จากกรณีเพจดังที่ตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับความเลื่อและพิธีกรรม "แม่ทัพลิง" ได้มีการแชร์ภาพและคลิปที่มีหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยร่วมทำพิธีคล้ายปลุกเสกของขลัง ตลอดจนมีคลิปวิดีโอที่มีการทำพิธี และท่องบทสวดแปลก ๆ ซึ่งมีคำหยาบคายและคำที่ไม่สุภาพอยู่ในคาถาที่ท่องนั้น
ทางทีมข่าวได้ตรวจสอบปรากฏว่าภาพและคลิปที่ปรากฏนั้นเป็นส่วนหนึ่งของผู้ทำพิธี ที่ใช้ชื่อว่า "อาจารย์พรหม อ่างทอง" โดยจากการตรวจสอบภายในเฟซบุ๊ก เห็นว่าทางเจ้าตัวนั้นแต่งกายคล้ายชุดขาว คล้ายนักบวช ตลอดจนมีการโพสต์ขายเครื่องรางของขลัง รวมไปถึงมีการโพสต์คลิปวิดีโอการปลุกเสกพระสุดแปลก โดยหลัก ๆ อ.พรหม จะนำเอาสาวสวยมาทำพิธีเป็นหลัก เพื่อจะปลุกเสกของในส่วนด้านมหาเสน่ห์ และเมตตา
ล่าสุด วันที่ 12 ก.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางไปสำนักของอาจารย์พรหม อ่างทอง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยทางอาจารย์พรหมเอง เปิดใจว่า พิธีกรรมดังกล่าวนั้นเรียกว่า "พิธีมหาเสน่ห์เรียกลูกค้า กีแหก" ซึ่งเป็นความเชื่อที่มาจากฝั่งเขมร ทางด้าน จ.สุรินทร์ โดยพิธีดังกล่าวนั้นมีมานานแล้วนับ 100 ปี แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครทราบ
ตนยืนยันว่าพิธีกรรมดังกล่าวส่วนตัวไม่ได้เพิ่งจะคิดค้นมาหรืออุปโลกน์คิดมาเอง แต่ตนได้ศึกษาเล่าเรียนมานานกว่า 30 ปี และเพิ่งจะเริ่มทำได้ประมาณ 10 กว่าปี ตอนแรกที่ไปเรียนมาตนก็ไม่ได้เชื่อว่าจะมีจริง สุดท้ายพอได้ลองและได้สัมผัสกลับพบว่าเรื่องความเชื่อแบบนี้มีจริง ตนเลยเรียนรู้และจ่ายค่าครูเป็นหลักแสนบาท ก่อนจะนำเอาพิธีกรรมดังกล่าวมาให้ลูกศิษย์ที่เชื่อและศรัทธาได้ลองทำ สุดท้ายทุกคนที่ทำไปกลับพบกับเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจริง เปรียบเทียบดูว่าทำไมสาวอีสานบางรายถึงได้สามีฝรั่งเยอะ เพราะบางคนบูชา และศรัทธาในพิธีกรรมนี้ เลยทำให้เขาได้เขามี
พิธีกรรมเสน่ห์ดังกล่าวนั้น เน้นเรื่องมหาเสน่ห์แล้ว ยังเน้นเรื่องของการค้าขาย เงินทอง โชคลาภ ส่วนถามว่สเหมากับใครนั้น ตามหลักแล้วเหมากับทุกเพศที่ต้องการเสน่ห์ และค้าขาย แต่หลัก ๆ ที่ผ่านมาตามคลิปที่จะเห็นนั้นเป็นในส่วนของผู้หญิง ที่ทำงานด้านบริการที่ต้องเอาใจลูกค้า พริตตี้ สาวเชียร์เบียร์เป็นหลัก โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างประเทศอย่างจีน ตลอดจนลูกค้าในประเทศไทยจะเป็นโซนพัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ เป็นหลัก หลายคนที่มาทำนั้นจะมีขีวิตมที่ปังขึ้น ดีขึ้นในยุคปากท้องที่ค่อนข้างจะพูดว่าข้าวยากหมากแพงก็ว่าได้ ประจวบกับเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจอีกทางหนึ่งความเชื่อ
ส่วนพิธีกรรมที่ปรากฏตามคลิปนั้นต้องบอกว่าเป็นคาถาจริงที่มาจากฝั่งเขมร ตำรามีจริง ซึ่งแต่ก่อนจะมีการเรียกว่า "มนต์กีใหญ่" ส่วนหลักการทำนั้นจะเป็นการนำมวลสารว่านมหาเสน่ห์จากธรรมชาติ อาทิ ว่านดอกทอง ว่านโยนี ว่านเสน่ห์หา ว่านไก่แดง และว่านอื่น ๆที่เกี่ยวกับเรื่องของเมตตามหานิยม โดยใช้ว่านธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่มีสายล่างอย่างพวกน้ำมันพรายหรือดวงวิญญาณแต่อย่างใด พร้อมมีการนำยันต์ที่ตนปลุกเสกมาประกอบด้วย
หลังจากนั้นจะให้ทางคนที่ศรัทธาซึ่งเป็นชายหรือหญิงก็ได้มาประกอบพิธีการกวนน้ำมัน พร้อมท่องคาถาตามที่ปรากฏในคลิป โดยจะต้องมีการกวนน้ำมันบนหม้อพร้อมมีการตั้งไฟจุดเผาตลอดเวลา เพื่อรักษาความสะอาดของน้ำมันที่ได้ ให้กลั่นเหลือแค่สารบริสุทธิ์ หลังจากนั้นระหส่างทำพิธีที่เห็นว่าทางผู้หญิงมีการนำผ้ามาซับตามซอกตามตัวนั้น เป็นส่วนหนึ่งในพิธี คือการนำเอาเหงื่อหรือน้ำที่ออกมาจากร่างกายระหว่างทำพิธี ซับใส่ผ้าก่อนจะนำผ้านั้นใส่ลงไปในน้ำมัน เพื่อเป็นการผูกจิต และหลอมรวมจิตที่ศรัทธาเข้ากับตัวน้ำทัน หลังจากนั้นก็จะต้องคนและตั้งคาถา ส่วนระยะเวลาในการคนและท่องคาถาถามว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่นั้นไม่จำกัด แล้วแต่บุคคล ใครมีเวลาน้อยก็ทำน้อย ใครมีเวลาเยอะก็ทำเยอะ
เมื่อทำพิธีเสร็จ ตนเองไม่ได้ให้เอาไปใช้ทันที เเต่ตนเองจะต้องนำน้ำมันดังกล่าว ไปต้มด้วยไฟแรงสูงอีกรอบ และมีการสกัดให้น้ำมันเหลือความบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเจือปน เพราะหลายคนมองว่าการซับเหงื่อลงไปจะสกปรกหรือเสี่ยงโควิดได้ ต้องบอกว่าจริง ๆ ตนต้มและจุดไฟเผาจนเหลือแค่สารบริสุทธิ์ ส่วนเรื่องค่าครูยอมรับว่าตนไม่ได้มีการเรียกถึงขั้นหลักพันหรือหลักหมื่นบาท ที่ผ่านมาลูกศิษย์ที่ศรัทธาแล้วได้ตามปรารถนาก็จะนำสิ่งของมาให้ ค่าครูแค่ 100-200 บาท ส่วนหนึ่งตนเอาไว้ทำบุญตามวัดและศาสนาสถานต่าง ๆ
Advertisement