อเหตุทำร้ายลูกสาวตนซึ่งรุนแรงเกินไป
นอกจากนี้ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่คิดเบี้ยวหนี้หาจ่ายตลอด ไม่คิดว่าเจ้าหนี้จะกระทำรุนแรงขนาดนี้ ขอให้กลุ่มเจ้าหนี้ที่ก่อเหตุมามอบตัวชดใช้ในสิ่งที่กระทำกับลูกสาว ส่วนเรื่องหนี้สินไม่เบี้ยวแน่นอน แต่ย้ำว่าที่ผ่านมาตนก็จ่ายดอกไปเกินหมื่นแล้วตนไม่รู้ว่าเจ้าหนี้จะให้ไกล่เกลี่ยอย่างไร เพราะหลังเกิดเรื่องก็ไม่มีการติดต่อมาหรือมาข่มขู่อีก แต่ตอนนี้เรื่องคดีตำรวจยังไม่แจ้งมาและตนต้องห่างบ้านมาหางานทำก็เป็นห่วงความไม่ปลอดภัยของลูก ๆ
ด้าน นายสุภชัย ไทยราช ประธานสภาเทศบาลตำบลสิชล ที่ได้เข้าช่วยเหลือครอบครัวนี้ไว้โดยให้ที่พักชั่วคราวเพราะเด็ก ๆ หวาดกลัวไม่กล้าอยู่ที่บ้าน ประกอบพ่อเด็กต้องออกไปหางานทำ หวั่นว่าเด็กจะได้รับอันตราย เผยว่าวันที่เกิดเหตุตนเองนั่งอยู่ที่บ้านซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ก่อนพบเด็กวิ่งมาขอความช่วยเหลือสภาพแต่งชุดนักเรียนอาบเลือด แต่เมื่อตนเองเดินมาถึงกลับไม่พบชายทั้งสองคนแล้ว คาดว่ามีการปิดตัวหนี้ออกไปก่อนพบแต่เจ๊ผู้หญิงที่นั่งอยู่ ตนจึงดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพูดคุย โดยตำรวจก็ทำการลงบันทึกไว้และไม่มีการควบคุมตัวเจ๊แต่อย่างใด
แต่จากการที่ได้ยินตำรสจสอบสวน พูดคุยกับตัวเจ๊ไม่ได้มีการพูดอะไรมาก ตัวเจ๊บอกเพียงว่า ”เดี๋ยวจะเรียกนายหัวไปพูดคุย” ตำรวจลงบันทึกและปล่อยตัวไป ซึ่งหลังจากนั้นตนเองได้พยายามติดตามเรื่องของคดีให้และวันนี้ได้โทรไปสอบถามทราบเรื่องว่ามีการออกหมายจับผู้กระทำแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่ามีการจับกุมตัวมาดำเนินคดีหรือไม่
สำหรับเจ้าหนี้กลุ่มนี้ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ก่อนจะเกิดเรื่องครั้งนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเจ้าหนี้กลุ่มนี้ไปขอเหตุข่มขู่ในลักษณะแบบนี้มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่มีการลงไม้ลงมือ โดยตนเองให้สมาชิกฯ เข้าไปช่วยไก่เกลียและ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นและเพิ่งมาเกิดเหตุกับลูกบ้านของตน
น.ส.จรี จูรักพันธ์ หรือ เจ๊จี๊ด ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่าผู้เสียหายอ้างขอกู้เงินไปลงทุนไก่ 10,000 บาท เจ้าตัวมี 5,000 บาท จึงไปยืม 5,000 บาท แต่เพื่อนขอดอกเบี้ยวันละ 300 บาท เพราะผู้เสียหายอ้างยืม 10 วัน สุดท้ายไม่มีจ่ายรายวัน ตนจึงจำนำทองเอาเงินไปคืนเพื่อน 5,000 บาท ก่อนไกลเกลี่ยผู้เสียหายขอแค่เงินต้นคืนไม่เอาดอกเบี้ยแล้ว นัดหมายคืนอาทิตย์ละ 2,000 บาท แต่จ่ายงวดเดียวไม่จ่ายอีกเลยจึงไปทวงที่บ้าน โดยไปพร้อมรุ่นน้องในตลาดยันไม่มีปืน แต่ลูกสาวผู้เสียหายยืนเถียงประกอบกับตนดื่มเหล้าไปนิดหน่อยจึงโมโหเลยกระชากเด็กตบเพราะเด็กเถียง ไม่ได้คุยไกล่เกลี่ยกับพ่อเด็กเลยเบื้องต้นรับสารภาพทุกข้อหา
สำหรับความคืบหน้าคดี เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างติดตามตัว นายสมหมาย เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาอีกราย โดยทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทวงหนี้โดยข่มขู่การใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย, ร่วมกันบุกรุกในเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นอันตรายแก่จิตใจของผู้อื่น, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นในการกระทำใดหรือไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด และ ร่วมกันมีอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน โดยในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว เจ๊จี๊ด ไปส่งศาลฝากขังตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
Advertisement
