แฉยับผัวยิงเมียปางตายกุข่าวมีกิ๊ก ที่แท้เกาะเมียกิน วีรกรรมจี้ทองไปซื้อบิ๊กไบก์ (คลิป)
กรณีเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 23 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุการณ์ผัวยิงเมียเจ็บสาหัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบทราบผู้ก่อเหตุคือ นายสมณ์เจตน์ หรือ เจตน์จันทร์กระจ่าง อายุ 43 ปี โชเฟอร์รถตู้ ชาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนพกสั้น 11 มม. ไทยประดิษฐ์ ก่อเหตุยิงภรรยา นางกิ่งกาจน์ หรือ หล้าจันทร์กระจ่าง อายุ 39 ปี จนได้รับบาดเจ็บ โดยถูกยิงเข้าที่บริเวณโหนกแก้มด้านขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ต่อมา นายสมณ์เจตน์ เดินทางเข้ามองตัวที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พร้อมอาวุธปืน เจ้าตัวรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุยิงภรรยาเพราะคับแค้นใจที่ภรรยาไปคบกับชายอื่น และก็จับได้เป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว ครั้งนี้มันเกินทนสุด ๆ แล้ว
ล่าสุดวันที่ 24 ก.ย.65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นร้านเย็บผ้า อยู่ภายในซอยถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดพบ นายเจตน์ ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ แต่งกายเสื้อยืดสีม่วง นุ่งกางเกงยีนต์ ขี่รถมุ่งหน้าไปยังร้านเย็บผ้าของภรรยา เวลา 17.51 น.
ใช้เวลาประมาณ 28 วินาที คาดว่าไปถึงหน้าร้าน นายเจตน์ได้ก่อเหตุยิงภรรยาทันที เพราะหลังจากที่นายเจตน์ ขี่ผ่านกล้องวงจรปิดไปเพียง 1 นาที ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตอนเวลา 17.52 น. ก่อนมีเสียงร้องผู้หญิงร้องโวยวาย จากนั้นชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุต่างเดินออกมาริมถนน เพื่อชะโงกดู
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านเย็บผ้า ซึ่งอยู่ภายใน ซ.ถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พบมีการขึงเชือกปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ พร้อมยังมีรองเท้า เศษทิชชู่ จากการเช็ดคราบเลือดของผู้บาดเจ็บอยู่บริเวณหน้าร้าน
นอกจากนี้ทีมข่าวพบ น.ส.นิตยา อำภา อายุ 50 ปี น้าของผู้บาดเจ็บ และ นายประพันธ์ พวงมาลัย อายุ 65 ปี พ่อของผู้บาดเจ็บ เดินทางมาที่ สภ.ช้างเผือก โดยทั้งคู่บอกว่าจะมายื่นคัดค้านการประกันตัว นายเจตน์ หลังทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีแม่และญาติ ๆ ของนายเจตน์มาที่โรงพักเตรียมยื่นประกันตัว
โดย น.ส.นิตยา เปิดเผยว่า ตนเองขอแก้ข่าวกรณีที่ นายเจตน์ กล่าวหาว่าหลานมีชู้ยืนยันหลานตนไม่ได้มีชู้ การกล่าวหาแบบนี้มันหมิ่นประมาทกัน ซึ่งที่ผ่านมานายเจตน์เป็นคนเกาะหลานสาว ทั้งเรื่องกินและที่อยู่อาศัย อีกทั้งไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ไม่มีความรับผิดชอบ ลูก 2 คน ก็ไม่ช่วยดูแลและส่งเสียจนหลานต้องมารับกวนคนเป็นพ่ออยู่บ่อยครั้ง
อีกทั้ง นายเจตน์ยังมีนิสัยชอบทำร้ายร่างกายหลานสาวตน ซึ่งหลานตนก็ทนไม่อยากมีคดีความ เพราะจดทะเบียนสมรสกันอยู่ และเห็นแก่ลูกจึงอดทน แต่ล่าสุดเมื่อ 3-4 วันก่อน ตนเห็นใบหน้าและลำคอหลานช้ำไปหมด ก่อนจะรู้ว่าหลานถูกนายเจตน์ทำร้ายและบีบคอ จึงปรึกษาว่าจะเลิกราจริง ๆ จัง ๆ เพราะถูกทำร้ายรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เมื่อวานหลานจึงเข้าไปเคลียร์งานที่ลูกจ้างทำและเก็บของซึ่งไม่คิดเลยว่านายเจตน์จะมาทำร้ายหลานแบบนี้
ด้านนายประพันธ์ พ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากนายเจตน์จะทำร้ายลูกสาวแล้ว ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันนายเจตน์ไม่พอใจและต่อยแม่ยายจนคางบวมมาแล้ว ซึ่งตนทนไม่ไหว จึงบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่นายเจตน์ข่มขู่ให้ลูกสาวย้ายมาอยู่ในเมืองโดยเอาลูกชายมาอยู่ด้วย ซึ่งตลอดเวลาที่ลูกสาวย้ายมาในเมือง นายเจตน์ก็ไม่ได้ไม่มีความรับผิดชอบ เช้าหายเย็นกินเหล้า และก็ยังทำร้ายร่างกายลูกสาวเรื่อยมา สำหรับตนตักเตือนพร้อมขอให้ลูกสาวกลับบ้าน พ่อจะเลี้ยงเองแต่ลูกก็ทน จนล่าสุดถูกทำร้ายหนักลูกก็เลยไปหนีไปนอนกับลูกสาว จนวันที่ 22 ก.ย. 65 กลับมาเก็บของ ก็มามาเกิดเหตุขึ้น
นายประพันธ์ ยอมรับว่าทุกข์ใจมาก รับไม่ได้แถมใส่ความว่าลูกสาวมีชู้ ทั้งที่นายเจตน์เกาะลูกกิน มีทองก็ขู่เอาไปขายซื้อบิ๊กไบค์คันที่ใช้ก่อเหตุ ไม่เคยมีความรับผิดชอบใด ๆ เลย อย่างไรก็ตาม ตนเสียความรู้สึกที่ลูกสาวตนให้โอกาสนายเจตน์ วันนี้ตนก็หมดความอดทนเช่นกัน ตนไม่มีคำจะพูดกับผู้ชายคนนี้ ได้แต่ขอให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นคนอันตราย หวั่นออกมาจะมาทำร้ายลูกตนอีก
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในที่สาธารณโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายเจตน์ ไม่ประสงค์ทำแผน จึงคุมตัวส่งศาล จ.เชียงใหม่ ฝากขังทันที
ในส่วนของอาการของนางกิ่งกาจน์ ตอนนี้พ้นขีดอันตราย กำลังพักฟื้นอยู่ ICU 2-3 วัน
Advertisement
