เจอตัวแล้ว “นุ 4 เมีย” ดวลปืน ตร.โผล่เขานั่งเผาปืน ขอน้ำชาวบ้านกิน พ่อแฉปมแค้นถูก “ดาบ น.” รีดส่วยยา (คลิป)
กรณีเหตุการณ์ นายสกล ภูโอบ หรือ นุ กระนวน อายุ 39 ปี บ้านโคกกลาง ต.ห้วยยาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เป็นบุคคลที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วยิง ร.ต.ต.นิเรศ นาคศรี รองสารวัตรสืบสวน สภ.กระนวน ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เป็นคนดีของแม่ เหตุเกิดที่บริเวณสวนยางพารา บ้านโคกลาง เมื่อ 29 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา 31 ส.ค. 65 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้รวบรวมหลักฐานยื่นขอหมายจับนายสกล หรือ นุ กระนวน แจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วย พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้อาวุธ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควร
ล่าสุด วันที่ 1 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านของนายนุ พบนายมนตรี อายุ 70 ปี พ่อของนายนุ บอกว่า ถึงตอนนี้ยืนยันว่าลูกชายยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งเมื่อวานนี้ที่ตำรวจเข้ามาค้นบ้าน นอกจากจะยึดปืนไป ยังยึดไฟล์กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในบ้านไปอีก 4 ตัว และนำตัวเพื่อนบ้านไปตรวจปัสสาวะอีก 1 คน ส่วนเมียของลูกชายที่ข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่า มี 4 คน ตำรวจเรียกตัวคนที่ 4 ไปสอบปากคำแค่คนเดียว
ถ้าหากวันนี้จะให้ล่าย้อนไปในวันเกิดเหตุ ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า หลังเกิดเหตุทาง ผกก.สภ.กระนวน เป็นคนมาบอกพ่อที่บ้านว่าลูกชายยิงตำรวจและถูกตำรวจยิงบาดเจ็บ วันนั้นหลังที่พ่อได้ทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจ จึงไปไล่ถามชาวบ้านว่าเรื่องมันเป็นไปเป็นมาอย่างไร กระทั่งได้ข้อมูลมาว่าก่อนเกิดเหตุ ไม่ลูกชายก็ดาบที่เป็นเจ้าของบ้าน ชวนกันไปกินหมูกระทะ จากนั้นพอช่วงบ่ายมีชาวบ้านโทรศัพท์ไปแจ้งกับตำรวจ สภ.กระนวน ว่าบ้านของดาบมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน จนตำรวจเข้ามาในพื้นที่และไล่ยิงลูกชาย ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าคนในวงหมูกระทะมีกันกี่คน
ตนยอมรับว่าตอนนี้ก็รู้สึกข้องใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นการวางแผนของดาบ น. จัดฉากเรียกลูกชายให้ไปยิงกับตำรวจหรือไม่ ถามว่าทำไมถึงต้องคิดเรื่องนี้ ไหน ๆ ก็พูดแล้วอยากจะแฉให้คนทั้งหมู่บ้านให้รู้ทั้งหมดว่าพฤติกรรมของดาบคนดังกล่าว ก็ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะในขณะที่ลูกชายค้ายา ลูกชายรวมถึงวัยรุ่นในหมู่บ้านต้องส่งเงินรายเดือนให้กับดาบ น. เดือนละประมาณ 5,000 บาทต่อคน เพื่อเป็นค่าคุ้มครอง ซึ่งหากวันเกิดเหตุตำรวจจงใจมาจับลูกชายจริง ทำไมไม่เข้ามาหาลูกชายที่บ้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็แวะเวียนเข้ามาหากันบ่อย ยอมรับตอนนี้เป็นห่วงลูกชายมากไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ยืนยันหลังลูกชายพ้นโทษก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
นอกจากนี้ ดาบ น. นอกจากจะมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ยังเสพยาอีกด้วย วันเกิดเหตุส่วนตัวดชื่อว่าดาบชวนลูกชายไปกินหมูกระทะ เพื่อไปต่อรองเรื่องเงิน เพราะก่อนจะเกิดเหตุลูกชายเคยมาเล่าให้ฟังว่าถูกดาบบีบให้จ่ายเงินจำนวน 30,000 บาทต่อเดือน ถ้าหากจะค้ายาในพื้นที่ต่อ และตอนเกิดเหตุลูกชายคงจะคุยกันไม่ลงตัว ดาบจึงเรียกกำลังมาจับลูกชาย เนื่องจากลูกชายมีปืนติดตัว กระทั่งยิงต่อสู้กันตามที่ปรากฏ
เมื่อพ่อของนายนุไม่เชื่อว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ เพราะวันเกิดเหตุตำรวจบอกว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงบอกกับทีมข่าวให้พาไปดูในที่เกิดเหตุ ถึงเส้นทางที่ลูกชายวิ่งหนีตำรวจ และเมื่อไปถึงที่สวนยาง พ่อของนายนุก็ยังไม่เชื่อว่าลูกชายจะหนีรอดจากคมกระสุนของตำรวจ พยายามบอกกับทีมข่าวให้ช่วยแกะรอยตามหาในป่า
จนกระทั่งวันนี้ ทีมข่าวก็ได้พาพ่อของนายนุ ไปตามหาเบาะแสลูกชายที่วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวงในพื้นที่ อ.กระนวน ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน ให้ช่วยออกตามหาลูกชาย จากนั้นเมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่เปิดเผยเพียงว่าหลังเกิดเหตุไม่พบร่องรอยหรือเบาะแสของเจ้าตัวหนีมาในเขตอุทยาน ออกไปตามหาก็ไม่มีประโยชน์ เพราะทางอุทยานได้เบาะแสว่ามีชาวบ้านที่ออกเก็บเห็ดพบตัวนายนุซ่อนตัวบนเขาภูโน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 3-5 กิโลเมตร
โดยนายบุญถักษ์ เหลาดวงดี หัวหน้าพิทักษ์ป่าอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อุทยานที่เดินลาดตระเวนอยู่ในป่า ได้ยินเสียงปืนแต่ไม่มีใครเห็นนายนุวิ่งผ่านเข้ามาในพื้นที่อุทยาน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อุทยานก็ได้ช่วยตำรวจออกค้นหาตัวนายนุตามป่าเส้นทางที่หลบหนี แต่ก็ไม่มีใครพบร่องรอย จนกระทั่งเมื่อวานนี้ประมาณ 08.00 น. ทางอุทยานได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปหาเห็ดบนเขาภูโนว่าไปพบตัวนายนุอยู่บนเขา ในสภาพร่างกายที่อิดโรย และไม่พบบาดแผลที่นายนุถูกตำรวจยิง
โดยชาวบ้านคนดังกล่าวยังให้ข้อมูลกับทางอุทยานว่า ตอนที่เจอนายนุได้เดินมาขอน้ำกิน เมื่อชาวบ้านรู้ว่าเป็นคนก่อเหตุยิงตำรวจ จึงเลิกเก็บเห็ดลงจากเขา และแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่อุทยาน กระทั่งตำรวจนำกำลังไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบตัวนายนุ
Advertisement
