สืบเนื่องจาก นายชญานนท์ คงฉาง หรือ นนท์ อายุ 24 ปี และน.ส.สุชัญญา หนูทอง หรือ ตาล อายุ 23 ปี สามีภรรยาชาว จ.ตรัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าซื้อรถมือสองจากเต็นท์ ใช้ได้ 5 เดือน ถูกตำรวจพร้อมเจ้าของเดิมเข้าแจ้งถึงบ้าน ซื้อรถถูกขโมยมา ทั้งที่เจ้าตัวซื้อถูกต้องตามกฎหมาย
รีบส่งรถเข้าตรวจสอบพบรถถูกปลอมแปลง เลขตัวเก๋งและเลขเครื่องเป็นคนละคัน ก่อนจะนำมาหลอกขาย ขณะที่เต็นท์รถปัดความรับผิดชอบ อ้างไม่รู้ ล่าสุด ธนาคารเตรียมจ่อฟ้องหลังไม่ได้ผ่อนค่ารถ จึงคาใจผ่านการจดทะเบียนกับขนส่งมาได้อย่างไร แถมจัดไฟแนนซ์กับธนาคารผ่านด้วย
วันที่ 16 ต.ค. 65 นายชญานนท์ และน.ส.สุชัญญา กล่าวว่า ตนซื้อรถมาได้ 5 เดือน จนเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 65 ก็เกิดเรื่องมีตำรวจ สภ.นาโยง มาถึงบ้านโดยมาล้อมรถคันดังกล่าวกับ น.ส.เอ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของรถ มาพร้อมกุญแจรถ เข้ามาสตาร์ตรถของเรา ก่อนเขาจะแจ้งว่าได้ตาม GPS ของรถมา เขาติดตามรถมาสักพักแล้ว เราก็ตกใจว่าจะเป็นไปได้อย่าไร ในเมื่อเรามีสัญญาเช่าซื้อ มีหน้าเล่มพร้อม ตำรวจก็เห็นว่าเรามีหลักฐานพร้อม เลยไปคุยกันที่ สภ.นาโยง จน น.ส.เอ แจ้งว่ารถคันดังกล่าว ทะเบียนในขณะที่ซื้อเป็นทะเบียน บท 7680 พัทลุง ได้ให้สามีไปใช้ ก่อนสามีจะให้เพื่อยืมไปและไม่ได้คืนกลับ จนถึงขณะนี้ น.ส.เอ ก็ยังผ่อนรถคันนี้อยู่
หลังจากนั้นเราก็ติดต่อทางเต็นท์ที่ซื้อมา เพื่อให้เขามาคุยกันที่ สภ.นาโยง ทางเต็นท์ก็ยืนยันว่ารถถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน ถ้าผิดกฎหมายคงจดทะเบียนที่ขนส่งไม่ผ่าน ตนก็เชื่อฝั่งเต็นท์ว่ารถคงถูกกฎหมายแน่นอน ทางเต็นท์ก็ได้พูดว่าถ้ารถผิดกฎหมายจริง ทางเต็นท์รับผิดชอบทุกบาททุกสตางค์ พร้อมเคลียร์ยอดให้
หลังจากนั้น ตำรวจ สภ.นาโยง ให้ส่งรถไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานใน จ.สงขลา หลังจากพิสูจน์เสร็จ รถก็ถูกนำไปยัง สภ.มะนัง จ.สตูล ที่บุคคลที่สองได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ว่ารถเขาโดนขโมยทางเราก็ติดต่อทางเต็นท์ว่าจะทำอย่าไงร รถต้องไว้ที่ สภ.มะนัง ทางเต็นท์ก็พูดว่า แล้วน้องให้ไปทำไม เราก็บอกไปว่าในเมื่อเราบริสุทธิ์ใจซื้อมาแบบถูกกฎหมาย ก็ต้องส่งไปพิสูจน์หลักฐาน เพราะเราเองก็อยากรู้ที่ไปที่มาของรถว่าทำไมอยู่ดี ๆ มีบุคคลอื่นมาแสดงตัวว่าคือเจ้าของรถ
หลังจากพิสูจน์เสร็จแล้ว ผลออกมาว่ารถถูกสวมโดนเต็นท์หลอกเต็ม ๆ ผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่ารถโดนปลอมแปลง เลขหัวเก๋งกับกระบะเป็นของอีกคัน ซึ่งเป็นของ น.ส.เอ ที่เป็นเจ้าของที่แจ้งว่ารถถูกขโมย มีแต่เลขเครื่องยนต์กับแชสซีที่เป็นของเรา และมีการปลอมแปลงใบแผ่นเพลทเลขเครื่อง โดยการตอกเลขเครื่อง และเลขตัวถังให้ตรงเพื่อให้เป็นคันเดียวกัน เพื่อตบตา ทั้งที่เลขถังและเลขเครื่องเป็นคนละเลขคนละคันกัน ก่อนนำมาขายให้กับเรา
หลังจากนั้น ก็มีการไปสอบปากคำกันที่ สภ.มะนัง มีใบหลักฐานยืนยันว่ารถโดนปลอมแปลง เราก็ติดต่อทางเต็นท์ไปอีกครั้ง ก็ไม่มีวี่แววว่าจะรับผิดชอบ นอกจากนี้ มีคำถามที่คาใจว่าทำไมจดทะเบียนที่ขนส่งผ่าน ทำไมจัดไฟแนนซ์กับธนาคารผ่าน ตรวจสภาพรถผ่านมาได้อย่างไร ในเมื่อรถคันดังกล่าวได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่ารถปลอมแปลง สุดท้ายนี้ อยากฝากเตือนทุกคนที่คิดจะซื้อรถมือสอง ดูเต็นท์ให้ดี ๆ ดูเคสเราเป็นตัวอย่าง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ เต็นท์ขายรถสมะแอนออโต้ เซลส์ อ.เมือง จ.ตรัง โดยน.ส.ดารุณี ศรีสงคราม กรรมการบริษัท สมะแอน ออโต้ เซลส์ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นยืนยันว่าเต็นท์รถไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดการณ์ว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกัน ซึ่งรถคันดังกล่าวที่มีปัญหา ตนได้รับซื้อมาจากนายหน้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวได้ประมูลมาจากธนาคารที่ขายทอดตลาด ก่อนที่ตนจะซื้อก็มีการตรวจสอบที่กรมขนส่งพบว่าทั้งหน้าเล่ม เป็นรถที่ไม่มีอะไรผิดปกติ และถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
ต่อมาลูกค้าก็ได้มาซื้อโดยให้พ่อที่เป็นช่างยนต์มาตรวจสอบรถ ทางลูกค้าก็พอใจจะซื้อ จึงได้มีการให้เจ้าหน้าที่ธนาคารมาตรวจสอบเลขเครื่องและเลขตัวถัง ด้านธนาคารได้ตรวจสอบก็ไม่พบผิดปกติ และอนุมัติการกู้เงินให้กับลูกค้า หลังจากนั้นตนก็ได้มีการโอนรถให้กับลูกค้า ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
หลังจากที่ลูกค้าได้รถไปไม่นาน ก็มีคนที่แสดงตัวเป็นเจ้าของรถ ไปหาลูกค้าที่บ้าน อ้างว่ารถดังกล่าวถูกขโมยมา และเจ้าตัวติดตามมาจาก GPS ที่ติดไว้ที่รถ ซี่งหลังจากทราบเรื่อง ตนก็พาลูกค้าไปเข้าพบตำรวจ สภ.นาโยง จ.ตรัง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบรถ พบว่าภายในรถมีบางชิ้นส่วนที่ไม่ได้เป็นของรถคันเดิม ไม่ตรงกับเลขตัวถัง กรับว่าทางเต็นท์ก็ไม่รู้ว่ามีการใส่อะไหล่รถคันอื่นมา เพราะพวกตนก็ตรวจสอบเลขตัวถัง เลขทะเบียนตรงกัน รวมถึงกรมขนส่งรับรอง ทางเต็นท์ก็เชื่อว่าเป็นรถที่ไม่มีปัญหาและไม่ผิดกฏหมาย
ตอนนี้รถคันดังกล่าวถูกตำรวจยึดไปตรวจสอบ ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง แต่ยืนยันกับลูกค้าไปแล้วว่าถ้าหากเรื่องมันสิ้นสุดและศาลตัดสินว่าตนผิด ก็ยินดีที่จะปิดยอดกู้ค่ารถให้ทั้งหมด ซึ่งตนก็แจ้งลูกค้าไปเป็นร้อยรอบแล้วว่าถ้ากระบวนการมันเสร็จ ทางเต็นท์จะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ทางลูกค้าก็ไม่ยอม และยังมีการไปโพสต์ตำหนิว่าตนหลอกขายรถ
อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะให้ตรวจสอบทุกเรื่อง หลังจากนี้ตนก็จะพูดคุยกับลูกค้าอีกครั้ง เพราะตนก็เห็นใจที่เขาซื้อรถไปแล้วไม่ได้ใช้รถ แต่มันเป็นเรื่องที่สุดวิสัย เพราะเรื่องนี้เต็นท์รถก็ไม่ทราบเรื่องเหมือนกัน ถ้าลูกค้าทำให้เต็นท์รถเสียหายก็จะดำเนินคดีเช่นกัน
Advertisement