เปิดห้องมนตราเก็บเหล็กไหลพันล้าน เสกน้ำวิเศษ สธ.ให้ผ่านเงินสะพัด แต่ "เมฆ" งดกิน (คลิป)

จากกรณีช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ชาวบ้านหลายพันคนพากันเดินทางมาที่บ้านของ “นายริน รักษ์วงศ์” อายุ 43 ปี พื้นที่หมู่ 7 บ.ควนพน ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อขอ “น้ำเหล็กไหลควนเคี่ยม” ที่ “นายริน” ได้ทำพิธีตามครูหมอยาที่รับสืบทอดตามความเชื่อมาจาก “นายมิตร รักษ์วงศ์” อายุ 87 ปี ผู้เป็นพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ป่วยนอนติดเตียงด้วยโรคชรา ปอด ความดัน หอบหืด ไขมัน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมานาน แต่เมื่อ “นายมิตร” ได้ลองดื่มน้ำเหล็กไหลดังกล่าวแค่ 1 แก้ว ที่ผ่านการทำพิธีแล้ว ปรากฏว่าสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ครึ่งคืน ดื่มวันต่อมาถอดได้ทั้งคืน พอดื่มเข้าสู่วันที่ 3-5 ก็สามารถลุกขึ้นนั่งและเดินเองได้จนถึงปัจจุบัน

จากนั้นเมื่อชาวบ้านทราบเรื่อง ก็เลยเอาน้ำเปล่าทำพิธี ซึ่งเดิมที “นายริน” แจกจ่ายฟรีแก่ประชาชน แต่ปัจจุบันเพื่อลดการสัมผัสและให้ปลอดเชื้อก็จะไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเอาน้ำมาเอง ต้องใช้น้ำสะอาดจากทางโรงงานที่ “นายริน” เตรียมไว้แทน จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำก็เลยขอคิดค่าน้ำในราคา 3 ขวด 20 บาท โดยเปิดให้เข้ามารับได้ในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ซึ่งปัจจุบันมีชาวบ้านจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเดินทางมาขอรับน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000-5,000 คน ตามที่อมรินทร์ทีวีนำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ย. 65 เวลา 09.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่บ้านของ นายริน พบว่ามี นายพัฒน์ พุทธโร ผอ.สาธารณสุข อ.เขาพนม จ.กระบี่, นายดรัสพงศ์ สุวรรณพันธ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ พร้อมคณะ นายธีระยุทธ นาคฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรม รพ.เขาพนม, นายอิทธิเชษฐ์ โกศินธนวัฒน์ ปลัดอาวุโส อ.เขาพนม จ.กระบี่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เขาพนม จ.กระบี่, นายประทีป ชัยพระ กำนัน ต.เขาดิน,  นายเอกรัช อะรัญ รองนายก อบต.เขาดิน พร้อมคณะเดินทางมาตรวจสอบด้วย

เบื้องต้นวันนี้ทราบว่าทางสถานที่ปิดให้บริการแจกจ่ายน้ำฯ เนื่องจากตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง ตามความเชื่อแล้วจะไม่ประกอบพิธีกรรมอันเป็นมงคล จึงพบว่าบรรยากาศเงียบสงัด ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อคิวรอจำนวนมากเหมือนที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ส่วนลักษณะบ้านของ “นายริน” จะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ติดกับถนนลูกรังภายในหมู่บ้าน ซ้ายและขวามีบ้านเรือนของชาวบ้านทั่วไป และมีสวนยางพาราและสวนปาล์มของชาวบ้านแทรกตลอดทาง ซึ่งบางจุดถูกดัดแปลงเป็นลานให้บริการจอดรถคันละ 20-40 บาท รวมถึงบริเวณริมถนนตลอดทั้งแถบยาวประมาณ 3 กม. ก็มีการตั้งซุ้มร้านค้าสำหรับเปิดขายอาหาร เครื่องดื่มในวันให้บริการน้ำฯด้วย

นางกัญญารัตน์ ราชกิจจา อายุ 53 ปี พี่สาวของ นายริน ซึ่งจะคอยดูแลขั้นตอนการผลิตน้ำเหล็กไหลแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน พาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ พร้อมอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการทำน้ำเหล็กไหลฯ โดยจุดที่ 1 จะเป็นบริเวณหน้าบ้าน มีถังน้ำสีขาวขนาดใหญ่ 1,000 ลิตร วางอยู่ มีฝาปิด โดยจุดนี้จะมีการเทน้ำจากแกลลอน 20 ลิตร ลงไปในถังจนเต็ม ใช้ประมาณ 40-50 แกลลอน แล้วจะมีระบบท่อน้ำดูดน้ำเข้าไปยังถังน้ำในห้องพิธีที่อยู่ภายในบ้าน

จุดที่ 2 จะเป็นบริเวณห้องประกอบพิธี เป็นลักษณะห้องไม่ใหญ่มาก กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 2.5 เมตร ด้านในมีถังน้ำสีขาวขนาดประมาณ 500 ลิตร อยู่ 2 ถัง มีฝาปิด ถังแรกจะเป็นถังที่รับน้ำจากถังด้านนอก และจะถ่ายน้ำไปยังถังที่ 2 ซึ่งระหว่างที่มีการถ่ายน้ำโดยระบบมอเตอร์นั้น นายรินก็จะนั่งทำพิธีสวดคาถาหมอยาต่อหน้าก้อนเหล็กไหลที่วางอยู่บนพานกลางห้อง รวมถึงดอกไม้ หมากพลูด้วย เมื่อทำพิธีเสร็จ ก็จะเปิดระบบถ่ายเทน้ำจากถังที่ 2 ไปตามท่อ เพื่อส่งน้ำไปยังเครื่องจ่ายน้ำหน้าบ้าน ไม่มีการนำก่อนเหล็กไหลลงไปแช่หรือจุ่มในถังใด ๆ และเมื่อเสร็จสิ้นพิธีในแต่ละวัน ก็จะเอาก้อนเหล็กไหลเก็บใส่เข้าตู้เซฟทันที โดยไม่อนุญาตให้คนนอกมาภายในห้องทำพิธีเด็ดขาด ไม่ว่าจะขณะทำพิธีหรือเวลาอื่นก็ตาม

จุดที่ 3 ย้อนกลับมาที่หน้าบ้านตรงประเด็นเข้าบ้านจะมีระบบจ่ายน้ำ 24 หัววางอยู่ นั่นหมายความว่าแต่ละครั้งที่เปิดเครื่องจ่ายน้ำนี้ จะสามารถได้น้ำเหล็กไหลครั้งละ 24 ขวด ขวดละประมาณ 0.6 ลิตร โดยเท่าที่เจ้าหน้าที่และสื่อฯ เข้าไปตรวจสอบทั้ง 3 จุด พบว่าภายในถังทั้ง 3 ถัง มีตะกอนปะปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งทาง นางกัญญารัตน์ บอกว่าเป็นเพราะวันนี้ไม่ได้เปิดให้บริการ จึงยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่ปกติจะทำความสะอาดทุกครั้งก่อนจะเปิดใช้ใช้งาน อีกทั้งยังสังเกตว่าบริเวณเพดานภายในห้องมีหยากไย่ระโยงระยางบ้างบางจุดด้วย นางกัญญารัตน์ อธิบายว่า ช่วงที่ผ่านมาพวกตนต้องทำพิธีและผลิตน้ำเหล็กไหลให้ชาวบ้านหนักมาก จึงยังไม่มีเวลาทำความสะอาด แต่หลังจากนี้รับปากว่าจะปรับปรุงแก้ไขทุกจุดทันที ส่วนบริเวณระบบจ่ายน้ำ 24 หัว เท่าที่ประเมินด้วยสายตา ยังไม่พบคราบสิ่งสกปรกใด ๆ

ส่วนบรรยากาศอื่นภายในบ้าน ก็เหมือนกับบ้านของชาวบ้านทั่วไป มีห้องครัว ห้องนอน ห้องเก็บของและห้องแต่งตัว รวมถึงมีตะกร้าบัตรคิวจำนวน 1,000 คิววางอยู่ภายในบ้านด้วย

ขณะที่ขั้นตอนในการเข้ารับน้ำเหล็กไหลก็จะถูกจัดโซนไว้ชัดเจน เมื่อชาวบ้านมาถึงก็จะต้องรับบัตรคิวที่เต็นท์พักคอยข้างบ้าน 1 คิวจะแลกกับเงิน 20 บาท เป็นค่าน้ำ 3 ขวด จากนั้นก็ไปรอเรียกคิว โดยจะมีคนคอยเรียกคิวผ่านลำโพงเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นก็สามารถไปซื้อของที่ร้านค้าซึ่งมาเปิดขายในละแวกนั้นได้ เมื่อถึงคิวตัวเองก็ให้มายืนที่ทางเข้าบ้านตามลำดับ ซึ่งมีการทำซุ้มทางเข้าขึงด้วยเชือกฟางไว้ชัดเจน ก่อนจะรับน้ำต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หากใครไม่มีก็จะมีแจกให้ โดยทางทีมงานจะเอาน้ำที่กรอกด้วยเครื่องจ่ายน้ำและปิดฝาเสร็จแล้ว มาวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้าน ชาวบ้านก็เอาบัตรคิวมาแลกน้ำไป ถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอน

ด้าน นายรัน น้องชายของ นายริน ได้อธิบายขั้นตอนการดื่มน้ำเหล็กไหลกับทีมข่าว พร้อมกันนี้ทีมข่าวก็ทดลงทำตามและดื่มน้ำเหล็กไหลดูด้วยโดยก่อนจะดื่ม นายรัน บอกว่าต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วพนมมือท่องคำอธิษฐาน “ขออธิษฐานพญาเหล็กไหลเทวดาควนเคี่ยม ให้มาช่วยรักษาโรคในตัวให้หายให้คลายด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ” แล้วก็ดื่มตามจำนวนที่ต้องการ

ซึ่งเท่าที่ทีมข่าวลองดื่มไปนั้น รสชาติของน้ำจะเหมือนน้ำดื่มทั่วไป ไม่มีสี ไม่กลิ่น ไม่มีรสชาติอื่น ๆ ผสมและหลังจากดื่มทันที รวมถึงผ่านไป 3-4 ชั่วโมง ยังไม่มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย

นายพิพัฒน์ พุทธโร ผอ.สาธารณสุข อ.เขาพนม จ.กระบี่ ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวีหลังตรวจสอบเสร็จ โดยบอกว่าจริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบที่มาที่ไปของน้ำเปล่าแล้ว ก็พบว่าเป็นแหล่งผลิตที่ถูกต้อง สะอาด ปลอดภัยภายในพื้นที่ และการนำน้ำมาที่บ้านของนายรินก็นำมาโดยภาชนะปิดคือแกลลอน 20 ลิตร

ส่วนกระบวนการผลิตน้ำเหล็กไหลเท่าที่ดูเรื่องของความสะอาดก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ทั้งจุดพักน้ำทำพิธีและหัวจ่ายน้ำเพื่อบรรจุแจกจ่ายน้ำ แต่แน่นอนว่าจากที่เห็นตะกอนบริเวณก้นถังเล็กน้อย ก็เน้นเน้นย้ำกับทางทีมงานที่ดูแลส่วนผลิตไปแล้วว่าต้องทำความสะอาดทุกวัน แม้จะเป็นวันที่ทำพิธีหรือไม่ทำก็ตาม พร้อมกับภาชนะไหนที่เป็นฝาเปิดก็สั่งกำชับให้หาฝามาปิดทันที

นอกจากนี้วันนี้ได้นำตัวอย่างน้ำที่ผ่านกระบวนการทำพิธีเหล็กไหล ไปให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบแล้วและในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้จะเข้ามาตรวจสอบกระบวนการทำพิธีอีกครั้ง พร้อมกับเก็บตัวอย่างน้ำไปเข้าห้องแล็บอีกรอบ เพื่อตอบคำถามว่าน้ำที่เห็นที่ดื่มกันนั้นสะอาดปลอดภัยแค่ไหน และมีสรรพคุณอะไรบ้างถึงสามารถทำให้รักษาอาการป่วยต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนของกระบวนการวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องของห้องที่ใช้ทำพิธีซึ่งวันนี้พบหยากไย่ที่บริเวณเพดานหลังคาบางส่วน เบื้องต้นก็สั่งให้มีการทำความสะอาดถี่ขึ้น และเท่าที่สอบถามก็ทราบว่าเป็นห้องปิดห้ามบุคคลภายนอกเข้า ขนาดห้องอาจจะเล็กไปหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดหากใช้ทำพิธี สำหรับบริเวณรอบนอกทั้งจุดรับบัตรคิวและจุดรับน้ำเท่าที่ตนได้รับรายงานมาตลอดก็ทราบว่ามีการกำชับให้มีการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนและรักษาระยะห่างเสมอ บวกกับพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่เปิ เพราะฉะนั้นจำนวนคน 4,000-5,000 คนต่อวันที่ทยอยเข้ามาและกลับไปตนคิดว่าน่าจะไม่แออัดมากเกินไป เนื่องจากมีการรับบัตรคิวและมีจุดบริการที่จอดรถตลอดเส้นทาง

ขณะเดียวกัน นายอิทธิเชษฐ์ โกศินธนวัฒน์ ปลัดอาวุโส อ.เขาพนม จ.กระบี่ ยืนยันว่าเบื้องต้นยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหรือกลุ่มคนใดว่าน้ำเหล็กไหลที่นี่ ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือมีการหลอกลวงเกิดขึ้น แต่จะมีบ้างที่กระแสโซเชียลฯ อาจจะถูกแบ่งออกเป็น 2 มุม ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง

ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาสอดส่องบ่อยขึ้นทั้งเรื่องการจำนวนคน ดูแลความเรียบร้อยและการจัดระเบียบร้านค้า ควบคุมราคาขาย เพราะเป็นไปได้ว่าพอชาวบ้านหลั่งไหลกันเข้ามาเยอะ พ่อค้าแม่ค้าก็ใช้โอกาสเพิ่มราคาอาหารเกินกว่าที่ขายตามปกติ

ส่วนเรื่องราคาของน้ำ 3 ขวด 20 บาทนั้น ตนมองว่าไม่ได้ผิดแปลกอะไร เพราะส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านที่เดินทางมาที่นี่มาจากคำบอกเล่าและเดินทางมากันเองด้วยความศรัทธา ทางครอบครัวและทีมงานของนายรินไม่ได้มีการโฆษณาเชิญชวน รวมถึงยังไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นสำนักหรือบริษัทใด ๆ ด้วย

นายริน รักษ์วงศ์ อายุ 43 ปี เจ้าของก้อนหินเหล็กไหล เล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่าเมื่อคืนของวันที่ 26 ส.ค. 65 ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ในห้องนอน ก็ฝันว่ามีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาว ผมยาว ลอยมาตรงหน้า แล้วบอกกับตนว่า “ฉันจะให้ของดี จะให้สมบัติที่เฝ้ามาเนิ่นนาน มันอยู่ที่ควนเคี่ยม เพราะฉันจะไปเกิดเป็นนางฟ้า ช่วยดูแลรักษาสมบัตินี้แทนฉันตลอดไปด้วย” ตนก็รับปาก

พอตอนเช้าของวันที่ 27 ส.ค. 65 ตนตื่นขึ้นมาก็เลยชวนหลานชายขับ จยย. ไปที่ควนเคี่ยม เป็นลักษณะควนดินกว้าง 10 ไร่ พอไปถึงแล้วเดินขึ้นไปบนควนได้ประมาณ 10 ก้าว ก็พบก้อนหินขนาดใหญ่มีน้ำหนักประมาณ 5 กก. มีผิวนอกสีเหลืองวางอยู่ที่ตอต้นเคี่ยม ซึ่งถูกฟ้าผ่าตายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ตามความเชื่อของชาวบ้านเล่าต่อ ๆ กันมาว่าตอเคี่ยมต้นนี้เป็นที่สิงสถิตของเจ้าที่เจ้าทางตรงนั้น เพราะเมื่อ 30 ปีก่อน มีชาวบ้านมาโค้นต้นเคี่ยมเพื่อเอาไม้ไปขายทั้งหมด แต่เหลือต้นนี้เพียงต้นเดียวที่ไม่สามารถโค้นได้ ก่อนจะถูกฟ้าผ่า

ตอนแรกที่เห็นก้อนหินก้อนนี้ก็แปลกใจ เพราะในฝันผู้หญิงคนนั้นบอกว่าจะให้สมบัติแต่ทำไมกลายเป็นก้อนหินก็เลยใช้ค้อนทุบดู ปรากฏว่าข้างในกลวงและที่ผิวด้านในเป็นแร่บางอย่างมีสีดำมันวาวคล้ายเหล็กไหล ตนก็เลยเอากลับบ้านมาเพราะสัญญากับผู้หญิงในฝันไปแล้วว่าจะดูแลให้ พอมาถึงบ้านก็เก็บไว้ในห้องนอน ตนก็ลองค้นหาในเว็บฯ ว่าลักษณะของเหล็กไหลเป็นแบบไหน ซึ่งค้นไปคนมาก็คล้ายกับหินที่ตนเจอ แต่ยังไม่บอกใครในช่วงแรกจนกระทั่งตอนเย็นของวันที่ 27 ส.ค. 65 พ่ออายุ 87 ปี ซึ่งตอนป่วยหลายโรคทั้งหอบหืด ความดัน ไขมัน นอนติดเตียงมาเกือบ 4 ปี รักษาด้วยยาของทางโรงพยาบาลก็ไม่หาย พ่อจึงตัดสินใจถ่ายทอดวิชาหมอยาให้กับตน ด้วยการมอบตำราคาถาที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นให้ตนชุดนึง และในวันเดียวกันนั้นตนก็ตัดสินใจบอกครอบครัวว่าได้ก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายเหล็กไหลมา

วันที่ 28 ส.ค.65 แม่ตนเข้ามาปรึกษาว่าไหน ๆ ก็ได้คาถาหมอยามาแล้วก็ลองสวดคู่กับเหล็กไหลและน้ำดื่มดู ตนก็เลยอธิษฐานอัญเชิญครูหมอยาและพญาเหล็กไหล พร้อมกับอธิษฐานให้พ่อหายป่วย พอพ่อดื่มไป 1 แก้ว ก็รู้สึกดีขึ้นกระปรี้กระเปร่าขึ้น จึงให้ดื่มไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ 5 พ่อก็ลุกขึ้นนั่งได้และสามารถประคองให้เดินได้ จึงกลายเป็นที่พูดถึงของคนในหมู่บ้าน จากนั้นเรื่องราวก็ถูกแพร่กระจายออกไป

เจ้าตัวยอมรับว่าเดิมทีชาวบ้านเอาน้ำมาให้ตนทำพิธีตนก็ทำให้ฟรีเพราะมองว่ามันไม่ได้มีต้นทุนอะไร แต่พออยู่ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยก็เลยไม่อนุญาตให้มีการนำน้ำมาเอง แต่ให้ใช้น้ำที่ทางตนจัดเตรียมไว้ให้ซึ่งมาจากโรงงานที่ผ่านกระบวนการความปลอดภัยแล้วก็เลยกลายเป็นต้องมีต้นทุนเรื่องน้ำเปล่าขึ้นมา ปัจจุบันตนเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำพิธีท่องคาถาหมอยาเพื่อผลิตน้ำเหล็กไหลได้ เพราะพ่อมอบคาถาให้ตนคนเดียว ดังนั้น 1 วันตนทำพิธีไปประมาณ 20 รอบ รอบนึงใช้เวลาประมาณ 5 นาที ไม่ใช่การเข้าทรง เพียงแค่อัญเชิญครูหมอยามาร่วมพิธีเสกน้ำเฉย ๆ โดยตนจะลุกขึ้นมาเตรียมตัวตั้งแต่ตี 4 กินข้าวกินปลา และเริ่มทำพิธีตั้งแต่ 6 โมงเช้า บางวันยาวไปจนถึง 3 ทุ่ม ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้กินข้าวเที่ยง เนื่องจากอย่างที่รู้ว่ามีชาวบ้านหลั่งไหลเข้ามาเยอะมาก บางวันสูงถึง 4,000-5,000 คน

ยอมรับว่าตลอดทั้งวันที่มีการทำพิธี รู้สึกเหนื่อยมากและรูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลย แต่ตนก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะล้มเลิกหรือขายเหล็กไหลให้คนอื่น แม้ว่าเคยมีคนมาเสนอซื้อไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในราคา 100 ล้านบาทมาแล้ว เพราะตนเคยสัญญากับผู้หญิงในฝันว่าจะดูแลไปตลอดชีวิต

ด้าน เมฆ-วินัย ไกรบุตร นักแสดงซึ่งขณะนี้เจ้าตัวป่วยด้วยโรคพุพองตามร่างกาย ที่ได้ทดลองดื่มน้ำเหล็กไหลไปแล้ว 2 วัน คือเมื่อวานกับวันนี้เจ้าตัวบอกว่าใน 2 วัน ตนดื่มไปประมาณ 2 แก้ว ครั้งแรกคือเมื่อวานตอนค่ำกับวันนี้ตอนเที่ยง ซึ่งอาการทุกอย่างยังคงปกติไม่มีความรู้สึกใด ๆ จนถึงตอนนี้ เหมือนกับดื่มน้ำเปล่า อาการคันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่มีผีหรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ มาเข้าฝันด้วย

แล้วเนื่องจากเมื่อคืนที่ตนให้สัมภาษณ์ไป บวกกับได้เห็นขั้นตอนการผลิตน้ำเหล็กไหลจากอมรินทร์ทีวีเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการเทน้ำจากขวดลงไปรวมกันในภาชนะเพื่อทำพิธี ก็มีหมอโทรมาบอกด้วยความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดอันตรายกับร่างกายได้ จึงตัดสินใจแล้วว่าจะขอหยุดดื่มไปก่อนเพราะกลัวว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือดเหมือนกัน

แต่เมื่อทีมข่าวบอกว่าปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนกระบวนการผลิตน้ำเหล็กไหลที่จะใช้ทำพิธีเป็นรูปแบบใหม่แล้ว ไม่มีการเทน้ำจากขวดและระหว่างทำพิธีไม่ได้มีการนำสิ่งแปลกปลอมหรือเหล็กไหลใส่ลงไปในถังแต่อย่างใด รวมถึงวันนี้มีทางสาธารณสุขลงตรวจสอบความสะอาดและประเมินแล้วว่าอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมกับมีการเก็บตัวอย่างน้ำไปเข้าห้องแล็บ ตนก็ยอมรับว่ารู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ถ้าถามว่าจะกลับมาดื่มต่อเลยไหม เจ้าตัวบอกว่าคงต้องรอผลแล็บก่อน

หากผลแล็บออกมาว่าปลอดภัยก็สามารถดื่มได้ เนื่องจากในมุมของความเชื่อเกี่ยวกับเหล็กไหลนั้น ตนก็เชื่อมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทั้งยังเชื่อว่าอานุภาพจะทำให้อาการป่วยของแต่ละคนดีขึ้น และถ้าหลังจากนี้ตนดื่มแล้วอาการดีขึ้น ตุ่มตามร่างกายหายไป ปลายเดือนพ.ย. 65 จะลงพื้นที่ไปที่บ้านนายรินแน่นอน