"ป๋าเทพ โพธิ์งาม" ศิลปินตลกอดีตชื่อดังมาก ได้พูดถึงโตโน่ หลังได้ทำภารกิจว่ายน้ำข้ามโขง โครงการ "One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ในไลฟ์เพจ "ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ" วันที่ 22 ต.ค. 65 ที่ผ่าน
พร้อมถามว่า "โตโน่เขาได้เงินเป็น 60 ล้าน ถามว่าคนที่พูดนี่เขาได้ทำอะไรให้ได้สักบาทหรือเปล่าให้กับบ้านเรา ทำให้มันดีที่สุดดีกว่าไม่ทำ ดีกว่าพูด ทุกวันนี้พูดเยอะแต่หาเนื้อหนังอะไรไม่ค่อยได้ ... งานนี้นอกจากจะได้บุญกุศลแล้ว ยังได้สัมพันธไมตรีระหว่างไทย-ลาว ประเทศเพื่อนบ้านกับเรามันแน่นแฟ้นขึ้น ถามว่าคนที่พูดเคยทำอะไรบ้างไหม"
วันที่ 24 ต.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางมาพบป๋าเทพ ที่ไร่ป๋าเทพ จ.ราชบุรี ป๋าเทพเปิดใจว่า ตนคิดว่าการที่โตโน่ทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี มีประโยชน์กับคนหลายฝ่าย อย่างน้อยก็เป็นการจุดประกายให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันของคนในสังคม และสร้างมิตรภาพระหว่างไทยและลาวให้แน่แฟ้นยิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างสาธารณสุขได้ แต่ก็ดีกว่านั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย โตโน่เขาก็ทำที่เขาทำได้จุดเล็ก ๆ เท่านั้นแหละ ไม่ใช่ว่าเขาจะมาทำโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ในส่วนที่โตโน่ หรือ ตูน บอดี้แสลม ออกมาว่ายน้ำ หรือวิ่ง เป็นเรื่องของความสามารถที่แต่ละคนถนัด แต่ก็ต้องดูความเหมาะสม
สำหรับปัญหาด้านสาธารณสุขของไทย ทุกอย่างมีมายาวนาน ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่เหมือนญี่ปุ่น เกาหลี ไทยบ้านเราทำอะไรก็คอยจะค้านกัน มันเลยทำให้บางสิ่งบางอย่างเดินหน้าได้ไม่เต็มที่ และของไทยเรา เครื่องไม้เครื่องมือก็ยังไม่ทันสมัยเหมือนเมืองนอก อาจจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนเมืองนอกเขา บางครั้งเราก็ต้องยอมรับเหมือนกัน เนื่องจากเป็นเรื่องของคนหมู่มาก การจัดสรรงบประมาณก็ต้องดูความเหมาะสม
อยากบอกโตโน่ว่าไม่ต้องไปคิดมากเรื่องดราม่า เราต้องรู้อยู่แก่ใจว่าบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้มันต้องมีแบบนี้เกิดขึ้น อะไร ๆ ก็ทำให้เป็นเรื่องได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปคิดมากประสาทแดก ไม่จำเป็นเลย อันไหนเราทำได้เราก็ทำไป เป็นสิ่งที่ไม่เดือนร้อนใคร และยังทำให้ชื่อเสียง และความสัมพันธไมตรีไทย-ลาว มันก็แน่นแฟ้นมากไปอีก ส่วนดีมากกว่านะส่วนเสียมันไม่มีอีกหรอก
ถามว่าที่โตโน่ ออกมาว่ายน้ำ ตูนออกมาวิ่งจะแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขได้ไหม เราว่าก็ไม่ใช่หรอกเขาเป็นจุดเล็ก ๆ ปัญหาสาธารณสุขมากกว้างกว่านั้น ยกเว้นว่าจะเอาโตโน่ไปเป็นรัฐมนตรีเลยนะ คงจะทำได้ แค่ว่ายน้ำหารายได้ช่วยไรมากไม่ได้หรอก แต่มันเป็นส่วนที่ดีแล้วที่เขาออกมาทำแบบนี้ โอกาสที่ครบรอบวันคล้ายวันเกิด 74 ปี ตนอยากเห็นการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ได้หันมามองชาวบ้าน ทำให้เขาได้อยู่ดีกินดี มีเสรีภาพในการทำมาหากิน อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องเอาเงินมาแจกเขาอย่างเดียว อยากให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ประชาชนรับประโยชน์มาก ๆ หน่อย อย่าสนับสนุนโครงการใหญ่ ๆ อย่างเดียว โดยเฉพาะเรื่องของสินค้าชุมชน พลิกฟื้นคนรากหญ้า อย่ามองแต่คนระดับบนเท่านั้น อยากเห็นรัฐบาลที่มองเห็นประชาชนกลุ่มเล็ก ๆ จริง ๆ
หลังจาก "หมอริท เดอะสตาร์" นายเรืองฤทธิ์ ศิริพานิช รุ่นน้องเพื่อนสนิท ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @MhorRitz ถึงโครงการ "One Man And The River" โดยได้ร่วมแสดงความยินดีที่เสียสละทำเพื่อสังคมจนประสบความสำเร็จและปลอดภัย แต่ก็ได้ฝากในมุมมองของตัวเอง ช่วงหนึ่งว่า แม้ว่าจะมีเงินบริจาคมากแค่ไหน แต่บุคลากรทางการแพทย์ก็ยังเหนื่อยเท่าเดิม "ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ (1)
ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหนๆคนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว) (2)
1. ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1000 ล้าน หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรั
ซึ่งหลังจากที่ หมอริท ได้ทวีตข้อความดังกล่าว ทำเอาโลกโซเชียลร้อนระอุขึ้นมาอีกทั้ง โดยมีหลายคนที่ติดตามได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ด้าน "หมอก้อง สรวิชญ์" นักแสดงและแพทย์คนดังอีกคน ได้โพสต์ระบุเอาไว้ว่า "พูดเพื่อ??? หวังดีเหรอ มันใช่เวลามั้ย ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกันสิ จะรอคนโน้นคน นี้มาทำทำไม คนมีหน้าที่หลักๆ เค้าก็ทำอยู่ไม่ใช่ไม่ได้ทำ อย่าอคติ เพียงแต่อาจจะทำได้ยังไม่ถึงระดับที่น้องบอใจ ก็นี่ไง...มีคนมาช่วยเท่าที่เขาทำได้อยู่นี่ไง จากหนึ่งคนเป็นหลายๆ คนช่วยกันบริจาค
ก็การบริจาคเป็นทางที่พวกเขาสามารถช่วยได้ไงเขาเลยทำจะให้เขาไปแก้ไขโครงสร้างสาธารณสุขหรือไง ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้ คนที่เค้าทำ เค้ายอมเหนื่อยให้ส่วนรวม แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรม ด่าเค้าปาวๆก็ยังได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะเขาทำ "เพื่อส่วนรวม" จริงๆผมก็ไม่ได้สนิทกับโตโน่
แต่ในฐานะแพทย์คนนึง กล้าพูดได้เต็มปากว่า หมอคนนี้เห็นสิ่งที่โน่ทำแล้ว ปลื้มใจหายเหนื่อยครับ... ยิ่งเห็นว่ามีคนร่วมบริจาคมาเยอะขนาดนี้ด้วย ยิ่งหายเหนื่อย... มันหายเหนื่อยเพราะเห็นว่าในสังคมยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่เล็กด้วย ที่เห็นใจพวกเรา และอยากช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีที่พวกเขาทำได้... ขอบคุณมากครับ"
ด้านลมกรดทีมชาติไทย "ตุ่น เรวดี ศรีท้าว" อดีตนักกีฬาวิ่งแข่งทีมชาติไทย อีกคนหนึ่งที่สนับสนุน "โครงการ One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ล่าสุดคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นถึงหมอริทด้วย พร้อมชี้แจงจุดประสงค์หลักและแนะแนวทางให้กับหมอริท
"ตุ่น เรวดี ศรีท้าว" กล่าวว่า ในมุมมองของตนที่มีต่อโครงการ One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ที่ส่วนตัวมองว่า เป็นกิจกรรมที่ดี สร้างประโยชน์ สร้างประโยชน์กับผู้ป่วย ซึ่งเราทุกคนก็เป็นผู้ป่วยได้ทุกคน ไม่มีใครไม่ป่วย ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี กิจกรรมที่โตโน่เลือกคือการว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ท้าทายแล้วก็ยาก ตนรู้เพราะเวลาตนลงไปว่ายน้ำแค่ 1 ชั่วโมงยังขาอ่อนเลย นี่เขาว่ายข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ จะพูดขึ้นมาก็ได้ ต้องเตรียมการฝึกซ้อมร่างกายให้ดีพอ เขาต้องคิดว่าเขาทำได้ มันท้าทายเขาพอสมควร ตนมองว่าเขาเป็นคนมุ่งมั่น เต็มที่ในสิ่งที่ทำ ตนรู้ว่ามันต้องใช้ความพยายาม เพราะตนก็เป็นนักกีฬามาก่อน สำหรับตนสนับสนุนกับกิจกรรมแบบนี้แน่นอน ตนเห็นดราม่าตั้งแต่วันแรก ๆ ตนก็โอนเงินช่วยเลย ตนมองว่ากิจกรรมแบบนี้ควรสนับสนุน
สำหรับประเด็นที่ตนได้ไปตอบโต้กับการโพสต์ของหมอริท มุมมองของตนคือสิ่งที่โตโน่ทำมันเป็นประโยชน์ต่อคนไข้ เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย อะไรที่มันดีเราก็ต้องสนับสนุน สิ่งที่หมอริทโพสต์ตนอ่านทั้งหมด เพราะมีบางคนถามว่าตนอ่านไหม สิ่งที่เขาพยายามตีขึ้นมาคือเรื่องของระบบโครงสร้าง เรื่องของรัฐบาล ตนมองว่าเรื่องตรงนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับโตโน่ ต้องมองแยกประเด็นกัน โตโน่ทำเพื่อที่จะให้ประโยชน์กับผู้ป่วย แต่ถ้าเรื่องโครงสร้างหมอริทเป็นหมอจะทำอย่างไร หมอริทเห็นปัญหาของโครงสร้างสาธารณสุข และหมอริทเป็นบุคลากรทางการแพทย์ หมอริทจะมีวิธีการอย่างไร
ทั้งนี้ ตนติดตามหมอริท คือคนเก่ง ก็ต้องมีความสามารถคิดมาสักหนึ่งโปรเจกต์ จะทำอย่างไรกับปัญหาโครงสร้าง ไม่ใช่ด่านู่นนี่ขึ้นมาในขณะที่โตโน่กำลังทำเรื่องที่ดี และหากหมอริททำมาสักเรื่อง ตนก็จะซัปพอร์ต เพราะส่วนตัวแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อย่างไรก็ตามมันคนละเรื่องกัน ต้องแยกก่อนว่าเรื่องโครงสร้างที่เป็นปัญหาอยู่ เป็นเรื่องใหญ่และเป็นมานาน ตนเชื่อว่ามันค่อย ๆ ดีไปตามลำดับ ไม่ว่าจะใครมาดูแลประเทศก็ตาม ซึ่งตรงนี้ไม่เกี่ยวอะไรเลย
ส่วนที่เขาบอกว่าต่อให้ว่าย 10 รอบ ได้เงิน 1000 ล้าน หมอก็ยังเหนื่อยเหมือนเดิม ตนมองว่าหมอก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว เขาว่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ ไม่ได้ว่ายเพื่อให้เงินหมอ มันคนละเรื่องกัน คนทำอาชีพหมอเขารู้อยู่แล้วว่าต้องเหนื่อย เขาเลือกที่จะเป็นหมอ มันก็ต้องรู้ว่าตรวจคนไข้ มันต้องเหนื่อยอยู่แล้ว ตนมองว่าไม่ควรจะเอาหลาย ๆ ปัญหามาเชื่อมโยงกัน มันคนละเรื่อง มันต้องแก้ไปคนละเรื่อง อย่างโตโน่เขาก็ทำตามความสามารถที่เขาจะว่ายน้ำได้ เขาก็บอกแล้วว่าสิ่งที่เขาทำคือเพื่อช่วยแม่น้ำ ช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย เห็นคุณค่าของทะเล ไม่ทิ้งขยะ ทำไมไม่มองถึงตรงนี้กันบ้าง "เราอย่าแบ่งข้างกันเลยกับการสร้างประโยชน์ให้คนป่วย คนที่ได้รับตรงนี้เขาจะมองหมอริทไม่ดี เพราะเขาเป็นหมอด้วย การที่เขาบอกหมอก็ยังเหนื่อย ผู้ป่วยเขาจะคิดยังไง กล้าไปโรงพยาบาลไหม เพราะกลัวหมอเหนื่อย ตนว่ามันไม่ใช่ มุมมองมันเบี้ยวไปหมด"
ตนบอกไปแล้วว่าวิธีการทำความดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกคนที่เป็นคนดีเขาพร้อมสนับสนุนทุกคนที่เป็นคนดี ที่คิดที่จะทำอะไรที่เป็นความดี ต่างคนต่างทำ มันจะดีที่สุดสำหรับประเทศเรา ความดีมีมากมายหลากหลาย ช่วยกันทำดีกว่า อย่ามาบั่นทอนคนที่ทำความดีให้รู้สึกไม่ดีดีกว่า
ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "ส.ส.เต้" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า "#ว่ายข้ามเจ้าพระยา #ช่วยน้ำท่วม #ส.ส.เต้007 "ONE MAN ON CHAOPHRAYA RIVER" ผม ฐานะ ส.ส. เป็น ผู้แทนปวงชนชาวไทย ทนเห็นพี่น้องประชาชนในหลายจังหวัด เดือดร้อนกว่าหลายล้านคน อดข้าว-อดน้ำ-เดือดร้อนทุกอย่าง เขาจะไม่ไหวกันแล้ว ผมจึงตัดสินใจจะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา กทม. ด้วยหัวใจ ด้วยตัวเปล่า กางเกงในว่ายน้ำตัวเดียว
ไป-กลับ ใน วันที่ 8 พ.ย. 65 วันลอยกระทง เพื่อหารายได้ช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากเงินรัฐบาล มีงบประมาณจำกัด ไม่เพียงพอดูแลประชาชน เงินรายได้ทั้งหมดมอบให้ รัฐบาล-ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปซื้อข้าว-น้ำ-สิ่งของจำเป็น ให้ประชาชนน้ำท่วมขังนาน-ขังไม่นาน ปล.ตามกฎหมาย กกต.ผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่สามารถบริจาคเองได้ แต่พี่น้องประชาชน ที่มีกำลังสามารถช่วยได้ เพื่อความชัวร์ทางกฏหมาย วันที่ 25 ต.ค. 65 เวลา 10.00 น. ผมจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง กกต. สอบถามทำได้หรือไม่ เพื่อขออนุญาตให้ถูกต้อง ตามกฏหมายต่อไป"
ด้าน "แทค ภรัณยู" นักแสดงหนุ่ม โพสต์ข้อความระบุว่า "ได้ข่าวว่า พี่เต้ (ราม7) จะว่ายข้ามฟาก แม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าพี่ว่ายจริง ผมก็พร้อม ใต้ 4 ก็พร้อม เรือพร้อม พร้อมยก พร้อมเก็บเลยเพื่อไม่ไหว หวังดีนะพี่ คนกันเองสบายๆๆ #เอาอีกแล้ว #เรือพร้อมชุดพร้อม #ป่อเต็กตึ๊ง"
"ส.ส.เต้" ตอบกลับว่า "แทค น้องยังหนุ่ม อายุ 36 ปี ยาว 9" แข็งแรง กล้ามเป็นมัด แน่จริงมาว่ายน้ำข้างๆ พี่เต้ 007 หน่อย จะได้ไม่ต้องมาเก็บพี่ ปล.ผมทำประกันให้ เมีย-ลูก แล้ว"
Advertisement