ช็อก! ผัวเป่าขมับหนีผิดฆ่าเมียคนที่ 8 โผล่ไหว้ศพแม่ ญาติเหยื่อไม่จองเวร (คลิป)

จากกรณีที่นายสถาพร ขาวเผือก อายุ 60 ปี ชาว ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงอดีตภรรยาวัย 47 ปี ของตนเองเสียชีวิต ต่อหน้าลูกสาวของภรรยา บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของคอนโดฯ ย่านห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ต.ค. 65 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค. 65 เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. พ.ต.อ.ยศวรรษย์ กระจ่างวงค์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดสืบนครบาล ชุดสืบ สน.ทองหล่อ ไล่ติดตามผู้ต้องหามาตลอด จนทราบว่าหลังก่อเหตุ นายสถาพร ได้นั่งรถทัวร์โดยสารเพื่อหลบหนีจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้ากลับบ้านญาติที่ท้องที่ ม.1 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อตั้งใจมาร่วมงานศพแม่ของตัวเองที่เสียชีวิตเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อน โดยได้หลบอยู่ในบ้านพักบนชั้น 2 ของญาติ ซึ่งอยู่ติดกับงานศพแม่ตัวเอง

จากนั้นจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมในเวลาประมาณ 22.30 น. และให้พี่ชายของผู้ก่อเหตุ ภรรยาคนที่ 4 และลูกสาวคนที่ 4 เข้าไปเกลี้ยกล่อม ต่อมาพี่ชายและลูกสาวของนายสถาพร ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าผู้ต้องหาขอเวลา 10 นาที จะเดินออกมามอบตัว

จนกระทั่งเมื่อถึงเวลา นายสถาพร ยังคงไม่ลงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พี่ชายของนายสถาพร จึงได้พูดว่า “ลงมาได้แล้ว มีเจ้าหน้าที่ 300 นาย ล้อมบ้านไว้หมดแล้ว ให้ลงมา!” และลูกสาวของภรรยาคนที่ 4 ของ นายสถาพร ได้ตะโกนเรียกว่า “พ่อ!”

ซึ่งหลังจากสิ้นเสียงของลูกสาวที่เรียกพ่อ นายสถาพร ได้ตัดสินใจยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตทันที มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นบรรดาญาติ ลูก ๆ และพี่น้องของนายสถาพร ต่างร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ ลูกชายของนายสถาพรพยายามวิ่งฝ่าวงเจ้าหน้าที่เพื่อจะขึ้นไปหาผู้เป็นพ่อ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.เสือดำ หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง จึงเข้าเคลียร์พื้นที่บนชั้น 2 และพบ นายสถาพร ขาวเผือก อายุ 60 ปี ผู้ต้องหานอนเสียชีวิตในห้องน้ำ สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดคอกลมสีแดง กางเกงขายาวสีเทา ในมือถืออาวุธปืนขนาด 9 มม. และมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าศีรษะ 1 นัด ก่อนเจ้าหน้าที่จะกันพื้นที่เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีเพียงลูกชายของผู้ตายซึ่งเป็นอาสากู้ภัยป่าพะยอม ขึ้นไปดูสภาพศพของพ่อร่วมกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น

จากการสืบสวนของตำรวจ พบว่าหลังก่อเหตุเสร็จแล้วนายสถาพร ได้เดินทางหลบหนีโดยเรียกรถแท็กซี่ บริเวณสี่แยกเหม่งจ๋าย ย่านห้วยขวางฯ เวลาประมาณ 2 ทุ่ม และได้นั่งรถแท็กซี่ไปหาเพื่อน ย่านรามคำแหง 21 เพื่อซ่อนตัวจากตำรวจ โดยนอนที่บ้านพักเพื่อน 1 คืน

กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 10 ต.ค. 65 นายสถาพร ได้เดินทางโดยรถสาธารณะ จากรามคำแหง 21 เพื่อไปลงรถที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เพื่อหาทางหลบหนีลงใต้ จากนั้น ช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค. 65 นายสถาพร ได้นั่ง รถทัวร์มาลงที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของภรรยาคนที่ 4

จากนั้น นายสถาพร ได้นั่งรถตู้โดยสารสายนครศรีธรรมราช-พัทลุง ต่อไปที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งคาดว่ามีเป้าหมายคือต้องการมาเคารพศพของ นางเขียว ผู้เป็นแม่ ก่อนจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยมีญาติ ที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ขี่รถจักรยานยนต์มารับ โดยนายสถาพร ลงรถตู้บริเวณหน้า ม.ทักษิณ เพื่อรับมาที่บ้านของพี่ชาย ซึ่งอยู่ใกล้งานศพแม่ตัวเอง กระทั่งเวลาประมาณบ่ายโมง วันที่ 11 ต.ค. 65 นายสถาพร ได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพี่ชาย โดยไม่ได้ออกมาเดินในงานศพแม่ให้ใครเห็น

กระทั่ง 5 โมงเย็น สายของตำรวจที่อยู่ภายในงานศพแม่นายสถาพร เห็นว่า นายสถาพร ได้กลับมาที่งานศพแม่ตัวเอง และเข้าไปจุดธูป 1 ดอก ก้มกราบเคารพศพแม่ของตัวเองหน้าโลง ก่อนจะเดินเข้าไปหลบในบ้านพักของพี่ชายที่อยู่ติดกับงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านจะเริ่มทยอยกันมาร่วมงานศพนางเขียวแล้ว

จากนั้นตำรวจได้เดินทางมาถึงบ้านและนำกำลังปิดล้อมบ้านเอาไว้ และให้ญาติเข้าเกลี่ยกล่อมนายสถาพรให้มอบตัวในเวลา 20.00 น. แต่นายสถาพร ยังดื้อไม่ยอมลงมา ตำรวจจึงไปให้ทีมอีกชุดรับตัวภรรยาคนที่ 4 และลูกสาวมาพูดช่วยเกลี่ยกล่อม กระทั่งเวลาประมาณ 22.20 น. ตำรวจมองว่า จะนานเกินไปและกลัวว่านายสถาพรจะหลบหนี จึงให้ญาติได้เข้าไปคุยเจรจา ซึ่งผลออกมาว่าขอเวลา 10 นาที นายสถาพรจะลงมามอบตัว

แต่ปรากฎว่า หลังจากญาติและครอบครัวออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ พี่ชาย ลูกสาวนายสถาพร ได้ตะโกนให้เจ้าตัวลงมามอบตัว แต่กลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด นายสถาพร เลือกที่จะใช้ปืนยิงศีรษะจบชีวิตในที่สุด

ทีมข่าวสอบถาม พี่ชายของผู้ก่อเหตุ คนที่พยายามเจรจาเกลี่ยกล่อมให้นายสถาพรเข้ามอบตัวกับตำรวจ พี่ชายให้ข้อมูลสั้น ๆ เพียงว่า ตนเองไม่ทราบแน่ชัดว่าน้องชายหลังก่อเหตุได้กลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเมื่อน้องชายกลับมาถึงตนเองก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องชายเลย ส่วนงานศพก่อนที่น้องชายจะมาถึงเป็นงานศพของผู้เป็นแม่ ซึ่งเสียชีวิตก่อนน้องชายจะไปก่อเหตุ โดยตอนนี้ตนเองและครอบครัวยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและขอให้ข้อมูลเพียงเท่านี้ หากสภาพจิตใจดีขึ้นแล้วจะออกมาชี้แจงอีกครั้ง

ขณะที่ นายแมน (นามสมมติ) ลูกชายของนายสถาพร ซึ่งเป็นคนที่พยายามจะเข้าไปหาผู้เป็นพ่อ หลังจากได้ยินเสียงปืนดังขึ้นบนบ้าน และเป็นคนเข้าไปดูศพพ่อหลังนายสถาพรยิงตัวตาย เจ้าตัวไม่ขอพูดอีกแล้วว่า ปมเหตุที่พ่อตัดสินใจจบชีวิตเพราะอะไร ขอให้เรื่องมันจบเท่านี้ แกเสียไปแล้วก็ถือว่าจบแล้ว ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน และตนเองก็ไม่ทราบว่าพ่อไปโกรธแค้นนางครองกมล ภรรยาคนใหม่ของพ่อเรื่องอะไร และพ่อได้แวะมางานศพยายตั้งแต่เมื่อไหร่ตนเองก็ไม่รู้

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าปากซอยบ้านที่นายสถาพร หนีไปซ่อนตัวก่อนยิงตัวเองเสียชีวิต ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากตำรวจได้ให้ญาติเกลี่ยกล่อมนายสถาพรไม่เป็นผล ตำรวจซึ่งได้ตรึงกำลังอยู่ด้านนอกบ้าน จากภาพจะเห็นขบวนรถของตำรวจชุดสืบของนครบาล สืบ สน.ทองหล่อ และหน่วยปฎิบัติการพิเศษ จ.พัทลุง รถหน่วย swat นับ 10 คัน ขับเข้าไปปิดล้อมภายในซอยบ้านที่เกิดเหตุ

ส่วนเรื่องของคดีของนาย สถาพร จากการตรวจสอบพบว่า มีคดีค้างเก่าถึง 7 คดี ได้แก่
- 10 ก.ค. 2553 คดียักยอกทรัพย์ สภ.พัทลุง จ.พัทลุง
- 1 มี.ค. 2554 คดี พ.ร.บ.เช็ค สภ.รัษฎา จ.ตรัง
- 26 มี.ค. 2563 คดีลักทรัพย์ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
- 13 มิ.ย. 2563 คดี พ.ร.บ.เช็ค สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง
- 27 ก.ค. 2563 ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
- 6 ก.ย. 2565 คดีคดีขืนใจผู้อื่น หน่วงเหนี่ยวกักขัง และพกพาอาวุธปืนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต สน.ห้วยขวาง
- 8 ก.ย. 2565 มีอาวุธปืน เครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต สน.ห้วยขวาง ซึ่งคดีของ สน.ห้วยขวาง ตำรวจจะทำเรื่องสั่งไม่ฟ้องในคดีอาญา เพราะผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย แต่หากทางญาติผู้เสียหายติดใจ ก็สามารถจะฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายทางเเพ่งในคดีดังกล่าวได้

ต่อมาทางทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดควนสมบูรณ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางครองกมล บรรยางานศพวันนี้มีญาติและเพื่อน ๆ ทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ ส่วนลูกสาวของ นางครองกมล ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุยังคงอยู่ กรุงเทพฯ เดินทางมายังไม่ถึง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายจิรพันธ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 54 ปี พี่ชายของนางครองกมล ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ตนเองและครอบครัวได้ทราบข่าว นายสถาพร ยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตอนแรกที่บุกมายิงน้องสาวก็ยอมรับว่าโกรธแค้น แต่หลังจากรู้ว่าน้องเขยยิงตัวเองเสียชีวิต ก็อยากจะอโหสิกรรมให้ ไม่อยากจองเวรจองกรรมกันอีก

จนถึงตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของน้องสาว เนื่องจากน้องสาวที่ผ่านมาเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ส่วนที่ฝ่ายญาตินายสถาพรอ้างว่าเหตุผลที่ต้องฆ่าน้องสาวตนเอง เพราะนายสถาพรโกรธแค้นที่น้องสาวตนเองไปหลอกเอาเงิน และทำให้ชีวิตนายสถาพรตกต่ำลงเรื่อย ตนเองมั่นใจว่าน้องสาวตนเองไม่เคยคิดจะเอาอะไรกับนายสถาพร เพราะครอบครัวตนเองและน้องสาวก็พอมีฐานะอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น หลังจากนี้ตนเองขอให้น้องสาวหลับให้สบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีก